ขาดอายุความ 5 ปี! ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง นายก อบต.โกรกพระ นครสวรรค์ ซุกทรัพย์สิน

ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง นายก อบต.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ยื่นบัญชีฯเท็จ ไม่แจ้งทรัพย์สิน ที่ดิน รถยนต์ เงินกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน 5 ฉบับ กรณีเข้ารับตำแหน่งปี 2556 ป.ป.ช.ยื่นคำร้องต่อศาล 19 มิ.ย. 2562 ขาดอายุความ 5 ปี

news0404mainwit

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2563 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง นายวิทยาวุฒิ เรืองเมธีกุญ หรือ เรืองเมธีกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โกรกพระ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น พิพากษายกคำร้อง เนื่องจาก ผู้ร้องยื่นคำร้องและนำตัวผู้ถูกกล่าวหามาศาลในวันที่ 19 มิถุนายน 2562 จึงพ้นกำหนดอายุความ ดังนี้

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโกรกพระ อ.โกรกพระ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556 โดยแถลงนโยบายเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2556 และยังดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน

ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่ง โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ ที่ดิน 2 แปลงรถยนต์ 1 คัน และไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชี 1 บัญชีเงินกู้ธนาคาร 3 รายการ และตั๋วสัญญาใช้เงินธนาคาร 5 ฉบับ

ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งหรือไม่

องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากเห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทำความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทำตามคำร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดบังคับแก่คดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 คดีนี้ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 เมื่อผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินภายในกำหนด ความผิดจึงเกิดขึ้นในวันที่ครบกำหนดดังกล่าว ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดยไม่ได้มีอายุความบัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงต้องนำบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยอายุความมาใช้แก่ความผิดนี้ ผู้ร้องจึงต้องยื่นคำร้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนดห้าปีนับแต่วันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 (4) เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องและนำตัวผู้ถูกกล่าวหามาศาลในวันที่ 19 มิถุนายน 2562 จึงพ้นกำหนดอายุความดังกล่าว ความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จกรณีเข้ารับตำแหน่ง จึงขาดอายุความทางอาญา ส่วนมาตรการบังคับทางการเมืองเป็นการจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลและไม่อาจแยกออกจากโทษทางอาญาได้ เมื่อคดีส่วนอาญาขาดอายุความแล้ว จึงไม่อาจนำมาตรการบังคับทางการเมืองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 34 มาบังคับแก่ผู้ถูกกล่าวหาได้ จึงพิพากษายกคำร้อง. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.245/2562 วันที่ 1 ต.ค.2562)

news0405