ศาลฎีกาคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รองนายก อบต.บางขาม ลพบุรี ยื่นบัญชีเท็จ รอลงโทษ 1 ปี

naraporn main 1007

ศาลฎีกาฯพิพากษาจําคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ‘นภาพร สิงห์สา-ธรรมธิติ’ รองนายก อบต.บางขาม อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี จงใจไม่แสดงรายการทรัพย์สินเงินลงทุน เงินฝาก 6 รายการรวมคู่สมรส ห้ามดํารงตําแหน่งทางการเมืองห้าปี คุกรอการลงโทษ 1 ปี

.................................

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2564 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินรายนางนภาพร สิงห์สาหรือตั้งธรรมธิติ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขาม อําเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา 1 รายการ และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนายมณเฑียร สิงห์สา คู่สมรส 5 รายการ ห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 จําคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี

รายละเอียดดังนี้

naraporn 1

ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจงใจ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขาม อําเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167, 188

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

พิเคราะห์คําร้องประกอบเอกสารท้ายคําร้องและคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขาม อําเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 และพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขามโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา คือ เงินลงทุน กองทุนไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นจํานวน 1,319,245.76 บาท และไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ของนายมณเฑียร สิงห์สา คู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) สาขาท่าโขลง 2 บัญชี จํานวน 1,318,785 บาท และ 4,322.70 บาท กับเงินลงทุน กองทุนไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 กองทุน จํานวน 5,049,800 บาท 3,006,060 บาท และ 2,028,466.30 บาท ตามลําดับ

มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขามหรือไม่ เห็นว่า ผู้ร้องยื่นคําร้องว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทําความผิดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2558 เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะกระทําความผิด แต่พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็น กฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทําความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคําร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําความผิดบังคับแก่คดีนี้ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง ส่วนมาตรการบังคับทางการเมืองตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ไม่เป็น คุณแก่ผู้ถูกกล่าวหา จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง บังคับแก่คดีนี้เช่นกัน รวมตลอดถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไข การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ย่อมต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ด้วย เมื่อข้อเท็จจริง ฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขาม จึงเป็นผู้ดํารง ตําแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องภายในสามสิบ วันนับแต่วันเข้ารับตําแหน่ง และวันพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายก องค์การบริหารส่วนตําบลบางขาม โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา 1 รายการ และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนายมณเฑียร สิงห์สา คู่สมรส 5 รายการ ดังที่กล่าวมาแล้ว การยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง เป็นหน้าที่สําคัญของผู้ดํารงตําแหน่ง ทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติอันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหน่ง ทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อํานาจรัฐ ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพพฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขาม มีผลต้องห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง และการกระทําของ ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควร แจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขามตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย

พิพากษาว่า นางนภาพร สิงห์สาหรือตั้งธรรมธิติ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางขาม อําเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่พ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30

คดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2564 วันที่ 30 มิ.ย.2564