ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน รองนายก ทต.เชิงเนิน จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี

07102566 q3

คำพิพากษาศาลฎีกาฯ ‘พยงค์ บินฮารูน’ รองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนิน จ.ระยอง จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินฯเท็จ ไม่แสดงโฉนดที่ดิน 5 แปลง เงินฝากเมีย 4 บัญชีฯกว่า 1.6 ล. ห้ามดํารงตําแหน่งการเมือง 5 ปี จําคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รับสารภาพให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 1 ปี ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งแต่เฉย

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 13 ก.ย.2566 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า นายพยงค์ บินฮารูน รองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนิน อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง

และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 16 มีนาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่พ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนิน ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี (คดีหมายเลขดําที่ อม. 12/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม.26/2566 วันที่ 13 ก.ย.2566) รายละเอียดดังนี้

07102566 q1

วันที่ 13 เดือน กันยายน พุทธศักราช 2566

ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง

นายพยงค์ บินฮารูน ผู้ถูกกล่าวหา

เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนิน อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167 ประกอบมาตรา 188

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ โดยขอสละถ้อยคำในเชิงปฏิเสธที่ให้การไว้ต่อผู้ร้องในชั้นไต่สวนเสียทั้งสิ้น

พิเคราะห์คําร้อง เอกสารประกอบคําร้องและคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนิน อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง อันเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องภายในสามสิบวันนับแต่วันเข้ารับตําแหน่ง วันพ้นจากตําแหน่ง และวันที่พ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ที่ใช้บังคับในขณะนั้น ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งดังกล่าว วันที่ 16 มีนาคม 2561

ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบกรณีพ้นจากตําแหน่งต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กําหนดแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สินของตน ได้แก่ ที่ดินโฉนดเลขที่ 137846 และเลขที่ 137847 ตําบลเชิงเนิน อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ที่ดินโฉนดเลขที่ 2865 เลขที่ 21885 และเลขที่ 21888 ตําบลเกาะไร่ อําเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา กับทรัพย์สินของนางบังอร บินฮารูน คู่สมรสของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่เงินฝากในบัญชีธนาคารกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) บัญชีธนาคารออมสิน 2 บัญชี และธนาคาร อิสลามแห่งประเทศไทย 2 บัญชี

ผู้ร้องแจ้งผู้ถูกกล่าวหาให้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ถูกต้อง แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย ผู้ถูกกล่าวหามาให้ถ้อยคําและชี้แจงเหตุผลที่ไม่ได้ยื่นต่อผู้ร้องแต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ถูกต้อง ผู้ร้องเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบแล้ว

ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนินตามคําร้องหรือไม่

เห็นว่า แม้พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งมีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 จะบัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ก็ตาม แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง, 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังยังคงบัญญัติให้การจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งเป็นการกระทําที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายกับมีความผิดและระวางโทษไว้ทํานองเดียวกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32, 33, 119 โดยมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้ กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําความผิดบังคับแก่คดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง

แต่องค์ประกอบความผิดตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง, 167 ในส่วนที่ว่า และมีพฤติการณ์ อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น เป็นคุณแก่ผู้ถูกกล่าวหามากกว่ากฎหมายเดิม ศาลจึงต้องนําพฤติการณ์ดังกล่าวมาประกอบการวินิจฉัยการกระทําความผิดด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ที่บัญญัติให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณไม่ว่าในทางใด ส่วนมาตรการบังคับทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 มิใช่กฎหมายที่ใช้บังคับในขณะกระทําความผิด จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 บังคับแก่คดี

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบกรณีพ้นจากตําแหน่งต่อผู้ร้องภายในกําหนดแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สินของตนและคู่สมรสต่อผู้ร้องให้ครบถ้วน รายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาได้แก่

ที่ดินโฉนดเลขที่ 137846 ตําบลเชิงเนิน อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เนื้อที่ 30 ตารางวา มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับนายอนันต์ เลาะหนับ

ที่ดินโฉนดเลขที่ 137847 ตําบลเชิงเนิน อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เนื้อที่ 30 ตารางวา มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาถือกรรมสิทธิ์ ร่วมกับนายอนันต์

ที่ดินโฉนดเลขที่ 2865 ตําบลเกาะไร่ อําเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 2 งาน 88 ตารางวา มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับนางอาอีซะห์ บินฮารูน

