คำพิพากษาฉบับเต็ม คดีนายกเทศฯ ต.บางเสร่ จ.ชลบุรี จงใจซุกทรัพย์สิน อย่างไร ?

picsuuppadfsasasasaassasasa7 15 65

เปิดรายละเอียดคำพิพากษาศาลฎีกาฯฉบับเต็ม คดี‘ชัยวัฒน์ อินอนงค์’ นายกเทศมนตรี ต.บางเสร่ จ.ชลบุรี จงใจยื่นบัญชีเท็จ ป.ป.ช. ไม่แจ้ง ที่ดิน 7 แปลง หุ้น บ.รับเหมาของตัวเองกับเมีย บ้าน 2 หลัง รถยนต์ 2 คัน หนี้เงินก็ ข้ออ้างฟังไม่ขึ้น ก่อนศาลฎีกาฯสั่งให้พ้นตำแหน่ง คุก 4 เดือน รอลงโทษ 1 ปี ปรับเงิน 16,000 บาท

ต้องคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้พ้นตำแหน่ง จําคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท โทษจําคุก ให้รอการ ลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี

นายชัยวัฒน์ อินอนงค์ นายกเทศมนตรีตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยไม่แสดงต่อ ป.ป.ช. ได้แก่ ที่ดินโฉนด และ น.ส.3 ก. ในอ.สัตหีบ 7 แปลง เงินลงทุนในธุรกิจรับเหมาของตนเองและคู่สมรส บ้าน และ รถยนต์ 2 คัน หนี้เงินกู้หลายรายการ

ให้พ้นตำแหน่ง! นายกเทศมนตรี ต.บางเสร่ ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 4 เดือน รอลงโทษ 1 ปี

ข้อเท็จจริงพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้เป็นอย่างไร?

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เรียบเรียงคำพิพากษามารายงาน

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.12/2565 วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายชัยวัฒน์ อินอนงค์ ผู้ถูกกล่าวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

@คำร้อง ป.ป.ช. กรณีรับตำแหน่งรองนายก ไม่แสดงที่ดิน 5 แปลง

ผู้ร้องยื่นคําร้องว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองนายกเทศมนตรี ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560 และพ้นจากตําแหน่ง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลบางเสร่ และยังดํารงตําแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และ บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงต่อผู้ร้อง แต่ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ ทราบ กล่าวคือ

กรณีเข้ารับตําแหน่ง ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ ที่ดิน โฉนดเลขที่ 54972,54973, 36218, 6787 และหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ราคาประเมิน 450,000 บาท 480,000 บาท 875,000 บาท 350,000 บาท และ 300,000 บาท ตามลําดับ

@กรณีพ้นจากตําแหน่ง ไม่แสดงหุ้นบ.รับเหมา ที่ดิน 7 แปลง บ้าน 2 หลัง รถเบนซ์ 1 คัน หนี้ 4 รายการ เมียด้วยหุ้น-รถ

และกรณีพ้นจากตําแหน่ง ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ รายการเงินลงทุนบริษัท ช. ทรัพย์เพิ่ม คอนสตรัคชั่น แอนด์ เดคคอร์เรท จํากัด 5,000 หุ้น มูลค่า 500,000 บาท ที่ดินโฉนดเลขที่ 54972, 54973, 36218, 6787, 44198 และหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760, 7754 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ราคาประเมิน 450,000 บาท 480,000 บาท 875,000 บาท 350,000 บาท 3,000,000 บาท 300,000 บาท และ 2,500,000 บาท ตามลําดับ สิ่งปลูกสร้าง บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ที่ 1 และบ้านเลขที่ 144/87 หมู่ที่ 3 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กรณีเข้ารับตําแหน่งประเมินมูลค่าไว้ 2,500,000 บาท และ 3,000,000 บาท ตามลําดับ รถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน 6 กง 731 กรุงเทพมหานคร มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ครอบครอง มูลค่าตามสัญญาเช่าซื้อ 610,000 บาท ไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ หนี้เงินกู้ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) สินเชื่อบ้านกสิกรไทย 4,260,504.13 บาท หนี้เงินกู้ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) สินเชื่อ บ้านเพื่อประกันชีวิตพิทักษ์สินกสิกรไทย 479,217.03 บาท หนี้เงินกู้ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) สินเชื่อตกแต่งบ้านกสิกรไทย 460,370.17 บาท และหนี้เงินกู้ธนาคารธนชาต จํากัด (มหาชน) 734,310 บาท และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนางสาววลีพร เสืออนันต์ คู่สมรส ผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ รายการเงินลงทุนบริษัทช. ทรัพย์เพิ่ม คอนสตรัคชั่น แอนด์ เดคคอร์เรท จํากัด 4,000 หุ้น มูลค่า 400,000 บาท และรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ขล 9012 ชลบุรี มีชื่อนางสาววลีพรเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครอง กรณีเข้ารับตําแหน่งประเมินมูลค่าไว้ 500,000 บาท

@ ข้อกล่าวอ้าง ฟังไม่ขึ้น

ผู้ถูกกล่าวหามีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้ร้องแล้ว แต่ผู้ร้องเห็นว่า รายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้แสดงผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และยังคงใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว และข้ออ้างทั้งหมดของผู้ถูกกล่าวหาไม่ใช่เหตุที่จะไม่นํารายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวมาแสดงต่อผู้ร้อง ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือ หนี้สินนั้น ขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167, 188 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

@ ใช้ที่ดิน 4 แปลง ค้ำประกันหนี้เงินกู้ บ.รับเหมา- 1 แปลงค้ำประกันหนี้บุคคล

ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ

พิเคราะห์พยานหลักฐานตามทางไต่สวนประกอบสํานวนไต่สวนของผู้ร้องแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองนายกเทศมนตรี ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560 และพ้นจากตําแหน่งเมื่อ วันที่ 1 มิถุนายน 2561 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบล บางเสร่ และยังดํารงตําแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมี คําสั่งให้รับคําร้องไว้พิจารณา ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตําแหน่ง โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ ที่ดิน โฉนดเลขที่ 54972, 54973, 36218, 6787 และหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ราคาประเมิน 450,000 บาท 480,000 บาท 875,000 บาท 350,000 บาท และ 300,000 บาท ตามลําดับ และกรณีพ้นจากตําแหน่ง ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ รายการเงินลงทุนบริษัท ช. ทรัพย์เพิ่ม คอนสตรัคชั่น แอนด์ เดคคอร์เรท จํากัด 5,000 หุ้น มูลค่า 500,000 บาท ที่ดินโฉนดเลขที่ 54972, 54973, 36218, 6787, 44198 และหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760, 7754 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ราคาประเมิน 450,000 บาท 480,000 บาท 875,000 บาท 350,000 บาท 3,000,000 บาท 300,000 บาท และ 2,500,000 บาท ตามลําดับ สิ่งปลูกสร้าง บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ที่ 1 และบ้านเลขที่ 144/87 หมู่ที่ 3 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กรณีเข้ารับตําแหน่งประเมินมูลค่าไว้ 2,500,000 บาท และ 3,000,000 บาท ตามลําดับ รถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน 6 กง 731 กรุงเทพมหานคร มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ครอบครอง มูลค่าตามสัญญาเช่าซื้อ 610,000 บาท ไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ หนี้เงินกู้ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) สินเชื่อบ้านกสิกรไทย 4,260,504.13 บาท หนี้เงินกู้ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) สินเชื่อ บ้านเพื่อประกันชีวิตพิทักษ์สินกสิกรไทย 479,217.03 บาท หนี้เงินกู้ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) สินเชื่อตกแต่งบ้านกสิกรไทย 460,370.17 บาท และหนี้เงินกู้ธนาคารธนชาต จํากัด (มหาชน) 734,310 บาท และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนางสาววลีพร คู่สมรสผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ รายการเงินลงทุนบริษัทช. ทรัพย์เพิ่ม คอนสตรัคชั่น แอนด์ เดคคอร์เรท จํากัด 4,000 หุ้น มูลค่า 400,000 บาท และรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ขล 9012 ชลบุรี มีชื่อนางสาว วลีพร เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครอง กรณีเข้ารับตําแหน่งประเมินมูลค่าไว้ 500,000 บาท ทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ได้รับมาก่อนเข้ารับตําแหน่งและเคยยื่นแสดงรายการไว้ ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งแล้ว ยกเว้น รถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน 6 กง 331 กรุงเทพมหานคร กับหนี้เงินกู้ธนาคารธนชาต จํากัด (มหาชน) นอกจากนี้ ผู้ถูกกล่าวหาจดทะเบียนจํานองที่ดินโฉนดเลขที่ 54972, 54973 และหนังสือรับรอง การทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760, 7754 เพื่อประกันหนี้ของบริษัทช. ทรัพย์เพิ่ม คอนสตรัคชั่น แอนด์ เดคคอร์เรท จํากัด ปรากฏตามหนังสือสัญญาจํานองเอกสารหมาย ร.10, ร.11, ร.14 และ ร.16 กับจดทะเบียนจํานองที่ดินโฉนดเลขที่ 36218 เพื่อประกันหนี้ของนางสาว ทัศนีย์ อินอนงค์ ปรากฏตามหนังสือสัญญาจํานองเอกสารหมาย ร.12

@ อ้าง ที่ดิน 4 แปลง พี่น้อง-บิดา เจ้าของกรรมสิทธิ์ แค่ยืมมาค้ำประกันหนี้เงินกู้ของบริษัท

มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่ง และกรณีพ้นจากตําแหน่งหรือไม่

เห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดย ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทําความผิดยังคงบัญญัติ ให้การกระทําตามคําร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในขณะ กระทําความผิดบังคับแก่คดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง แต่องค์ประกอบ ความผิดตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง ในส่วนที่ว่าจะต้องมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้น เป็นคุณแก่ผู้ถูกกล่าวหา มากกว่ากฎหมายเดิม ศาลจึงต้องนําพฤติการณ์ดังกล่าวมาประกอบการวินิจฉัยการกระทํา ความผิดด้วยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ที่บัญญัติให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณ ไม่ว่าในทางใด ส่วนมาตรการบังคับทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81 มิใช่กฎหมายที่ใช้บังคับในขณะกระทําความผิด จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง บังคับแก่คดี เห็นสมควรวินิจฉัยทรัพย์แต่ละรายการ เป็นลําดับไป ดังนี้

ที่ดินโฉนดเลขที่ 54972, 54973 และหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760, 7754 พร้อมบ้านเลขที่ 59/1 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างทํานองว่า เดิมที่ดินโฉนดเลขที่ 54972, 54973 มีนางสาวทัศนีย์พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ส่วนหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760 และเลขที่ 7754 มีนายวินัย อินอนงค์ บิดาผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าของ กรรมสิทธิ์ ต่อมาปี 2560 บริษัทช. ทรัพย์เพิ่ม คอนสตรัคชั่น แอนด์ เดคคอร์เรท จํากัด ซึ่งเป็น กิจการภายในครอบครัวมีเงินทุนหมุนเวียนไม่พอ ผู้ถูกกล่าวหาปรึกษากับนายวินัยและนางสาวทัศนีย์ เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหายืมที่ดินทั้งสี่แปลงดังกล่าวขอกู้ยืมเงินจากธนาคาร เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นกรรมการผู้มีอํานาจกระทําการแทนบริษัท มีประวัติด้านสินเชื่อน่าเชื่อถือ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 นางสาวทัศนีย์และนายวินัยจึงจดทะเบียนโอนที่ดินทั้งสี่แปลงดังกล่าวใส่ชื่อผู้ถูกกล่าวหา และ ในวันเดียวกันผู้ถูกกล่าวหาจดทะเบียนจํานองที่ดินทั้งสี่แปลงดังกล่าวเพื่อประกันหนี้ของบริษัท นางสาวทัศนีย์และนายวินัยจึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง นั้น เห็นว่า ขณะผู้ถูกกล่าวหา จดทะเบียนจํานองที่ดินทั้งสี่แปลงดังกล่าวเพื่อประกันหนี้ของบริษัท ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นเจ้าของ กรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 36218 และ 6787 เนื้อที่ 1 งาน 75 ตารางวา และ 70 ตารางวา ตามลําดับ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้กรรมสิทธิ์มาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2548 และวันที่ 11 