นายก อบต.ปากท่อ ราชบุรี ยื่นเท็จ! ศาลฎีกาฯฟัน 3 รายคดีบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษจำคุกรวด

ต่อเนื่อง! คำพิพากษาศาลฎีกาฯฟัน 3 คดีนักการเมืองท้องถิ่น นายก อบต. ปากท่อ จ.ราชบุรี รองนายก อบต. ห้วยยาง สกลนคร ยื่นบัญชีเท็จฯ -รองนายกอบต. โคกเจริญ จ.พังงา จงใจไม่ยื่น ห้ามดำรงตำแหน่ง 5 ปี จำคุกคนละ 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปีรวด

news0904main

คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมืองท้องถิ่นเกิดขึ้นต่อเนื่อง

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 30 มี.ค. 2563 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง จำนวน 3 คดี เป็นกรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ 2 คดี (ราย) จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 1 รายดังนี้

1.นายคมสัน ประเดิมชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ห้ามมิให้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

2.นายทศพล ชมภูราช รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

3.นายอมรศักดิ์ เงาะผล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกเจริญ อ.ทับปุด จ.พังงา ห้ามมิให้ผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2559 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ

1.นายคมสัน ประเดิมชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง นายก อบต.ปากท่อ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ เงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,691.50 บาท ของผู้ถูกกล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

พิพากษาว่า นายคมสัน ประเดิมชัย ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.ปากท่อ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.132/2562 วันที่ 23 พฤษภาคม 2562)

news0904 1

2.นายทศพล ชมภูราช รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ห้วยยาง เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่เงินฝากธนาคาร 1 บัญชี กรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 2 บัญชีและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 2 บัญชี สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งขาดอายุความทางอาญาแล้ว

พิพากษาว่า นายทศพล ชมภูราช ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.ห้วยยาง ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.(คดีหมายเลขแดงที่ อม.157/2562 วันที่ 13 มิ.ย. 2562)

news0904 2

จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ

1.นายอมรศักดิ์ เงาะผล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกเจริญ อ.ทับปุด จ.พังงา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.โคกเจริญ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2559 ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่ง ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องแล้วแต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย

พิพากษาว่า นายอมรศักดิ์ เงาะผล ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.โคกเจริญ ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาทไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 152/2562 วันที่ 6 มิ.ย.2562)

news0904 3