ที่ดินโฉนดเลขที่ 21885 ตําบลเกาะไร่ อําเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 20 ตารางวา

ที่ดินโฉนดเลขที่ 21888 ตําบลเกาะไร่ อําเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 1 ไร่ 42 ตารางวา มีชื่อ ผู้ถูกกล่าวหาถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับนายกอเด็ด บินฮารูน นางอะ ราเฮม และนายมานับ บินฮารูน

และทรัพย์สินของนางบังอรคู่สมรสของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ บัญชีเงินฝากธนาคารซึ่งมีชื่อ “นางบังอร บินฮารูน” เป็นเจ้าของบัญชี ดังนี้ บัญชีธนาคารกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) สาขาระยอง เลขที่บัญชี 277-2-30994-0 จํานวน 3,421.65 บาท บัญชีธนาคารออมสิน สาขาเนินพระ เลขที่บัญชี 020089702425 จํานวน 515.43 บาท ธนาคารออมสิน สาขาแพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น เลขที่บัญชี 020210036925 จํานวน 100.36 บาท ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขา ระยอง เลขที่บัญชี 0742001921 จํานวน 1,200,000 บาท และเลขที่บัญชี 0741019531 จํานวน 475,325.59 บาท วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565

ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งผู้ถูกกล่าวหาให้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารให้ครบถ้วนถูกต้องภายใน 7 วัน นับแต่ได้รับหนังสือ ตามสําเนาหนังสือเอกสารท้ายคําร้องหมายเลข 10 เมื่อครบกําหนดผู้ถูกกล่าวหามิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง แต่โทรศัพท์แจ้งว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไม่สามารถยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้ทัน จะมาพบผู้ร้องเพื่อชี้แจงภายหลัง

ต่อมาวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสมาให้ถ้อยคําต่อผู้ร้องถึงสาเหตุที่ไม่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว ตามสําเนาบันทึกถ้อยคําเอกสารท้ายคําร้อง หมายเลข 11 แต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ร้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาลงลายมือมือชื่อรับทราบข้อกล่าวหาและขอขยายเวลาชี้แจงข้อกล่าวหา 30 วัน

ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อกล่าวหาพร้อมสาเหตุที่ไม่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ตามสําเนาหนังสือเอกสารท้ายคําร้องหมายเลข 16 แต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงมิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องให้ครบถ้วนถูกต้อง

พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวเป็นการบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงไม่นําพาต่อหน้าที่ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ครบถ้วนถูกต้อง ทั้งที่ผู้ร้องได้แจ้งผู้ถูกกล่าวหาแล้วหลายครั้ง ผู้ถูกกล่าวหา กลับเพิกเฉย ข้อเท็จจริงยังได้ความจากบันทึกถ้อยคําของนางบังอรในชั้นไต่สวนว่า ผู้ถูกกล่าวหากับ นางบังอรแต่งงานกันตั้งแต่ปี 2524 โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกกล่าวหากับนางบังอรแยกกันอยู่ ประกอบกับทรัพย์สินที่ผู้ถูกกล่าวหามิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินมีมูลค่ารวมกันเป็นจํานวนสูง ผู้ถูกกล่าวหาย่อมต้องทราบถึงความมีอยู่หรือไม่มีอยู่จริงของทรัพย์สินดังกล่าวเป็นอย่างดี

การที่กฎหมายกําหนดให้ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อผู้ร้องก็เพื่อใช้ในการตรวจสอบการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของทรัพย์สินและหนี้สินระหว่างที่ดํารงตําแหน่งและใช้อํานาจรัฐ อันเป็นมาตรการป้องปรามมิให้ใช้อํานาจรัฐโดยมิชอบ ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องปฏิบัติตามบทกฎหมายด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามความจริง การที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในแต่ละกรณีด้วยข้อมูลผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ตนเองทราบดีอยู่แล้ว

ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพโดยขอสละถ้อยคําในเชิงปฏิเสธที่ให้การไว้ต่อผู้ร้องในชั้นไต่สวนเสียทั้งสิ้น เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินดังกล่าวให้ครบถ้วนถูกต้อง กรณีจึงเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และพฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินตามคําร้องของผู้ร้อง มีผลห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนิน

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง และการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวยังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 อีกบทหนึ่งด้วย

พิพากษาว่า นายพยงค์ บินฮารูน ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลเชิงเนิน อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง

กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรายอื่น :

คดี ปี 2565 -ก่อนหน้า :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage