ต่อเนื่อง! คำพิพากษา 4 คดีนักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ นายก อบต. เขาขาว จ.สตูล รองนายกเทศฯบ้านนา นครนายก รองฯ อบต.บึงนคร ร้อยเอ็ด รองนายกเทศฯศาลายา นครปฐม ห้ามดำรงตำแหน่ง 5 ปี จำคุกคนละ 1-2 เดือน ปรับ 4,000-8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปีรวด
คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมืองท้องถิ่นคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 23 มี.ค. 2563 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง จำนวน 5 คดี ในจำนวนนี้ 4 คดี เป็นกรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบซึ่งเป็นคดีที่สำนักข่าวอิศรายังไม่เคยนำข้อมูลมารายงาน
1.นายเวียง เตบเส็น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
2.นายเอกพงษ์ หุ่นวิจิตร รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านนา อ.บ้านนา จ.นครนายก ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2555 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
3.นายธเนตร คุ้มห้างสูง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บึงนคร อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2556 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
4.นายวสุ ปริยพาณิชย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 19 มกราคม 2556 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
ส่วน รายที่ 5 คือ นายธัญญ์นิธิ หรือ วิภัส เรืองวุฒิโรจน์ หรือแซ่เตีย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จฯ นั้น สำนักข่าวอิศราเคยนำข้อมูลมารายงานแล้วเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 (อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : ให้พ้นทันที! ศาลฎีกาฯฟันนายกเทศมนตรี จ.ศรีสะเกษ ยื่นบัญชีเท็จ ซุกที่ดิน ส.ป.ก ด้วย)
สำหรับรายละเอียด 4 คดีดังนี้
1.นายเวียง เตบเส็น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต.เขาขาว เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2552และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่ง โดยปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน ได้แก่ รถยนต์หมายเลขทะเบียน กข 8902 สตูล หนี้เช่าซื้อ บริษัท อยุธยา แคปปิตอลออโต้ลีส จำกัด (มหาชน) รถยนต์หมายเลขทะเบียน กค 4620 สตูล จำนวน 275,600 บาท และไม่แนบสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2555 และผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีโดยปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบรายการหนี้สินของตน ได้แก่ เงินกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน899,989.05 บาท หนี้เช่าซื้อ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด (มหาชน) รถยนต์ หมายเลขทะเบียน กค 4620 สตูล จำนวน 244,383.85 บาท หนี้เช่าซื้อ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด (มหาชน) รถยนต์หมายเลขทะเบียน กข 8902 สตูล จำนวน528,219.93 บาท และไม่แนบสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2556
พิพากษาว่า นายเวียง เตบเส็น ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.เขาขาว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนญูว่าด้วยการและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.175/2562 วันที่ 10 ก.ค.2562)
2.นายเอกพงษ์ หุ่นวิจิตร รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านนา อ.บ้านนา จ.นครนายก จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านนา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2555 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่ง โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินลงทุนห้างหุ้นส่วนจำกัด อาร์ แอนด์ แอล แอพพาเรล จำนวน 100,000 บาท เงินฝากในบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 7,945.84 บาท กรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากในบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 18,042.76 บาท
กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากในบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 17,670.83 บาท เงินฝากในบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 6,135.24 บาท สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งผู้ร้องเห็นควรยุติการดำเนินการเนื่องจากคดีขาดอายุความทางอาญา
พิพากษาว่า นายเอกพงษ์ หุ่นวิจิตร ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านนา ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาทผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.185/2562 วันที่ 11 ก.ค.2562)
3.นายธเนตร คุ้มห้างสูง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บึงนคร อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2553 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.บึงนคร และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2554 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาร้อยเอ็ดจำนวนเงิน 11,891.13 บาท และที่ดินโฉนดเลขที่ 37162 ตำบลบึงนคร อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ดและไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)สาขาร้อยเอ็ด 2 บัญชี จำนวนเงิน 32,069.26 บาท และ 1,000 บาท และรถจักรยานยนต์ 1 คันและผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2557 โดยไม่แสดงรายการที่ดินโฉนดเลขที่ 37162 ตำบลบึงนคร อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ ที่ดินโฉนดเลขที่ 63621 ตำบลบึงนคร อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้ร้องแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย ผู้ร้องมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องเป็นคดีนี้ สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งคดีขาดอายุความทางอาญาแล้ว
พิพากษาว่า นายธเนตร คุ้มห้างสูง ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.บึงนคร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.186/2562 วันที่ 11 ก.ค.2562)
4.นายวสุ ปริยพาณิชย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑลจังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2556 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลศาลายา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 และยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2557
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา กรณีเข้ารับตำแหน่งโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 3 บัญชี กรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาได้แก่ เงินฝากธนาคาร 3 บัญชี และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 4 บัญชี
พิพากษาว่า นายวสุ ปริยพาณิชย์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 19 มกราคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.198/2562 วันที่ 31 ก.ค.2562)
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
4 คดีนายก อบต.-รองฯ สกลนคร ราชบุรี พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ยื่นเท็จ -ไม่ยื่นบัญชีฯ
คุก 4 เดือน! นายกเทศฯสระโบสถ์ จ.ลพบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ1 ปี-เคยถูก จนท.ค้นบ้าน
ศาลฎีกาฯฟัน 3 รายคดีบัญชีทรัพย์สิน! ให้รองนายกเทศฯ ในอยุธยา พ้นตำแหน่ง ซุกเพียบ
ส.จ.สระบุรีรอด! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ไม่ยื่นฯป.ป.ช. รถกระบะเก่า 1 คัน เงินฝาก 5,099.27 บาท
ศาลฎีกาฯ‘จำคุก-รอลงโทษ’รองนายกเทศฯ จ.พัทลุง - นายก อบต. สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ
2 นายกเทศฯสมุทรสงคราม - บางริ้น จ.ระนอง ยื่นบัญชีเท็จ ศาลจำคุก 1-2 เดือน รอฯ 1 ปี
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน ปลัดเทศบาล จ.สมุทรสาคร ยื่นเท็จ-คุก 2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
คดีขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบต. แสนทอง จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ
คุก 1 เดือน นายก อบต. ใน จ.สิงห์บุรี ปัตตานี คดีบัญชีทรัพย์สิน -รอลงโทษ 1 ปี
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต.บางพรม จ.สมุทรสงคราม รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศมนตรี จ.สุรินทร์ ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช. 4 ครั้ง
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีฯเท็จ เหตุขาดอายุความ-เคยถูก ตร.ยุคบิ๊กโจ๊กสอบ
ศาลฎีกาฯคุก 1 ด.-รอลงโทษ รองนายกอบต. จ.สตูล -รองเทศมนตรี จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ลอตใหม่ปี 63 !ศาลฎีกาฯฟัน 6 คดีบัญชีทรัพย์สิน-ให้นายก อบต.บางขนุน นนทบุรี พ้นทันที
รายชื่อ 117 นักการเมือง ถูกศาลฎีกาฯฟันคดียื่นบัญชีทรัพย์สิน-ท้องถิ่น 110 คน
INFO: 28 นักการเมือง หลุดคดีบัญชีทรัพย์สิน ปี 62
รายชื่อ 28 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สินปี 62
INFO: 117 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ฟัน จงใจยื่น‘บัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ป.ป.ช. ปี 2562
ปี 62 นักการเมือง 117 คนถูกศาลฎีกาฯฟันคดีบัญชีทรัพย์สิน-รองนายก อบต.มากสุด 51 ราย