ศาลฎีกาฯ พิพากษา รองนายกเทศมนตรี ต.ห้วยกระบอก จ.ราชบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช. ‘สมรส’ แต่แจ้งสถานะ ‘โสด’ ไม่แสดงเงินฝาก 7 บัญชี บ้าน ที่ดิน เงินกู้ยืม สั่งให้พ้นตำแหน่งปัจจุบัน เลขาฯนายก นับจากวันรับคำร้อง จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี ปรับ 4,000 บาท เว้นวรรค 5 ปี อีก 1 กระทง ขาดอายุความ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 พ.ค.2563 เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ราย นายธนเสฏฐ์ ศิริพงษ์ธรรม รองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก จ.ราชบุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กรณีเข้ารับตำแหน่งกรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
พิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก ให้พ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก จังหวัดราชบุรี นับแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2562 และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุก ให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี
ส่วนข้อกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีฯกรณีเข้ารับตำแหน่ง ขาดอายุความ 5 ปี และ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่ใช้ในภายหลังไม่ได้กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช่นผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีฯ ผู้ถูกกล่าวหาจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดในความผิด
มีรายละเอียดดังนี้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กรณีเข้ารับตำแหน่งกรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอกจังหวัดราชบุรี ขอให้ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำ แหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำ แหน่งและให้พ้นจากตำ แหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก จังหวัดราชบุรี ในวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับลงโทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34, 119 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
พิเคราะห์คำร้อง เอกสารประกอบคำร้อง และคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว องค์คณะเสียงข้างมากมีมติเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ต่อมาวันที่ 12 เมษายน 2559 ซึ่งพ้นกำหนดยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบโดยระบุสถานภาพ ในแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินว่า “โสด” แต่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหามีสถานภาพ “สมรส” และผู้ถูกกล่าวหาไม่แจ้งทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบของคู่สมรส กรณีเข้ารับตำแหน่งผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องโดยไม่แสดงรายการ เงินฝากธนาคารของผู้ถูกกล่าวหา 7 บัญชี รายการที่ดินของผู้ถูกกล่าวหา 1แปลง โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างของผู้ถูกกล่าวหา 1 หลัง เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินของผู้ถูกกล่าวหา 1 แห่ง
กรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารของผู้ถูกกล่าวหา 6 บัญชี รายการที่ดินของผู้ถูกกล่าวหา 1 แปลง โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างของผู้ถูกกล่าวหา 1 หลัง เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินของผู้ถูกกล่าวหา 1 แห่ง กรณีพ้นจากตำ แหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารของผู้ถูกกล่าวหา 6 บัญชี พฤติการณ์ดังกล่าวมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำ รงตำ แหน่งรองนายกเทศมนตรีตำ บลห้วยกระบอก จังหวัดราชบุรี
แต่ขณะผู้ร้องยื่นคำร้องคดีนี้ ปรากฏว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทำความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทำตามคำร้องในกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งยังคงให้เป็นความผิดและมีบทกำหนดโทษทางอาญาตามมาตรา 167 ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และกำหนดมาตรการบังคับทางการเมืองไว้ในมาตรา 81 ว่า “... ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาให้ผู้ต้องคำพิพากษานั้นพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นและจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปีด้วยหรือไม่ก็ได้”
ส่วนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดมีบทกำหนดโทษทางอาญาตามมาตรา 119 ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และกำหนดมาตรการบังคับทางการเมืองไว้ในมาตรา 34 วรรคสอง ว่า “ในกรณีที่ผู้ดำ รงตำ แหน่งทางการเมืองตามวรรคหนึ่งพ้นจากตำ แหน่งก่อนวันที่ความปรากฏ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระยะเวลาห้าปีตามวรรคหนึ่งให้นับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว” ดังนั้น พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังได้กำหนดมาตรการทางการเมืองและมาตรการทางอาญาในกรณีพ้นจากตำแหน่ง ไม่เป็นคุณแก่ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดบังคับแก่คดี
สำหรับกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่ใช้ในภายหลังไม่ได้กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช่นผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง จึงเป็นกรณีที่กฎหมายที่บัญญัติในภายหลังกำหนดว่าการกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป ผู้ถูกกล่าวหาจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดในความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอกมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
