ความรุนแรงจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่มีที่ท่าว่าจะลดลง แม้จะเป็นช่วงเดือนรอมฎอนที่ทางภาครัฐพยายามจะเปิดแคมเปญ “รอมฎอนสันติสุข” ปราศจากการก่อเหตุรุนแรง แต่ก็ไม่เป็นผล ยังคงเกิดเหตุร้ายรูปแบบต่างๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่องแทบทุกวัน
“เมื่อใดที่ใต้สงบ ต้องสร้างอนุสาวรีย์ให้อีโอดี”
ช่วงนี้มีการเปิดภาพ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ที่กลายเป็น “หมู่บ้านร้าง” เชิงดอยสุเทพ ใกล้กับห้วยตึงเฒ่า จ.เชียงใหม่ เตือนความจำกันอีกครั้ง เนื่องจากมีความคืบหน้าทางคดี
เหตุการณ์ความไม่สงบซึ่งเกิดอย่างต่อเนื่องหลายวันในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ และหลายพื้นที่เป็นเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ กลายเป็นแรงกระตุกให้สังคมไทยหันมาสนใจปัญหาที่ปลายด้ามขวานกันอีกครั้ง
นอกจากเหตุโจมตีด้วยระเบิดขนาดใหญ่ และใช้กองกำลังบุกยิงถล่มที่ตั้งของหน่วยราชการและฝ่ายความมั่นคง เหมือนที่เพิ่งเกิดที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสแล้ว
เหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อช่วงค่ำของวันพุธที่ 5 มี.ค.68 ซึ่งคนร้ายขว้างระเบิดลงบนถนน บริเวณสี่แยกใกล้ทางพาดรถไฟกลางเมืองยะลา ท่ามกลางรถบรรทุกสิบล้อและรถจักรยานยนต์ของพี่น้องประชาชนกำลังจอดติดไฟแดงอยู่หลายคัน มีคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดเผยแพร่ออกมา สร้างความตื่นตะลึงไปทั่ว
พูดถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาพที่สังคมไทยมองกลับเข้าไปยังรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ก็คือ
เกิดเหตุการณ์ที่หวังสร้างความปั่นป่วนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 เหตุการณ์ ก่อนอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางลงพื้นที่ในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ.68
ยุทธศาสตร์ใหม่ดับไฟใต้ที่ รองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย สั่งให้มีการทบทวน เริ่มมองเห็นเค้าลางบ้างแล้ว เมื่อเลขาธิการ สมช. ออกมาพูดถึงการฟื้นแนวทางตามนโยบาย 66/23 ขึ้นมาปรับใช้ใหม่
“ภูมิธรรม” เผยปรับยุทธศาสตร์ทบทวนการทำงานแก้ปัญหาชายแดนใต้ มุ่งลดภารกิจลดเสี่ยง ตำรวจทหารและผู้ปฎิบัติงานในพื้นที่ โดยรัฐบาลพร้อมหนุนทุกภารกิจ