ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ‘ศักดาพินิจ ณรงค์ชาติโสภณ’ ที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงราย จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช. ไม่แสดงหนี้จํานองห้องชุด ‘ปทุมวันรีสอร์ท’ ที่มีต่อ บมจ.บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ องค์คณะเสียงข้าง มาก เห็นต้องขังระหว่างไต่สวนเป็นเวลาพอแก่โทษแล้วให้หมายปล่อย ไม่ต้องนับโทษต่อในคดีก่อนหน้านี้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : วันที่ 14 สิงหาคม 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รายนายศักดาพินิจ ณรงค์ชาติโสภณหรือ วชิรศักดิ์ หงษ์ชนินท์รัฐ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่ง
พิพากษาว่า นายศักดาพินิจ ณรงค์ชาติโสภณ หรือวชิรศักดิ์ หงษ์ชนินท์รัฐ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษา นายก อบจ.เชียงราย วาระที่ 2 ห้ามมิให้ ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งกับมีความผิดตามมาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้าง มากเห็นควรลงโทษ จําคุก 2 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาต้องขังระหว่างไต่สวนเป็นระยะเวลาพอแก่โทษแล้ว จึงให้หมายปล่อยในคดีนี้ และยกคําขอให้นับโทษผู้ถูกกล่าวหาต่อ ข้อหาและคําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.(คดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2563 วันที่ 14 ส.ค.2563) รายละเอียดดังนี้
ผู้ร้องยื่นคําร้องและแก้ไขคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มา แห่งทรัพย์สินและหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายวาระที่ 1 และวาระที่ 2 ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษเฉพาะกรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วน จังหวัดเชียงรายวาระที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81, 114, 167 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และขอให้ นับโทษผู้ถูกกล่าวหาต่อจากโทษในคดีหมายเลขแดงที่ 5337/2562 ของศาลฎีกา
ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจําเลยในคดีที่ผู้ร้องขอให้ นับโทษต่อ
พิเคราะห์คําร้อง เอกสารประกอบคําร้อง และพยานหลักฐานตามทางไต่สวนแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 1 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2555 พ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2557 ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งเดิม วาระที่ 2 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 และพ้นจากตําแหน่ง ด้วยการลาออกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ผู้ร้องกรณีเข้ารับตําแหน่ง วาระที่ 1 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2555 กรณีพ้นจากตําแหน่ง วาระที่ 1 เมื่อ วันที่ 9 เมษายน 2557 กรณีเข้ารับตําแหน่งวาระที่ 2 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 และกรณีพ้นจากตําแหน่ง วาระที่ 2 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 โดยไม่ระบุหนี้จํานองห้องชุดเลขที่ 79/248 และ 79/454 ชั้นที่ 19 และ 28 อาคารชุด “ปทุมวันรีสอร์ท” ตําบลพญาไท (ประแจจีน) อําเภอ พญาไท (ดุสิต) กรุงเทพมหานคร ที่มีต่อบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) ใน รายการหนี้สิน ตามเอกสารหมาย ร.9 ร.10 ร.11 และ ร.29 ตามลําดับ สําหรับคดีที่ผู้ร้องมีคําขอให้ นับโทษต่อนั้น ศาลฎีกาได้มีคําพิพากษาลงโทษจําคุกผู้ถูกกล่าวหา ตามสํานวนคดีหมายเลขแดงที่ อท. (ผ) 21/2559 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยประการแรกว่า ผู้ร้องมีอํานาจยื่นคําร้องเป็นคดีนี้หรือไม่
ผู้ถูกกล่าวหาโต้แย้งว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับหนังสือให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่สะดวกจึงติดต่อประสานทางโทรศัพท์กับนายณภัทร เตโช เพื่อขอให้กําหนด วันนัดไต่สวนใหม่ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ทราบกําหนดวันนัดไต่สวนใหม่ ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาทํา หนังสือขอโอนสํานวนไปที่สํานักงาน ป.ป.ช. กรุงเทพมหานคร เนื่องจากพยานบุคคลและพยานเอกสาร อยู่ที่กรุงเทพมหานคร หากไต่สวนที่กรุงเทพมหานครจะเป็นการสะดวกและเป็นธรรมมากกว่า ซึ่งยังไม่ได้รับแจ้งผลการพิจารณา การไต่สวนยังไม่เสร็จสิ้น จึงเป็นการมิชอบ ผู้ร้องไม่มีอํานาจยื่นคําร้องเป็นคดีนี้
เห็นว่า เจ้าพนักงานสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดเชียงรายมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไป รับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ตามเอกสารหมาย ร.16 แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ไปตาม นัด ต่อมาวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 เจ้าพนักงานมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาโดยระบุว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามกําหนดนัดและไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ทราบ เพื่อประโยชน์ในการ ดําเนินการตามกฎหมาย จึงให้ผู้ถูกกล่าวหาลงลายมือชื่อและวันที่รับทราบข้อกล่าวหาส่งกลับมาให้ สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดเชียงราย โดยให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับ หนังสือ ตามเอกสารหมาย ร.17 ซึ่งเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหาที่จะชี้แจงเป็นหนังสือได้ หลังจากนั้นวันที่ 4 มีนาคม 2562 สํานักงาน ป.ป.ช.ประจําจังหวัดเชียงรายมีหนังสือแจ้งให้ ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามเอกสารหมาย ร.18 แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ไปอีก วันที่ 12 มีนาคม 2562 สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดเชียงรายจึงมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมส่งไป ทางไปรษณีย์ โดยให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้ รับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว ตามเอกสารหมาย ร.19 เห็นได้ว่า เจ้าพนักงานได้ให้โอกาสแก่ ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเพียงพอแล้ว ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าได้ ติดต่อทางโทรศัพท์กับนายณภัทร เตโช ผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดเชียงราย เพื่อกําหนดวันนัดไต่สวนใหม่นั้น นายณภัทรกับนางสาวสุรีพร อ้ายไชย พยานผู้ร้อง ก็มิได้เบิกความ ยอมรับว่ามีการโทรศัพท์ขอเลื่อนการไต่สวน จึงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ นอกจากนี้หากมีเหตุผลและความจําเป็นผู้ถูกกล่าวหาก็ชอบที่จะขอขยายระยะเวลาชี้แจงข้อกล่าวหานั้นได้ตามระเบียบ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐและการดําเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการยื่นบัญชี พ.ศ.2561 ข้อ 39 วรรคสาม แต่ผู้ถูกกล่าวหาหาได้กระทําไม่ ผู้ถูกกล่าวหากลับมีหนังสือฉบับลงวันที่ 11 มีนาคม 2562 และวันที่ 26 มีนาคม 2562 ขอโอนสํานวนไปที่สํานักงาน ป.ป.ช. กรุงเทพมหานคร ตามเอกสารหมาย ร.20 และ ร.21 ซึ่งไม่มีบทกฎหมายหรือระเบียบใดกําหนดให้ดําเนินการเช่นนั้นได้ จึงไม่มีเหตุตามกฎหมาย ที่เจ้าพนักงานจะต้องรอการไต่สวนไว้ก่อนแต่อย่างใด ประกอบกับการชี้แจงเป็นหนังสือก็ไม่มีข้อขัดข้องเรื่องการเดินทางดังที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างเพื่อขอโอนสํานวน พฤติการณ์จึงส่อไปในทางที่ ผู้ถูกกล่าวหาเพียงแต่หาเหตุอ้างเพื่อประวิงเวลาการชี้แจงข้อกล่าวหาออกไปเพื่อมิให้การไต่สวนแล้วเสร็จเท่านั้น แม้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มิได้มีคําสั่งให้ชัดแจ้งในเรื่องนี้ แต่เมื่อมีคําสั่งให้ ดําเนินการต่อไปโดยเร็ว เท่ากับมีคําสั่งโดยปริยายแล้วว่าให้สํานักงาน ป.ป.ช.ประจําจังหวัดเชียงราย ดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ต่อไป และการที่ผู้ร้องไม่แจ้งคําสั่งเรื่องโอนสํานวนให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ ก็ไม่ทําให้การไต่สวนเสียไป เมื่อเจ้าพนักงานสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดเชียงรายได้ดําเนินการต่อจนครบกระบวนการ ถือได้ว่าการไต่สวนเสร็จสิ้นและชอบแล้ว ผู้ร้องย่อมมีอํานาจยื่นคําร้องคดีนี้
ปัญหาต้องวินิจฉัยประการต่อไปว่า การยื่นคําร้องในคดีนี้เป็นการยื่นคําร้องซ้ํากับคดี หมายเลขแดงที่ อม.24/2562 ของศาลนี้ หรือไม่
ผู้ถูกกล่าวหาโต้แย้งว่า คดีดังกล่าวมีคู่ความและข้อหา เดียวกันกับคดีนี้ แต่ผู้ร้องไม่ยื่นคําร้องคดีนี้ไปในคราวเดียวกันกับคดีดังกล่าว การที่ผู้ร้องยื่นคําร้องคดี นี้จึงเป็นการยื่นคําร้อง นั้น เห็นว่า คดีที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างนั้นเป็นมูลกรณีการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดํารงตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 1 กับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 1 และวาระที่ 2 ในคดีนี้ เป็นการกระทําคนละคราวที่สามารถแยกเจตนาและการกระทําออกต่างหากจากกันได้ ผู้ร้องย่อมมีอํานาจแยกยื่นคําร้องเป็นคนละคดีได้ จึงไม่เป็นการยื่นคําร้องซ้ำ
ปัญหาต้องวินิจฉัยประการต่อไปว่า คดีของผู้ร้องขาดอายุความหรือไม่ ในปัญหานี้ เห็นว่า แม้คดีนี้ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทํา ความผิด โดยยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคําร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม ซึ่งไม่เป็น คุณแก่ผู้ถูกกล่าวหา จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําผิดบังคับแก่คดีนี้ เมื่อพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 มิได้ บัญญัติอายุความไว้เป็นการเฉพาะ จึงต้องนําบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยอายุความ มาใช้แก่ความผิดในคดีนี้ ดังนั้น ถ้าผู้ร้องมิได้ยื่นคําร้องและมิได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามายังศาลภายในกําหนด 5 ปี ย่อมเป็นการขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 (4) คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหายื่น บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตําแหน่ง วาระที่ 1 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2555 กรณีพ้นจากตําแหน่ง วาระที่ 1 ยื่นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 และกรณีเข้ารับตําแหน่งวาระ ที่ 2 ยื่นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 โดยไม่แสดงรายการหนี้จํานองห้องชุด 2 ห้อง เมื่อนับแต่วันยื่น บัญชีแสดงรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินทั้งสามกรณีดังกล่าวอันเป็นวันที่ผู้ร้องอ้างว่ามีการกระทํา ความผิดจนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ร้องนําตัวผู้ถูกกล่าวหามาส่งศาลเกินกําหนด 5 ปีแล้ว จึงเป็นอันขาดอายุความทางอาญา ซึ่งกรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่ง วาระที่ 1 ผู้ร้องก็มิได้มีคําขอให้ลงโทษทางอาญา ส่วนกรณีเข้ารับตําแหน่งวาระที่ 2 ที่ขาดอายุความทางอาญา นั้น สิทธินําคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทาง การเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 8 วรรคสาม กรณีจึงไม่จําต้องวินิจฉัยต่อไปว่า การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งวาระที่ 1 กรณีเข้ารับตําแหน่งวาระที่ 2 หรือไม่ ส่วนที่ผู้ร้องมีคําขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหานั้น ถือเป็นมาตรการบังคับทางการเมืองอันเป็นการจํากัดสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลซึ่งสืบเนื่องมาจากการกระทําความผิดทางอาญาดังกล่าว เมื่อสิทธินําคดีอาญามาฟ้องระงับแล้ว จึงไม่อาจนํามาตรการจํากัด สิทธิทางการเมืองไม่ว่าในกรณีใด ๆ มาบังคับแก่การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาในส่วนนี้ได้ สําหรับกรณี พ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายวาระที่ 2 นั้น เมื่อปรากฏ ข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องเมื่อ วันที่ 1เมษายน 2558 นับถึงวันที่ผู้ร้องยื่นคําร้องและนําตัวผู้ถูกกล่าวหามาส่งศาลยังไม่เกินกําหนด อายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 (4) คดีอาญาในส่วนนี้จึงยังไม่ขาดอายุความ
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อไปว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายวาระที่ 2 หรือไม่
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมาก เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนเป็นยุติว่า ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินโดยไม่ระบุหนี้จํานองห้องชุดเลขที่ 79/248 และ 79/454 ชั้นที่ 19 และ 28 อาคารชุด “ปทุมวันรีสอร์ท” ตําบลพญาไท (ประแจจีน) อําเภอพญาไท (ดุสิต) กรุงเทพมหานคร ที่มีต่อบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) ในช่องรายการหนี้สิน ตามเอกสารหมาย ร.29 แต่ผู้ถูกกล่าวหาคงโต้แย้งว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นเอกสารประกอบคือ สําเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 2 ห้อง หนังสือเรื่องแจ้งผลอนุมัติแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ ฉบับลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ระบุถึงจํานวนหนี้และระยะเวลาผ่อนชําระหนี้ ประกาศขายทอดตลาดของ เจ้าพนักงานบังคับคดี และหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดต่อผู้ร้องแล้ว จึงเป็นข้อแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งต่อผู้ร้องนั้น ในปัญหานี้เห็นว่า คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาเคยระบุรายการหนี้ของเจ้าหนี้รายอื่นในช่องรายการหนี้สินพร้อมทั้งยื่นหนังสือรับรองภาระหนี้เป็นเอกสารประกอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 1 กรณีเข้ารับตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 2 ตามเอกสารหมาย ร.9 ร.19 และ ร.11 และได้ระบุรายการหนี้ของเจ้าหนี้รายเดียวกันในช่องรายการ หนี้สินสําหรับกรณีพ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 2 ตาม เอกสารหมาย ร.29 ด้วย แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าตนมีหน้าที่จะต้องแสดงยอด หนี้คงเหลือในขณะที่มีหน้าที่ยื่นบัญชี แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับไม่ระบุยอดหนี้คงเหลือไว้ในรายการหนี้สินและไม่ยื่นเอกสารประกอบคือหนังสือรับรองยอดหนี้คงเหลือในคดีนี้จึงย่อมเป็นข้อพิรุธ นอกจากนี้ยัง ปรากฏว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่ง ได้มีการชําระหนี้จํานองอาคารชุดดังกล่าวรวม 15 งวด งวดละ 100,000 บาท ทําให้หนี้สินรายนี้ของผู้ถูกกล่าวหาลดลงไปมากเมื่อเทียบกับรายได้ของผู้ถูกกล่าวหาตลอดระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่ง การที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ระบุรายการด้านหนี้สินซึ่งเป็นจํานวนเงินสูงกว่ารายได้เช่นนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหาโดยตรงแล้ว พฤติการณ์ยังบ่งชี้ว่าเหตุที่ไม่ระบุยอดหนี้สินอาจมี มูลเหตุเพื่อปกปิดเกี่ยวกับการชําระหนี้รายนี้ แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดซึ่ง สารบัญจดทะเบียนระบุว่าห้องชุดดังกล่าวติดจํานองอยู่ พร้อมกับแนบสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดมาด้วย แต่ลําพังเอกสารเพียงเท่านี้ยังไม่อาจทราบได้ว่ายอดหนี้คงเหลือ ณ วันที่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นจํานวนเท่าใด ส่วนหนังสือเรื่องแจ้งผลอนุมัติแนวทางการปรับ โครงสร้างหนี้ฉบับลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ระบุจํานวนหนี้คงค้าง ระยะเวลาผ่อนชําระหนี้ ก็มิใช่ข้อมูลภาระหนี้ตามที่เป็นอยู่ในขณะที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในกรณีพ้นจาก ตําแหน่งวาระที่ 2 การที่ผู้ถูกกล่าวหามิได้ยื่นหนังสือรับรองยอดหนี้จํานองคงเหลือรายนี้ดังเช่นที่เคยยื่นหนังสือรับรองยอดหนี้รายอื่น แต่กลับอ้างเอกสารประกอบที่ยื่นในครั้งก่อนซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบันแทน แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่จะปกปิดข้อมูลล่าสุดเพื่อมิให้มีการตรวจสอบที่มาของเงินที่ได้รับ ชําระหนี้ตามสัญญาจะซื้อจะขายหรือที่มาของเงินที่นําไปผ่อนชําระหนี้จํานองอันเป็นเงินที่ได้มาใน ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่ง พยานหลักฐานตามทางไต่สวนฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้ดํารง ตําแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจาก ตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 2 ส่วนที่ผู้ร้องขอให้ลงโทษ ผู้ถูกกล่าวหาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทําความผิด โดยยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคําร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม ซึ่งไม่เป็นคุณแก่ผู้ถูกกล่าวหา จึงต้องใช้ กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําความผิดบังคับแก่คดีนี้ การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 และต้องบังคับมาตรการจํากัดสิทธิทางการเมืองตามมาตรา 34 สําหรับการกระทําในส่วนนี้
พิพากษาว่า นายศักดาพินิจ ณรงค์ชาติโสภณ หรือวชิรศักดิ์ หงษ์ชนินท์รัฐ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหา ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งตามมาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามมาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจาก ตําแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย วาระที่ 2 องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้าง มากเห็นควรลงโทษ จําคุก 2 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาต้องขังระหว่างไต่สวนเป็นระยะเวลาพอแก่โทษแล้ว จึงให้หมายปล่อยในคดีนี้ และยกคําขอให้นับโทษผู้ถูกกล่าวหาต่อ ข้อหาและคําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.(คดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2563 วันที่ 14 ส.ค.2563)
อ่านข่าวคดีการแสดงบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.เรือง จ.น่าน จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.-รอลงโทษ
คุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท รองนายก อบต.ป่ามะม่วง จ.ตาก ยื่นบัญชีฯเท็จ – รอลงโทษ
คุก 1 เดือน นายก อบต.ถ้ำเจริญ จ.บึงกาฬ ไม่ยื่นเอกสารเงินฝาก-แบบภาษีเงินได้ –รอลงโทษ
คุก 1 เดือน นายก อบต.ลำทับ จ.กระบี่ ซุก ป.ป.ช. เงินฝาก 7 บัญชี ที่ดิน 7 แปลง รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.โป่งผา จ.เชียงราย ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช.-รอลงโทษ
ขาดอายุความ 5 ปี!ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรองนายก อบต. จ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน นายกเทศฯ ต.หนองหญ้าลาด จ.ศรีสะเกษ ยื่นเท็จ ป.ป.ช.
