ศาลฎีกาฯปรับ 5,000 บาท ยกโทษจําคุก ส.อบจ.พังงา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ เหตุสถานการณ์โควิด

cttaattt

ศาลฎีกาฯ สั่งจําคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท ‘มโน ชูนุตร’สมาชิกสภา อบจ.พังงา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. องค์คณะเสียงข้างมาก ยกโทษจำคุก เหตุมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แนวโน้มรุนแรงต่อเนื่องไม่แน่ชัดว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ลงโทษจําคุกระยะสั้นไม่เป็น ปย.แก่สังคม ผู้ถูกกล่าวหา

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายางานว่าเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า นายมโน ชูนุตร ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา (ส.อบจ.พังงา) ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง จําคุก 2 เดือน และปรับ 10,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้ การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 5,000 บาท พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว องค์คณะเสียงข้างมากเห็นว่า ปัจจุบันมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งยังมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่องไม่แน่ชัดว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด การลงโทษจําคุกระยะสั้นไม่เป็นประโยชน์แก่สังคมและผู้ถูกกล่าวหา ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหามีอายุมากถึง 61 ปีเศษแล้ว โทษจําคุกจึงให้ยกเสียและคงปรับสถานเดียว รายละเอียดดังนี้

วันที่ 3 ก.พ.2565 ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง

นายมโน ชูนุตร ผู้ถูกกล่าวหา

เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลา ที่กฎหมายกําหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษฐานเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114, 167, 188

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

พิเคราะห์คําร้อง เอกสารประกอบคําร้อง และคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 และพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตําแหน่งแล้ว แต่ไม่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหาต้องโทษจําคุก 1 ปี 12 เดือน และกักขัง 60 วัน แทน ค่าปรับ 30,000 บาท ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ฐานร่วมกัน ยึดถือครอบครองทําประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ร่วมกันตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.2591/2560

ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีพ้นจากตําแหน่งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา หรือไม่

เห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทําความผิดยังคงบัญญัติ ให้การกระทําตามคําร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในขณะ กระทําผิดบังคับแก่คดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง ส่วนมาตรการจํากัดสิทธิ ทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ไม่เป็นคุณ จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 บังคับแก่คดี เมื่อข้อเท็จจริง รับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ผู้ถูกกล่าวหา จึงเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อผู้ร้องภายในสามสิบวันนับแต่วันเข้ารับตําแหน่งและวันพ้นจากตําแหน่งตามมาตรา 32 และมาตรา 33 ผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตําแหน่งแล้ว ย่อมทราบดีว่ามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องตามที่กฎหมายกําหนด แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับไม่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่ง ซึ่งการยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สําคัญของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ เพื่อให้การตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลดังกล่าวบรรลุผล ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การ รับสารภาพ พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น จึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา มีผลห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่งตามมาตรา 34 วรรคสอง นอกจากนี้ การกระทําของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกําหนดตามมาตรา 119 ด้วย

พิพากษาว่า นายมโน ชูนุตร ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง ตามมาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามมาตรา 119 จําคุก 2 เดือน และปรับ 10,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้ การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 5,000 บาท พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว องค์คณะเสียงข้างมากเห็นว่า ปัจจุบันมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งยังมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่องไม่แน่ชัดว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด การลงโทษจําคุกระยะสั้นไม่เป็น ประโยชน์แก่สังคมและผู้ถูกกล่าวหา ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหามีอายุมากถึง 61 ปีเศษแล้ว โทษจําคุก จึงให้ยกเสียและคงปรับสถานเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 55 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.2/2565 วันที่ 3 ก.พ.2565)

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินอื่น

ศาลฎีกาฯ จําคุก 1 เดือน นายกเทศฯต.เมืองบัว จ.ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯ เท็จ ป.ป.ช.รอลงโทษ 1 ปี

ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.ทับใต้ อ.หัวหิน ซุกเงินฝาก 17 บัญชี รอลงโทษ 1 ปี

ศาลฎีกาฯสั่งจําคุก 1 เดือน นายก อบต.กู่สันตรัตน์ จ.มหาสารคาม ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี

ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายกอบต.ประชาพัฒนา จ.มหาสารคาม ไม่แจ้งทรัพย์สินอื้อ-รอลงโทษ 1 ปี

ศาลฎีกาฯให้โอกาสกลับตัว!นายก อบต.ดงครั่งน้อย ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี

ศาลฎีกาฯห้ามดำรงตำแหน่งการเมืองตลอดชีวิต นายก อบต.หนองปลิง ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช.

ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน นายกเทศฯ จ.กาญจนบุรี ซุกทรัพย์สิน 47.5 ล. -รอลงโทษ 1 ปี

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืน ยกคำร้อง ส.อบจ.สระบุรี ไม่แจ้งเงินฝาก 5,099.27 บ.-รถเก่า 1 คัน5,099.27 บ.-รถเก่า 1 คัน

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืนยกคำร้องอดีตนายก อบจ.มุกดาหารยื่นบัญชีฯเท็จ คดีขาดอายุความ

ศาลฎีกาฯสั่งจําคุก 1 เดือนอดีตที่ปรึกษารมช.คมนาคม ซุกหุ้น 40.9 ล. ป.ป.ช. รอลงโทษ 1 ปี

ให้โอกาสอีกสักครั้ง!ศาลฎีกาฯสั่งจําคุก 1 เดือน ส.อบจ.อุทัยธานี ยื่นบัญชีเท็จอื้อ รอลงโทษ 1 ปี