เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต!รองนายก อบต.หน้าพระธาตุ ชลบุรี ยื่นบัญชีเท็จ ป.ป.ช.

picppckkfgtfsasassasasasa5 29 65

ซ้ำรอย รองนายก อบต.มวกเหล็ก จ.สระบุรี! ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘อรัญ น้อยดี' รองนายก อบต.หน้าพระธาตุ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. กรณีพ้นตำแหน่ง ไม่แสดงเงินฝากธนาคาร 6 บัญชี 9.5 ล้าน เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปจําคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจําคุกให้รอการลงโทษมีกําหนด 1 ปี

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พฤภาคม 2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า นายอรัญ น้อยดี ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ หนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้ง ให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุ อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 โดยไม่แสดงทรัพย์สินของตนเอง รวม 6 รายการ ได้แก่ เงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) สาขาเทสโก้โลตัส อมตะนคร จํานวน 1,894,479.78 บาท เงินฝากธนาคารกรุงไทยจํากัด (มหาชน) สาขาพนัสนิคม จํานวน 720,650 บาท เงินฝากธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สาขาพนัสนิคม จํานวน 3,028,388.84 บาท เงินฝาก ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สาขาพนัสนิคม จํานวน 952,834.04 บาท เงินฝาก ธนาคารกรุงไทยจํากัด (มหาชน) สาขาพานทอง จํานวน 1,514,194.41 บาท และเงินฝาก ธนาคารกรุงไทยจํากัด (มหาชน) สาขาพนัสนิคม จํานวน 1,418,155.94 บาท รวมเป็นเงิน 9,528,703.01 บาท ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจําคุก ให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้

ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง

นายอรัญ น้อยดี ผู้ถูกกล่าวหา

เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุ อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เป็นผู้บริหารท้องถิ่นจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุ อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 และ 167

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

พิเคราะห์คําร้อง ประกอบเอกสารท้ายคําร้อง และคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วน ตําบลหน้าพระธาตุ อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2556 และพ้นจาก ตําแหน่งเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 โดยไม่แสดงทรัพย์สินของตนเองรวม 6 รายการ ได้แก่ เงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) สาขาเทสโก้โลตัส อมตะนคร จํานวน 1,894,479.78 บาท เงินฝากธนาคารกรุงไทยจํากัด (มหาชน) สาขาพนัสนิคม จํานวน 720,650 บาท เงินฝากธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สาขาพนัสนิคม จํานวน 3,028,388.84 บาท เงินฝาก ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สาขาพนัสนิคม จํานวน 952,834.04 บาท เงินฝาก ธนาคารกรุงไทยจํากัด (มหาชน) สาขาพานทอง จํานวน 1,514,194.41 บาท และเงินฝาก ธนาคารกรุงไทยจํากัด (มหาชน) สาขาพนัสนิคม จํานวน 1,418,155.94 บาท

ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และ มีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุหรือไม่

เห็นว่า เมื่อผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุ จึงเป็นผู้บริหารท้องถิ่นและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของ ตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องเมื่อพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 การที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของตนมีมูลค่ารวมเป็นเงิน 9,528,703.01 บาท ผู้ถูกกล่าวหาย่อมต้องรู้ถึงการมีอยู่ของทรัพย์สิน และหนี้สินดังกล่าวเป็นอย่างดี ทั้งนี้การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องโดยถูกต้องตรงกับความจริงเป็นหน้าที่สําคัญของผู้บริหารท้องถิ่นที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน เพื่อป้องปรามผู้ใช้อํานาจรัฐโดยมิชอบ ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุ มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง และการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวยังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย

พิพากษาว่า นายอรัญ น้อยดี ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ หนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้ให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหน้าพระธาตุ อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.8/2565 วันที่ 23 พ.ค.2565)

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 พฤภาคม 2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า นางสาวกิติยา วาดเขียน รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) มวกเหล็ก อําเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินเท็จต่อป.ป.ช. ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ด้วยเช่นกัน

news t 2805 p1

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินอื่น

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage