ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯ

ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘สุรสิทธิ์ ธรรมภาษา’ รองนายก อบต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. กรณีพ้นตำแหน่งให้ครบถ้วน ปมรถยนต์ หนี้เงินกู้ สั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 18 มกราคม 2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า นายสุรสิทธิ์ ธรรมภาษา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สักหลงอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.สักหลง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

วันที่ 18 เดือน มกราคม พุทธศักราช 2567

ระหว่าง

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง

กับ นายสุรสิทธิ์ ธรรมภาษา ผู้ถูกกล่าวหา

เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและลงโทษผู้ถูกกล่าวหา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1) และมาตรา 167

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

พิเคราะห์คำร้อง เอกสารตามคำร้อง และคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เนื่องจากได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักหลง ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งแล้ว แต่ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งภายในวันที่ 29 กันยายน 2561 ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ดำเนินการ ผู้ร้องจึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 และในวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ผู้ถูกกล่าวหาได้มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง แต่ยังยื่นเอกสารประกอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินไม่ถูกต้องครบถ้วน ผู้ร้องจึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในวันที่ 28 กันยายน 2564 และได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติม แต่ยังไม่ดำเนินการยื่นเอกสารประกอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติม ได้แก่ เอกสารเกี่ยวกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กต 6270 เพชรบูรณ์ ที่ได้ทะเบียนใหม่เป็นหมายเลขทะเบียน 3 ขท 5902 กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2565 และเอกสารที่เกี่ยวกับหนี้เงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งได้ความจากการสอบปากคำนางสาวสายฝน จันทร์หอม ว่า เกี่ยวกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กต 6270 เพชรบูรณ์ ตนซื้อมาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 25559 ใช้งานได้ประมาณสองปี แล้วขายให้กับผู้ถูกกล่าวหาไปผ่อนชำระค่างวดต่อกับธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ต่อมาเมื่อปี 2565 ผู้ถูกกล่าวหาได้ให้ตนซึ่งขณะนั้นยังมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ไปเซ็นสัญญาขายรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อปิดบัญชี ส่วนเอกสารที่เกี่ยวกับหนี้เงินกู้จากการตรวจสอบหลักฐานจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรพบว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นคำขอหนังสือรับรองหนี้ ณ วันที่ 6 มกราคม 2565 ระบุเหตุผลในการขอ “ยื่น ป.ป.ช.” ซึ่งธนาคารเตรียมเอกสารและส่งมอบให้ลูกค้าภายในวันเดียวกัน แต่ไม่ปรากฎว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ติดต่อเพื่อขอยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อผู้ร้องแต่อย่างใด

ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ หรือไม่

เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงเป็นรองผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งภายใน 60 วัน นับแต่วันถัดจากวันพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 มาตรา 105 วรรคสอง วรรคสาม (1) ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องเป็นหน้าที่สำคัญของรองผู้บริหารท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อให้การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของคณะผู้บริหารท้องถิ่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการทุจริต ด้วยการให้บุคคลที่จะเข้าสู่ตำแหน่งต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อเข้าสู่ตำแหน่งและเมื่อพ้นจากตำแหน่งอันจะทำให้ผู้ร้องสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างผิดปกติภายหลังการดำรงตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งแล้ว ยิ่งมีเหตุให้เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบรายละเอียดและที่มาแห่งทรัพย์สินรวมทั้งหนี้สินของตน และทราบว่าตนมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วนกรณีพ้นจากตำแหน่งตามที่กฎหมายกำหนด การที่ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่งมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องภายหลังจากผู้ร้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ทั้งยังไม่ดำเนินการยื่นเอกสารประกอบบัญชีแสดงรายกรทรัพย์สินและหนี้สินให้ครบถ้วน ได้แก่ เอกสารเกี่ยวกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กต 6270 เพชรบูรณ์ และเอกสารที่เกี่ยวกับหนี้เงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหาทราบถึงการมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว ทำให้ผู้ร้องไม่อาจตรวจสอบบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหาตามที่มีอยู่จริงให้เกิดความถูกต้อง ย่อมมีผลเช่นเดียวกับการไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องเมื่อพิจารณาประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 นอกจากนี้การกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย

พิพากษาว่า นายสุรสิทธิ์ ธรรมภาษา ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักหลงอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฎว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

100224 worf1

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองปี 2567:

ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2566 (เผยแพร่ ม.ค.2566-26 ม.ค.2567) :

คดี ปี 2565 - ก่อนหน้า :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage