เป็นที่น่าสังเกตว่า “รัฐบาลเศรษฐา 1” เดินหน้าขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไป ทั้งๆ ที่เคยประกาศเอาไว้ว่าจะยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทันที ถ้าเข้ามามีอำนาจเป็นรัฐบาล
รุ่นใหญ่ทำฮือฮา “อดีตประธานฯชวน” ลุกขึ้นอภิปรายแนะ “เศรษฐา” ใช้หลักนิติธรรมแก้ปัญหาชายแดนใต้ อย่าทำผิดซ้ำ “8 เม.ย.2544” ต้นเหตุความรุนแรงยืดเยื้อมาจนทุกวันนี้ ด้านนายกฯแจง 11 พรรคร่วมฯให้ความสำคัญแก้ปัญหาไฟใต้ อีกด้าน “รุ่นใหม่” ก็ไม่น้อยหน้า สส.นราฯ ภูมิใจไทย ขนลองกองตันหยงมัสพันกล่องแจกทั้งสภา
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ จำนวน 762 นาย ณ วันที่ 30 ส.ค.66 ให้มีผลวันที่ 1 ต.ค.66
ใกล้ครบ 1 เดือนโศกนาฏกรรมโกดังพลุระเบิดที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
จากเหตุการณ์คนร้ายขับรถยนต์เก๋งประกอบระเบิดเป็น “คาร์บอมบ์” จอดทิ้งกลางสี่แยกอรกานต์อย่างอุกอาจ
เหตุระเบิดโกดังเก็บประทัดในตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้ประชาชน จำนวน 200 ครัวเรือนได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตัวเลขล่าสุดจำนวน 118 ราย เสียชีวิต 10 ราย
เรื่องหนึ่งที่พรรคการเมืองหลายพรรคพูดกันเยอะมากในช่วงของการรณรงค์หาเสียง โดยเฉพาะฝั่งพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล คือ นโยบายถอนทหารพ้นชายแดนใต้
ปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะการเลือกนายกรัฐมนตรีที่อาจจะยืดเยื้อ จบไม่ลง ส่งผลให้รัฐบาลชุดใหม่อาจไม่ได้มีส่วนร่วมในการ “จัดโผทหาร” ทั้งๆ ที่ปีนี้ผู้บัญชาการเหล่าทัพเกษียณพร้อมกันทุกเหล่าทัพ รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุดด้วย
ชาวบ้านหาของป่า และกลุ่มพราน ทั้งสมัครเล่นและพรานอาชีพ จัดเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาเนิ่นนาน
แม่ทัพภาค 4 เผยแผนลดทหารตามสถานการณ์ไฟใต้ คาดปี 70 กำลังทหารด้านความมั่นคงไม่มีแล้ว ส่วนกระแสข่าวแยกดินแดน ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพูดคุยแล้ว เชื่อไม่เกิดขึ้นอีก แต่ไม่เว้นดำเนินคดี