ซุกเงินฝาก 3 บัญชี!ศาลฎีกาฯคุก 2 เดือน รองนายก อบต.ชลคราม จ.สุราษฎร์ฯ รอลงโทษ 1 ปี
ซุกเงินฝาก 4 บัญชี!ศาลฎีกาฯ คุก 1 เดือนรองนายกเทศมนตรี ต.สวนผึ้ง ราชบุรี -รอลงโทษ 1 ปี
ซุกเงินฝาก 1 บัญชี ป.ป.ช.!ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รองนายก อบต.ท่าไม้ นครสวรรค์ -รอลงโทษ
ไม่แจ้งที่ดินเมีย 1 แปลง ป.ป.ช.!ศาลจำคุก 1 เดือน นายก อบต.วังหมัน จ.ตาก-รอลงโทษ 1 ปี
ไม่แสดงทรัพย์สินเมีย!ศาลให้นายก อบต.บากเรือ ยโสธร พ้นตำแหน่ง คุก 1 ด. -รอลงโทษ
เปิดบช.รับค่านายหน้า 1 ล. ทิ้งหลงลืม! ศาลยกคำร้อง นายกเทศฯ จ.ชัยนาท ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
คุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี รองนายก อบต.บางตะเคียน จ.สุพรรณฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ขาดอายุความ 5 ปี! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบจ. มุกดาหาร ยื่นบัญชีฯเท็จ 2 ครั้ง
คุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต. ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
กม.ใหม่ไม่กำหนด! ศาลยกคำร้อง นายก อบต.ลาดพัฒนา จ.มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีพ้น 1 ปี
คุก 1 เดือน-ให้พ้นตำแหน่ง นายก อบต.สำโรง จ.ศรีสะเกษ ซุกเงินฝาก 12 บัญชี-รอลงโทษ
คุก 1 เดือน รองนายก อบต.หนองหญ้าไทร จ.พิจิตร ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. -รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก 2 เดือน รองนายก อบต.หนองกบ จ.ราชบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ 2 ครั้ง-รอลงโทษ
ซุกหนี้ 2.2.ล้าน! ศาลคุก 1 เดือนรองนายก อบต.แม่ลา อยุธยา ยื่นเท็จ ป.ป.ช.- รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฯ จำคุก 1 เดือน รองนายก อบต. จ.อุบลฯไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รองนายก อบจ.มุกดาหาร ปกปิดทรัพย์สิน-รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง-จำคุก 1 เดือนรองนายก อบต.จะรัง ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ 3 ครั้ง-รอลงโทษ
ซุกเงินฝาก-หุ้นสหกรณ์! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือนรองนายก อบต.วัดเพลง จ.ราชบุรี-รอลงโทษ
คุก 1 เดือน! ศาลฎีกาฯฟันรองนายก อบต. เต่างอย สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง-รอลงโทษ
ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.4 ครั้ง! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือนรองนายก อบต. จ.นครสวรรค์-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง-คุก 1 เดือน รองนายก อบต.ศรีประจันต์ สุพรรณฯ ยื่นเท็จ 3 ครั้ง-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯยกคำร้องรองนายก อบต. ท่าพล จ.เพชรบูรณ์ ยื่นเท็จ ป.ป.ช.3 ครั้ง ขาดอายุความ
ขาดอายุความ ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯ จ.กาญจนบุรี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. 3 ครั้ง
ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. 2 ครั้ง! ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน รองนายก อบต. จ.พิษณุโลก - รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง ส.อบจ. นนทบุรี เขตบางบัวทอง ยื่นบัญชีเท็จ ป.ป.ช. ขาดอายุความ
ซุกเงินหนี้ 2 บัญชี 1.8 ล.! ศาลฎีกาฯ จำคุก 1 เดือน รอง อบต. จ.พิจิตร - ให้รอลงโทษ
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.! จำคุก 1 เดือน รองนายกเทศฯ จ.สกลนคร รอลงโทษ
ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช.! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายกเทศฯ จ.มุกดาหาร รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง!ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต. จ.อุบลฯ ซุกหุ้นรับเหมา 1 ล.-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง!ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รองนายก อบต. จ.สุโขทัย ยื่นเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบต.จ.สกลนคร ปกปิดทรัพย์สิน ป.ป.ช.อื้อ-ขาดอายุความ
ให้พ้นตำแหน่งทันที จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.จ.ลพบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช.
ขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายก อบต.ในจ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุกคนละ 1-2 เดือน 3 นักการเมืองท้องถิ่น จ.นครศรีฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือนรอลงโทษ นายก อบต.- รอง ฯ จ.ร้อยเอ็ด คดีบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีรองนายก อบต. จ.สิงห์บุรี ไม่แสดงเงินฝาก 10,055.69 บาท
โดนคดีที่สอง!รองนายกเทศฯ จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ 2 ปี
ขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง อดีต ส.ว.นครปฐม ยื่นบัญชีฯเท็จ ยุคเป็น ส.จ.
มีเมียแล้วแต่แจ้งโสด! ศาลฎีกาฯฟัน รองนายกเทศฯ จ.ราชบุรี ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช.
ยกคำร้องอีกราย! นายก อบต.ใน จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ 5 ปี
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ผู้สมัคร ส.ส.มุกดาหาร ยุคนั่ง นายก อบต.ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
อีกราย! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯ จ.พิษณุโลก ยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ 5 ปี
ขาดอายุความ 5 ปี! ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง นายก อบต.โกรกพระ นครสวรรค์ ซุกทรัพย์สิน
ให้พ้นตำแหน่งทันที! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศฯนครสกลนคร ไม่แจ้งถือหุ้น 45.6 ล.
ศาลฎีกาคุก 1 เดือน นายก อบต. จ.สุโขทัย-รองนายกเทศฯมุกดาหารยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง คดี ส.จ.ลพบุรี-รองนายกเทศฯ จ.ระนอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน อดีต ส.ส.นนทบุรีช่วงนั่งรองนายกฯท.-รอลงโทษ 1 ปี
นายก อบต.ปากท่อ ราชบุรี ยื่นเท็จ! ศาลฎีกาฯฟัน 3 รายคดีบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษจำคุกรวด
ศาลฎีกาฟันอีก 4 นักการเมืองท้องถิ่น นครพนม สระบุรี ปัตตานี อุบลฯ คดีบัญชีทรัพย์สิน
ปกปิดทรัพย์สิน! ศาลฎีกาฯฟันอีก 4 นักการเมืองท้องถิ่น สตูล นครนายก ร้อยเอ็ด นครปฐม
4 คดีนายก อบต.-รองฯ สกลนคร ราชบุรี พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ยื่นเท็จ -ไม่ยื่นบัญชีฯ
คุก 4 เดือน! นายกเทศฯสระโบสถ์ จ.ลพบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ1 ปี-เคยถูก จนท.ค้นบ้าน
ศาลฎีกาฯฟัน 3 รายคดีบัญชีทรัพย์สิน! ให้รองนายกเทศฯ ในอยุธยา พ้นตำแหน่ง ซุกเพียบ
ส.จ.สระบุรีรอด! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ไม่ยื่นฯป.ป.ช. รถกระบะเก่า 1 คัน เงินฝาก 5,099.27 บาท
ศาลฎีกาฯ‘จำคุก-รอลงโทษ’รองนายกเทศฯ จ.พัทลุง - นายก อบต. สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ
2 นายกเทศฯสมุทรสงคราม - บางริ้น จ.ระนอง ยื่นบัญชีเท็จ ศาลจำคุก 1-2 เดือน รอฯ 1 ปี
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน ปลัดเทศบาล จ.สมุทรสาคร ยื่นเท็จ-คุก 2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
คดีขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบต. แสนทอง จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ
คุก 1 เดือน นายก อบต. ใน จ.สิงห์บุรี ปัตตานี คดีบัญชีทรัพย์สิน -รอลงโทษ 1 ปี
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต.บางพรม จ.สมุทรสงคราม รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศมนตรี จ.สุรินทร์ ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช. 4 ครั้ง
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีฯเท็จ เหตุขาดอายุความ-เคยถูก ตร.ยุคบิ๊กโจ๊กสอบ
ศาลฎีกาฯคุก 1 ด.-รอลงโทษ รองนายกอบต. จ.สตูล -รองเทศมนตรี จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ลอตใหม่ปี 63 !ศาลฎีกาฯฟัน 6 คดีบัญชีทรัพย์สิน-ให้นายก อบต.บางขนุน นนทบุรี พ้นทันที
รายชื่อ 117 นักการเมือง ถูกศาลฎีกาฯฟันคดียื่นบัญชีทรัพย์สิน-ท้องถิ่น 110 คน
INFO: 28 นักการเมือง หลุดคดีบัญชีทรัพย์สิน ปี 62
รายชื่อ 28 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สินปี 62
INFO: 117 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ฟัน จงใจยื่น‘บัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ป.ป.ช. ปี 2562
ปี 62 นักการเมือง 117 คนถูกศาลฎีกาฯฟันคดีบัญชีทรัพย์สิน-รองนายก อบต.มากสุด 51 ราย