รองนายกเทศมนตรีตำบลกงหรา จ.พัทลุง - นายก อบต. ศรีวิชัย สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี ขณะ รองนายก อบต. นาอิน อุตรดิตถ์ รอด เหตุ ป.ป.ช.ยื่นคำร้องหลัง กม.ปี 2561 ใช้บังคับ ไม่กำหนดให้มีหน้าที่ต้องยื่น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 12 มิ.ย.2562 และ วันที่ 19 มิ.ย.2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า นายอำไพ สมบูรณ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลกงหรา อ.กงหรา จ.พัทลุง และ นายอัสนี รัตนวิจารณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ศรีวิชัย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. สั่งจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุก ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี และ พิพากษายกคำร้อง คดีนายสุภาพ เหล็กสิงห์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี เนื่องจาก ป.ป.ช.ยื่นคำร้องต่อศาล ภายหลังที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ใช้บังคับแล้ว ซึ่ง กฏหมายดังกล่าว ไม่ได้กำหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีจึงไม่เป็นความผิด รายละเอียดดังนี้
คดีจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
1.นายอำไพ สมบูรณ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลกงหรา อ.กงหรา จ.พัทลุง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำ แหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลกงหรา อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2557 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งโดยไม่แนบเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วน ได้แก่ สัญญากู้เงินและหนังสือรับรองยอดหนี้ของธนาคารออมสิน และผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีโดยไม่แนบเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วน ได้แก่ สำเนาหนังสือรับรองเงินฝาก หรือสำเนาสมุดเงินฝาก หรือสำเนารายการเคลื่อนไหวทางบัญชีของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและของธนาคารออมสิน ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องโดยไม่แนบเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย
พิพากษาว่า นายอำไพ สมบูรณ์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลกงหรา ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.155/2562 วันที่ 12 มิ.ย.2562)
2.นายอัสนี รัตนวิจารณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ศรีวิชัย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต.ศรีวิชัย เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งโดยไม่แนบเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วน ได้แก่ สำเนาแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของคู่สมรส ปีภาษี 2555 รายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพังโคน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาวานรนิวาส หนังสือรับรองมูลค่าหุ้นและหนี้คงเหลือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสกลนคร จำกัด ที่ดินของคู่สมรส รถยนต์ 1 คัน ภาพถ่ายสีรถไถนา และรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินกู้ธนาคารออมสิน สาขาวานรนิวาสและผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีโดยไม่แนบเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วน ได้แก่ สำเนาแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของคู่สมรส ปีภาษี 2556 และปี 2557 รายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพังโคน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาวานรนิวาส หนังสือรับรองมูลค่าหุ้นและหนี้คงเหลือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสกลนคร จำกัด ที่ดินของคู่สมรส โรงเรือนพร้อมสิ่งปลูกสร้างคือบ้าน 1 หลัง รถยนต์ 1 คัน มูลค่ายานพาหนะ 1 คัน สำเนาอนุสิทธิบัตร และรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินกู้ธนาคารออมสิน สาขาวานรนิวาส ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องโดยไม่แนบเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย
พิพากษาว่า นายอัสนี รัตนวิจารณ์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.ศรีวิชัย ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง
เป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.160/2562 วันที่ 19 มิ.ย.2562)
คดีศาลยกคำร้อง
นายสุภาพ เหล็กสิงห์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิด
ข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. นาอิน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 2 บัญชี ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของ นางสินาภรณ์ เหล็กสิงห์ คู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 2 บัญชี ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องให้ถูกต้องครบถ้วน
ผู้ถูกกล่าวหามาให้ถ้อยคำชี้แจงต่อผู้ร้อง แต่ผู้ร้องพิจารณาแล้วมีความเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ผู้ร้องได้มีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาอิน และให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องเป็นคดีนี้
เห็นว่า ก่อนวันที่ผู้ร้องยื่นคำร้อง มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติดังกล่าวให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แม้บทเฉพาะกาลตามมาตรา 188 วรรคสองของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 บัญญัติว่า “ในกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้มีมติว่า ผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบหรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบไว้แล้วในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับให้เป็นอันใช้ได้ และให้ดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้” ซึ่งหมายความว่า ผู้ร้องมีอำนาจดำเนินคดีแก่ผู้ถูกกล่าวหาต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เมื่อปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องว่า คดีนี้ผู้ร้องมีมติเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 ก่อนวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 ที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ใช้บังคับ แต่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 อันเป็นเวลาภายหลังที่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ใช้บังคับแล้ว จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับ ขณะยื่นคำร้องมาบังคับแก่คดีนี้ และเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ไม่ได้กำหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จึงเป็นกรณีที่บทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป
ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้กระทำการนั้นย่อมพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง เมื่อการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาไม่เป็นความผิดแล้วจึงไม่อาจใช้มาตรการบังคับ ทางการเมืองแก่ผู้ถูกกล่าวหาได้.
พิพากษาว่าให้ยกคำร้อง.
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.158/2562 วันที่ 13 มิ.ย.2562)
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
2 นายกเทศฯสมุทรสงคราม - บางริ้น จ.ระนอง ยื่นบัญชีเท็จ ศาลจำคุก 1-2 เดือน รอฯ 1 ปี
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน ปลัดเทศบาล จ.สมุทรสาคร ยื่นเท็จ-คุก 2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
คดีขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบต. แสนทอง จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ
คุก 1 เดือน นายก อบต. ใน จ.สิงห์บุรี ปัตตานี คดีบัญชีทรัพย์สิน -รอลงโทษ 1 ปี
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต.บางพรม จ.สมุทรสงคราม รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศมนตรี จ.สุรินทร์ ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช. 4 ครั้ง
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีฯเท็จ เหตุขาดอายุความ-เคยถูก ตร.ยุคบิ๊กโจ๊กสอบ
ศาลฎีกาฯคุก 1 ด.-รอลงโทษ รองนายกอบต. จ.สตูล -รองเทศมนตรี จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ลอตใหม่ปี 63 !ศาลฎีกาฯฟัน 6 คดีบัญชีทรัพย์สิน-ให้นายก อบต.บางขนุน นนทบุรี พ้นทันที
รายชื่อ 117 นักการเมือง ถูกศาลฎีกาฯฟันคดียื่นบัญชีทรัพย์สิน-ท้องถิ่น 110 คน
INFO: 28 นักการเมือง หลุดคดีบัญชีทรัพย์สิน ปี 62
รายชื่อ 28 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สินปี 62
INFO: 117 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ฟัน จงใจยื่น‘บัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ป.ป.ช. ปี 2562
ปี 62 นักการเมือง 117 คนถูกศาลฎีกาฯฟันคดีบัญชีทรัพย์สิน-รองนายก อบต.มากสุด 51 ราย