ศาลฎีกาฯฟัน 2 ราย ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. รองนายก อบต.ทุ่งนุ้ย จ.สตูล ถูกหมายจับไม่มาศาล รองนายกเทศมนตรี ต.ขุนทะเล จ.สุราษฎร์ฯ สั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี ยกคำร้อง ส.อบจ. มุกดาหาร ซุกทรัพย์สิน เหตุขาดอายุความ 5 ปี -กม.ไม่กำหนดให้มีหน้าที่ต้องยื่น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 13 พ.ย.2563,19 พ.ย.2563 และ 20 พ.ย.2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 3 ราย ให้มีความผิด 2 ราย คือ นายยูหนีด นายหนู รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล และ นายสุนทร เฝือไชยศรี รองนายกเทศมนตรีตำบลขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ยกคำร้อง 1 ราย คือ นายอดิศักดิ์ พรหมทา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มุกดาหาร มีรายละเอียดดังนี้
กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
1.นายยูหนีด นายหนู รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
ศาลส่งหมายเรียกและส่งสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้านทราบโดยชอบแล้ว แต่ผู้คัดค้านไม่มาศาล จึงออกหมายจับผู้คัดค้านและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมผู้คัดค้านได้และผู้ร้องนำตัวผู้คัดค้านมาส่งศาลเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 พร้อมขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป
ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ
พิเคราะห์คำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้คัดค้านได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งนุ้ย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 ผู้คัดค้านยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่เมื่อระยะเวลาการยื่นบัญชีกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีครบกำหนดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2557 ผู้คัดค้านไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีดังกล่าว
พิพากษาว่า นายยูหนีด นายหนู ผู้คัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ทุ่งนุ้ย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.15/2559 วันที่ 13 พ.ย.2562)
2.นายสุนทร เฝือไชยศรี รองนายกเทศมนตรีตำบลขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลขุนทะเลอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 และพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ตามคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ อม.93/2560 ของศาลนี้ ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่ง ผู้ร้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงเพิกเฉย
พิพากษาว่า นายสุนทร เฝือไชยศรี ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลขุนทะเล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2452 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา กรณีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.254/2562 วันที่ 19 พ.ย.2562)
กรณียกคำร้อง
1.นายอดิศักดิ์ พรหมทา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มุกดาหาร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2551 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ. มุกดาหารเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 และยังดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 29 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณาผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภา อบจ. มุกดาหาร โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่เงินลงทุน 1 รายการ และไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ รายการซื้อขายรถยนต์แบบมีเงื่อนไขบังคับผ่อนชำระเป็นงวด ๆ 1 รายการ กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร มาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ เงินลงทุน 1 รายการ รถยนต์ 2 คัน ไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ รายการซื้อขายรถยนต์แบบมีเงื่อนไขบังคับผ่อนชำระเป็นงวด ๆ 1 รายการ และกรณีเข้ารับตำแหน่ง เลขานุการารนายกองคก์ารบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ไม่สดงรายการทรัพย์สินได้แก่ รถยนต์ 2 คัน ไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ รายการซื้อขายรถยนต์แบบมีเงื่อนไขบังคับผ่อนชำระเป็นงวด ๆ 1 รายการ
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2452 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องภายในสามสิบวัน นับแต่วันเข้ารับตำแหน่ง และวันพ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 32 และมาตรา 33 สำหรับกรณี พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร และกรณีเข้ารับตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 และวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 ตามลำดับ เมื่อนับถึงวันยื่นคำร้องคดีนี้และได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาศาลเมื่อวันที่ 14สิงหาคม 2562 จึงเกินกำหนดห้าปี คดีส่วนอาญาจึงเป็นอันขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป
ปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี หรือไม่
เห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ไม่ได้กำหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จึงเป็นกรณีที่บทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิดอีกต่อไป ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้กระทำการนั้นย่อมพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง และไม่อาจใช้มาตรการบังคับทางการเมืองแก่ผู้ถูกกล่าวหา กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีได้
จึงพิพากษาให้ยกคำร้อง.
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.255/2562 วันที่ 20 พ.ย.2562)
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :
ลอตใหม่ปี 63 !ศาลฎีกาฯฟัน 6 คดีบัญชีทรัพย์สิน-ให้นายก อบต.บางขนุน นนทบุรี พ้นทันที
รายชื่อ 117 นักการเมือง ถูกศาลฎีกาฯฟันคดียื่นบัญชีทรัพย์สิน-ท้องถิ่น 110 คน
INFO: 28 นักการเมือง หลุดคดีบัญชีทรัพย์สิน ปี 62
รายชื่อ 28 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สินปี 62
INFO: 117 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ฟัน จงใจยื่น‘บัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ป.ป.ช. ปี 2562
ปี 62 นักการเมือง 117 คนถูกศาลฎีกาฯฟันคดีบัญชีทรัพย์สิน-รองนายก อบต.มากสุด 51 ราย