ศาลฎีกาคุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต.ไทรทอง จ.สระแก้ว ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.

คำพิพากษาศาลฎีกาฯ ‘สุวรรณา จันทกุมาร’ รองนายก อบต. ไทรทอง จ.สระแก้ว จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. ตอนพ้นตำแหน่ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอการลงโทษจำคุก 1 ปี

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 พ.ย.2566 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า นางสุวรรณา จันทกุมาร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไทรทอง อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามมาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง กับมีความผิดตามมาตรา 167 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ( คดีหมายเลขแดงที่ อม. 28/2566-วันที่15 พ.ย.2566) มีรายละเอียดดังนี้

011223 suwanna

คดีหมายเลขดำที่ อม. 8/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 28/2566

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

วันที่ 15 เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช 2566

ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง

นางสุวรรณา จันทกุมาร ผู้ถูกกล่าวหา

เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่ง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหากับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

พิเคราะห์คำร้องประกอบเอกสารท้ายคำร้อง และคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง ที่ 289/2556 ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2556 และผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งแล้ว ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 ตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง ที่ 63/2563 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 จึงมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินภายใน วันที่ 30 เมษายน 2563 ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้ร้องมีหนังสือลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหา ดำเนินการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือ และมีหนังสือลงวันที่ 10 มิถุนายน 2564 แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหา กับมีหนังสือลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ ผู้ถูกกล่าวหาได้รับหนังสือของผู้ร้องดังกล่าวโดยชอบแล้ว จนเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ผู้ถูกกล่าวหาเข้าพบผู้ร้องและรับทราบข้อกล่าวหาโดยแจ้งว่าประสงค์จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อเจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สินภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหามิได้ดำเนินการ

ประเด็นวินิจฉับ กระทำความผิดตามคำร้อง หรือไม่

ปัญหาต้องวินิจฉัยว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามคำร้อง หรือไม่

เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง จึงเป็นรองผู้บริหารท้องถิ่นและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9), 105 และประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภา ท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (4) พ.ศ. 2561 ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ และเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ใช้อำนาจรัฐ การที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และผู้ร้องได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ กับให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินให้ถูกต้องภายในเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหายัง คงเพิกเฉย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งมาก่อนด้วยแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาย่อมทราบดีว่าตนเองมี หน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างไรให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

การที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบดังกล่าว ย่อมเป็นผลทำให้การตรวจสอบเปรียบเทียบความถูกต้อง และความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินตามบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นไว้ต่อผู้ร้องในครั้งแรกเป็นไปโดยยากและไม่เกิดประสิทธิภาพ เสมือนหนึ่งมีเจตนาในการหลีกเลี่ยงมิให้ ผู้ร้องตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สิน ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพข้อเท็จจริง

จึงรับฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามมาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทองตามมาตรา 167 ด้วย

เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอการลงโทษ 1 ปี

พิพากษาว่า นางสุวรรณา จันทกุมาร ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามมาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง กับมีความผิดตามมาตรา 167 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรายอื่น :

คดี ปี 2565 -ก่อนหน้า :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage