ศาลฎีกาฯฟัน 2 นายกเทศมนตรี เมืองสมุทรสงคราม - บางริ้น จ.ระนอง จงใจยื่นบัญชีฯทรัพย์สิน เท็จ ป.ป.ช. สั่งจําคุกคนละ 1- 2 เดือน ปรับ 4,000 - 8,000 บาท รอลงโทษคุก 1 ปี รายหลังให้พ้นตำแหน่งนับจากสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 2 พ.ค.2562
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 และ 27 ก.พ.2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า นายสมชาย ตันประเสริฐ นายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม อําเภอเมือง สมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม และ นายกรีฑา ยกย่อง นายกเทศมนตรีเมือง บางริ้น อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเสนาไม่แสดงที่มาแห่ง ทรัพย์สินและหนี้สินนั้นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.)
นายสมชาย ตันประเสริฐ นายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม อําเภอเมือง สมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม รายแรก ห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี
นายกรีฑา ยกย่อง นายกเทศมนตรีเมือง บางริ้น อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง รายหลัง ให้พ้นจากตําแหน่ง นายกเทศมนตรีเมืองบางชิ้นที่ดํารงอยู่ในปัจจุบันนับแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือ ดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นวันที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากว่า ให้จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่า เคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มี กําหนด 1 ปี
มีรายละเอียดดังนี้
คดีนายสมชาย ตันประเสริฐ
ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่าถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเสนาไม่แสดงที่มาแห่ง ทรัพย์สินและหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม อําเภอเมือง สมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกล่าวหา กับลงโทษ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114, 167
พิเคราะห์คําร้อง เอกสารประกอบคําร้อง และคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว เห็นว่า คดีวินิจฉัยได้โดยไม่จําต้องเรียกพยานมาไต่สวน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม อําเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2553 และพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 ผู้ถูกกล่าวหายื่น บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่ง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ได้แก่ กรรมสิทธิ์ในหุ้นจํานวน 42,000 หุ้น รถยนต์ 2 คัน บัญชีเงินกู้ 1 บัญชี และสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ 2 ฉบับ
พิพากษาว่า นายสมชาย ตันประเสริฐ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม อําเภอ เมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารง ตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 12 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหา พ้นจากตําแหน่งดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วย ข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก (คดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2563 วันที่ 26 ก.พ.2563)
คดีนายกรีฑา ยกย่อง
ผู้ร้องยื่นคําร้องว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีเมือง บางริ้น อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2556 แต่ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิด ข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตําแหน่ง โดยไม่แสดงทรัพย์สิน 7 รายการ คือ บัญชีเงินฝากธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) สาขาระนอง เลขที่บัญชี 161-2-03896-7 จํานวน 312,132.52 บาท บัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) สาขาระนอง เลขที่บัญชี 581-102621-5 จํานวน 680,454.12 บาท บัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน จํากัด สาขา ระนอง เลขที่บัญชี 406850000547 ประเภทสลากออมสินพิเศษ บัญชีของนางมาลี ยกย่อง คู่สมรส จํานวน 43,900 บาท ที่ดินโฉนดเลขที่ 9507 ตําบลบางริ้น อําเภอเมืองระนอง จังหวัด ระนอง โฉนดเลขที่ 454 ตําบลบางนอน อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน บจ 2647 ระนอง และรถจักรยานยนต์ ทะเบียน กง 835 ระนอง ซึ่งผู้ถือกรรมสิทธิ์ คือนางมาลี คู่สมรส ขอให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งที่ดํารงอยู่ในปัจจุบัน และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหา ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34, 119
พิเคราะห์คําร้อง คําให้การ และพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนแล้ว ข้อเท็จจริง เบื้องต้นรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบางริ้น อําเภอ เมืองระนอง จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2556 โดยแถลงนโยบายเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 และยังดํารงตําแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน ตามคําสั่งหัวหน้าคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2557 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2556 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ นับแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคําสั่งให้รับคําร้องไว้พิจารณา ผู้ถูกกล่าวหายื่น บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตําแหน่ง โดยไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคาร 3 บัญชี ได้แก่ บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) สาขาระนอง เลขที่บัญชี 161-2-03896-7 จํานวน 312,132.52 บาท บัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) สาขาระนอง เลขที่บัญชี 581-102621-5 จํานวน 680,454.12 บาท บัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน จํากัด สาขาระนอง เลขที่บัญชี 406850000547 ประเภทสลากออมสินพิเศษ บัญชีของนางมาลี ยกย่อง คู่สมรส จํานวน 43,9000 บาท ที่ดิน 2 แปลง โฉนดเลขที่ 9507 ตําบลบางริ้น อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง โฉนดเลขที่ 454 ตําบลบาง นอน อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน บจ 2647 ระนอง และ รถจักรยานยนต์ ทะเบียน กงต 835 ระนอง ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์คือนางมาสีคู่สมรส ผู้ร้องมีหนังสือ แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงทรัพย์สินทั้ง 7 รายการดังกล่าวต่อ ผู้ร้องแล้ว ผู้ถูกกล่าวหามีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงฉบับลงวันที่ 21 มีนาคม 2561 ต่อผู้ร้อง ว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็น เท็จและปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง ผู้ร้องพิจารณาแล้วมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่น บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จึงยื่นคําร้องเป็นคดีนี้
พิพากษาว่า นายกรีฑา ยกย่อง ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตําแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบางริ้น อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ในส่วน ทรัพย์สิน 2 รายการ คือ บัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) สาขาระนอง เลขที่ บัญชี 581-102621-5 จํานวน 680,454.12 บาท และที่ดินโฉนดเลขที่ 9507 ตําบลบางริ้น อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง นายกเทศมนตรีเมืองบางชิ้นที่ดํารงอยู่ในปัจจุบันนับแต่วันที่ 2พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือ ดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นวันที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากว่า ให้จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มี กําหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.6/2563 วันที่ 27 ก.พ.2563)
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน ปลัดเทศบาล จ.สมุทรสาคร ยื่นเท็จ-คุก 2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
คดีขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบต. แสนทอง จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ
คุก 1 เดือน นายก อบต. ใน จ.สิงห์บุรี ปัตตานี คดีบัญชีทรัพย์สิน -รอลงโทษ 1 ปี
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต.บางพรม จ.สมุทรสงคราม รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศมนตรี จ.สุรินทร์ ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช. 4 ครั้ง
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีฯเท็จ เหตุขาดอายุความ-เคยถูก ตร.ยุคบิ๊กโจ๊กสอบ
ศาลฎีกาฯคุก 1 ด.-รอลงโทษ รองนายกอบต. จ.สตูล -รองเทศมนตรี จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ลอตใหม่ปี 63 !ศาลฎีกาฯฟัน 6 คดีบัญชีทรัพย์สิน-ให้นายก อบต.บางขนุน นนทบุรี พ้นทันที
รายชื่อ 117 นักการเมือง ถูกศาลฎีกาฯฟันคดียื่นบัญชีทรัพย์สิน-ท้องถิ่น 110 คน
INFO: 28 นักการเมือง หลุดคดีบัญชีทรัพย์สิน ปี 62
รายชื่อ 28 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สินปี 62
INFO: 117 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ฟัน จงใจยื่น‘บัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ป.ป.ช. ปี 2562
ปี 62 นักการเมือง 117 คนถูกศาลฎีกาฯฟันคดีบัญชีทรัพย์สิน-รองนายก อบต.มากสุด 51 ราย