ตุลาคม 2547 ตามสําเนาโฉนดที่ดินเอกสารหมาย ร.12 และ ร.13 ตามลําดับ จากการ ตรวจสอบราคาประเมินที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว มีราคาประเมินตารางวาละ 5,000 บาท เท่ากับ ราคาประเมินของที่ดินโฉนดเลขที่ 54972, 54973 และหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760, 7754 ตามหนังสือสํานักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ ลงวันที่ 18 มีนาคม 2563 เอกสารหมาย ร.10 ผู้ถูกกล่าวหาจึงสามารถใช้ที่ดินโฉนดเลขที่ 36218 และ 6787 ที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเวลาดังกล่าวซึ่งปลอดภาระจํานองและติด ถนนสาธารณะเช่นเดียวกันจดทะเบียนจํานองประกันหนี้ของบริษัทได้โดยไม่ต้องขอยืมที่ดินของ บุคคลอื่น อีกทั้งการโอนที่ดินเป็นชื่อของผู้ถูกกล่าวหามีการทํานิติกรรมต่างรูปแบบกัน เป็นการจด ทะเบียนโอนขาย 3 แปลง และจดทะเบียนโอนให้ 1 แปลง ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนขายสูงกว่า โดยเฉพาะที่ดินตามหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760 ปรากฏข้อเท็จจริงอีกว่าก่อนจดทะเบียนโอนขายให้ผู้ถูกกล่าวหา นายวินัย ให้นางสาวทัศนีย์ถือกรรมสิทธิ์รวมมีค่าตอบแทนก่อน แล้วนายวินัยและนางทัศนีย์จึงจดทะเบียนโอนขายให้ผู้ถูกกล่าวหา นับเป็นการกระทําที่ยุ่งยากซับซ้อนและทําให้เสียค่าธรรมเนียมมากโดยใช่เหตุ นอกจากนี้การจดทะเบียนจํานองที่ดินดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการของบริษัท ที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือหุ้นหลักและกรรมการผู้จัดการ นายวินัยและนางสาวทัศนีย์ไม่ได้เป็น ผู้ถือหุ้นของบริษัทด้วย ประกอบกับที่ดินตามหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7754 ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินกรณีเข้ารับตําแหน่ง แสดงว่า ผู้ถูกกล่าวหา ยอมรับว่าเป็นที่ดินของตน และทราบดีอยู่แล้วว่าต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับไม่ยื่นแสดงรายการที่ดินตามหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7760 กับที่ดินโฉนดเลขที่ 54972 และ 54973 กรณีจึงเชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหามีชื่อถือกรรมสิทธิ์ ที่ดินทั้งสี่แปลงดังกล่าวในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงจึงนําที่ดินทั้งสี่แปลงดังกล่าวมาจดทะเบียน จํานองเพื่อประกันหนี้บริษัทของตนเอง ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาได้รับโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียน จํานองที่ดินทั้งสี่แปลงดังกล่าวในวันเดียวกันเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 ก่อนผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่ง เพียงประมาณ 3 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาจึงย่อม ทราบดีถึงความมีอยู่จริงของที่ดินทั้งสี่แปลงดังกล่าว แม้ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่ามีชื่อถือกรรมสิทธิ์แทน นางสาวทัศนีย์และนายวินัย โดยให้นายวินัยเป็นผู้ดูแลและครอบครองที่ดินแทนผู้ถูกกล่าวหา ก็ไม่ใช่เหตุที่ผู้ถูกกล่าวหาจะยกขึ้นอ้างเพื่อไม่แสดงรายการที่ดินดังกล่าวได้