ส่วนกรณีเข้ารับตำแหน่ง องค์คณะเสียงข้างมากเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2555 เมื่อผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินภายในกำหนด ความผิดจึงเกิดขึ้นในวันที่ครบกำหนดดังกล่าว หาใช่ความผิดเกิดขึ้นเมื่อปี 2559 อันเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหานำบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินไปยื่นต่อผู้ร้องไม่ เพราะหากจะแปลความว่า อายุความต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้ถูกกล่าวหานำบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินไปยื่นต่อผู้ร้องก็ย่อมเป็นการขยายอายุความซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักการแปลความกฎหมายที่ใช้บังคับในทางอาญา ดังนั้น ความผิดฐานนี้มีระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท ผู้ร้องจะต้องยื่นคำร้องและได้ตัวผู้กระทำความผิด มายังศาลภายในห้าปีนับแต่วันกระทำความผิด เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องและนำตัวผู้ถูกกล่าวหามาศาลในวันที่ 18 ธันวาคม 2561 จึงพ้นกำหนดอายุความดังกล่าวแล้ว ความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จสำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งจึงขาดอายุความ แม้ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ ก็ไม่อาจลงโทษทางอาญาสำหรับกรณีนี้แก่ผู้ถูกกล่าวหาได้ จึงต้องยกคำร้องในส่วนนี้
เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามที่วินิจฉัยมาข้างต้นฟังได้เพียงว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดฐานเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก จังหวัดราชบุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34, 119 แต่เพียงกระทงเดียว
พิพากษาว่า นายธนเสฏฐ์ ศิริพงษ์ธรรม ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก จังหวัดราชบุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก จังหวัดราชบุรี นับแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งรับคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระบอก จังหวัดราชบุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30 ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 243/2562 นที่ 18 เกันยายน 2562)
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
ยกคำร้องอีกราย! นายก อบต.ใน จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ 5 ปี
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ผู้สมัคร ส.ส.มุกดาหาร ยุคนั่ง นายก อบต.ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
อีกราย! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯ จ.พิษณุโลก ยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ 5 ปี
ขาดอายุความ 5 ปี! ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง นายก อบต.โกรกพระ นครสวรรค์ ซุกทรัพย์สิน
ให้พ้นตำแหน่งทันที! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศฯนครสกลนคร ไม่แจ้งถือหุ้น 45.6 ล.
ศาลฎีกาคุก 1 เดือน นายก อบต. จ.สุโขทัย-รองนายกเทศฯมุกดาหารยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง คดี ส.จ.ลพบุรี-รองนายกเทศฯ จ.ระนอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน อดีต ส.ส.นนทบุรีช่วงนั่งรองนายกฯท.-รอลงโทษ 1 ปี
นายก อบต.ปากท่อ ราชบุรี ยื่นเท็จ! ศาลฎีกาฯฟัน 3 รายคดีบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษจำคุกรวด
ศาลฎีกาฟันอีก 4 นักการเมืองท้องถิ่น นครพนม สระบุรี ปัตตานี อุบลฯ คดีบัญชีทรัพย์สิน
ปกปิดทรัพย์สิน! ศาลฎีกาฯฟันอีก 4 นักการเมืองท้องถิ่น สตูล นครนายก ร้อยเอ็ด นครปฐม
4 คดีนายก อบต.-รองฯ สกลนคร ราชบุรี พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ยื่นเท็จ -ไม่ยื่นบัญชีฯ
คุก 4 เดือน! นายกเทศฯสระโบสถ์ จ.ลพบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ1 ปี-เคยถูก จนท.ค้นบ้าน
ศาลฎีกาฯฟัน 3 รายคดีบัญชีทรัพย์สิน! ให้รองนายกเทศฯ ในอยุธยา พ้นตำแหน่ง ซุกเพียบ
ส.จ.สระบุรีรอด! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ไม่ยื่นฯป.ป.ช. รถกระบะเก่า 1 คัน เงินฝาก 5,099.27 บาท
ศาลฎีกาฯ‘จำคุก-รอลงโทษ’รองนายกเทศฯ จ.พัทลุง - นายก อบต. สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ
2 นายกเทศฯสมุทรสงคราม - บางริ้น จ.ระนอง ยื่นบัญชีเท็จ ศาลจำคุก 1-2 เดือน รอฯ 1 ปี
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน ปลัดเทศบาล จ.สมุทรสาคร ยื่นเท็จ-คุก 2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
คดีขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบต. แสนทอง จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ
คุก 1 เดือน นายก อบต. ใน จ.สิงห์บุรี ปัตตานี คดีบัญชีทรัพย์สิน -รอลงโทษ 1 ปี
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต.บางพรม จ.สมุทรสงคราม รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศมนตรี จ.สุรินทร์ ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช. 4 ครั้ง
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีฯเท็จ เหตุขาดอายุความ-เคยถูก ตร.ยุคบิ๊กโจ๊กสอบ
ศาลฎีกาฯคุก 1 ด.-รอลงโทษ รองนายกอบต. จ.สตูล -รองเทศมนตรี จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ลอตใหม่ปี 63 !ศาลฎีกาฯฟัน 6 คดีบัญชีทรัพย์สิน-ให้นายก อบต.บางขนุน นนทบุรี พ้นทันที
รายชื่อ 117 นักการเมือง ถูกศาลฎีกาฯฟันคดียื่นบัญชีทรัพย์สิน-ท้องถิ่น 110 คน
INFO: 28 นักการเมือง หลุดคดีบัญชีทรัพย์สิน ปี 62
รายชื่อ 28 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สินปี 62
INFO: 117 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ฟัน จงใจยื่น‘บัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ป.ป.ช. ปี 2562
ปี 62 นักการเมือง 117 คนถูกศาลฎีกาฯฟันคดีบัญชีทรัพย์สิน-รองนายก อบต.มากสุด 51 ราย