@ บอก โฉนด 2 แปลง ได้มาก่อนเป็นรองนายก ราคาไม่สูง

สําหรับที่ดินโฉนดเลขที่ 36218 และ 6784 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่า ผู้ถูกกล่าวหาจดทะเบียนรับโอนมาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2548 และ วันที่ 11 ตุลาคม 2547 ตามลําดับ ก่อนที่ผู้ถูกกล่าวหาเข้าดํารงตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบล บางเสร่ ที่ดินดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นหรือได้มาในระหว่างดํารงตําแหน่ง และไม่ได้มีมูลค่าหรือราคาเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงอย่างผิดปกติ เห็นว่า แม้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทรัพย์สินหรือหนี้สินใดโดยสุจริตมา ก่อนที่ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ถูกกล่าวหาก็ยังคงมีหน้าที่ ต้องแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินนั้น หากทรัพย์สินและหนี้สินนั้นยังคงเป็นของผู้ถูกกล่าวหาอยู่ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินที่อาจแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของทรัพย์สินอย่างผิดปกติ และการที่ผู้ถูกกล่าวหาจดทะเบียนจํานองที่ดินโฉนด เลขที่ 36218 เพื่อประกันหนี้ของนางสาวทัศนีย์ กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวก็ยังคงเป็นของผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ถูกกล่าวหาจึงมีหน้าที่แสดงรายการที่ดินดังกล่าว ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่า หลังจากที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลบางเสร่แล้ว ผู้ถูกกล่าวหาจดทะเบียนโอน ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 6787 ให้แก่นางสาวธาลิน สมจิตร์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 แล้วนั้น เห็นว่า นิติกรรมการจดทะเบียนซื้อขายที่ดินเกิดขึ้นหลังจากผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งแล้ว ไม่อาจยกขึ้นอ้างเป็นเหตุผลพิสูจน์ความสุจริตของผู้ถูกกล่าวหาในเวลายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้

@ นำส่งงบการเงิน บ.รับเหมาทุกปีกับชำระหนี้จำนองที่ดินมาตลอด ย่อมรู้อยู่แล้วว่าเป็นเจ้าของทรัพย์

ส่วนเงินลงทุนบริษัทช. ทรัพย์เพิ่ม คอนสตรัคชั่น แอนด์ เดคคอร์เรท จํากัด ของผู้ถูกกล่าวหา 5,000 หุ้น มูลค่า 500,000 บาท และนางสาววลีพร 4,000 หุ้น มูลค่า 400,000 บาท ที่ดินโฉนดเลขที่ 44198 ตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อม บ้านเลขที่ 144/87 และเงินกู้ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) สินเชื่อบ้านกสิกรไทย 4,260,504.13 บาท สินเชื่อบ้านเพื่อประกันชีวิตพิทักษ์สินกสิกรไทย 479,217.03 บาท และ สินเชื่อตกแต่งบ้านกสิกรไทย 460,370.17 บาท ของผู้ถูกกล่าวหา และรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ขล 9012 ชลบุรี ของนางสาววลีพร ที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างทํานองว่า ได้มาซึ่งทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวก่อนเข้ารับตําแหน่งก็ไม่อาจรับฟังได้ดังเหตุผลที่ได้วินิจฉัยไว้แล้วข้างต้น ทั้งเมื่อได้ความว่าบริษัทนําส่งงบการเงินทุกปี และผู้ถูกกล่าวหาชําระหนี้จํานองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมาโดยตลอดย่อมเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่อาจหลงลืมทรัพย์สินและหนี้สินรายการดังกล่าวได้ เนื่องจากมีการทําธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยแสดงรายการที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หนี้เงินกู้ธนาคาร และรถยนต์ดังกล่าวไว้แล้วในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่ง ยิ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบถึงความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว และต้องแสดงทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งด้วย แต่ผู้ถูกกล่าวหาก็ไม่ได้ดําเนินการให้ครบถ้วน เท่ากับผู้ถูกกล่าวหาละเลยเพิกเฉยไม่ใส่ใจต่อหน้าที่ ที่กฎหมายกําหนด

@ ซื้อรถเบนซ์ระหว่างดำรงตำแหน่ง แต่ไม่ยื่นบัญชีฯ

สําหรับรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน 6 กง 731 กรุงเทพมหานคร ที่มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ครอบครอง และหนี้ค่าเช่าซื้อธนาคารธนชาต จํากัด (มหาชน) ของผู้ถูกกล่าวหา ที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่า ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาในระหว่างการดํารงตําแหน่ง แต่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับโอนและครอบครองโดยสุจริตและชําระค่าเช่าซื้อให้ธนาคาร นั้น เห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวกลับชี้ให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบดีถึงความมีอยู่จริงของทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ณ เวลาที่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จึงยิ่งต้องนํามาแสดงไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

นอกจากนี้ การที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างในทํานองว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีเจตนายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ ผู้ถูกกล่าวหาเข้ารับตําแหน่งครั้งแรก คู่สมรส ผู้ถูกกล่าวหารวบรวมเอกสารเพื่อยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสไม่มีประสบการณ์ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ทั้งหลังจากผู้ถูกกล่าวหา พ้นจากตําแหน่ง คู่สมรสเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล นั้น เห็นว่า การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สําคัญของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง มุ่งหมายเพื่อให้มีการ ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง อันเป็นมาตรการสําคัญที่จะ ช่วยขจัดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองซึ่งเป็นผู้มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารราชการ ย่อมมีหน้าที่และความรับผิดชอบ การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินจึงเป็นหน้าที่ที่สําคัญโดยตรงของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหาอาจอ้างความไม่มีประสบการณ์หรือการเข้าใจผิดเพื่อปฏิเสธการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นความรับผิดชอบของตนได้

ประกอบกับได้ความจากนางสาววลีพรว่า เป็นเพียงผู้ช่วยจัดทําบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยนําบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ผู้ถูกกล่าวหาตรวจสอบก่อนแล้ว ทั้งเมื่อ ตรวจสอบจากบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่ง เอกสารหมาย ร.9 พบว่า ผู้ถูกกล่าวหาแสดงรายการทรัพย์สินเฉพาะเงินฝาก 2 รายการ และหนี้สินรายการเงิน เบิกเกินบัญชี 1 รายการ เท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบการกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่ง ที่มีการแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินโดยละเอียด ประกอบกับ ข้อเท็จจริงที่ผู้ถูกกล่าวหาได้ที่ดินทั้งเจ็ดแปลงดังกล่าวมาก่อนเข้ารับตําแหน่ง แต่กลับยื่นบัญชีแสดง รายการเพียง 2 แปลง คือ ที่ดินตามหนังสือรับรองการทําประโยชน์ (น.ส. 3 ก) เลขที่ 7754 และ ที่ดินโฉนดเลขที่ 44198 โดยไม่ยื่นแสดงรายการที่ดินถึง 5 แปลง ส่วนกรณีพ้นจากตําแหน่งกลับไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการที่ดินดังกล่าวทั้งหมด รวม 7 แปลง โดยทรัพย์สินและหนี้สินนอกเหนือจากนั้นที่ผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นแสดงรายการกรณีเข้ารับตําแหน่งกับทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาได้มาหลังจากรับตําแหน่งแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาก็ไม่แสดงไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่ทรัพย์สินและหนี้สินส่วนใหญ่ผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งแล้ว และขณะพ้นจากตําแหน่งยังเป็นของผู้ถูกกล่าวหาและ นางสาววลีพร พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความไม่เอาใจใส่ ละเลย เพิกเฉยไม่ใส่ใจต่อหน้าที่ที่ตนต้องปฏิบัติ ข้ออ้างของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจึงฟังไม่ขึ้น ดังนี้

@ชี้ชัดเจตนาปกปิด

องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากมีมติเห็นว่า เมื่อผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งตามที่ได้วินิจฉัยข้างต้น จึงเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้น การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่ง มีผลห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือ ดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง

นอกจากนี้ การกระทําของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย

@ ให้พ้นตำแหน่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน-จําคุก กระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท

พิพากษาว่า นายชัยวัฒน์ อินอนงค์ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลบางเสร่ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่ง ทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 ซึ่งเป็น วันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งรองนายกเทศมนตรีตําบลบางเสร่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง และให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลบางเสร่ที่ดํารงอยู่ในปัจจุบัน นับแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําสั่งให้ ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 แต่ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะกระทําความผิด การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากมีมติ ให้จําคุก กระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจําคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท และมีมติเอกฉันท์ว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน เห็นควรให้รอการ ลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

picsubsin7 15 65

picsubsin007 15 65

picsubsin017 15 65

ข่าวเกี่ยวข้องและคดีการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินรายอื่น

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage