คณะกรรมการสิทธิฯ ประณามการก่อเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจบันนังสตา พร้อมขอรัฐเร่งเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งดำเนินการสืบสวนตามข้อเท็จจริง เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
มีความพยายามตรวจสอบสาเหตุของการวางระเบิด “คาร์บอมบ์” ที่หน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เพราะถือเป็นเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ เป็น “คาร์บอมบ์” ลูกแรกของปี 67 โดยที่สถานการณ์ในภาพใหญ่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่ชัดเจน
สาเหตุที่คนร้ายสามารถปฏิบัติการ “คาร์บอมบ์” โจมตีได้ถึงหน้าแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา มี 2 เหตุผลใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ
ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วยงานความมั่นคง ทั้งตำรวจและทหาร ลงพื้นที่เกิดเหตุ “คาร์บอมบ์บันนังสตา” แทบตลอดทั้งวัน พร้อมกำชับมาตรการคุมเข้ม และความจำเป็นของการมี “ด่านตรวจ” เพื่อดูแลประชาชน
เป็นที่น่าสังเกตว่า “แฟลตตำรวจ” ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลายเป็นเป้าหมายของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ในการนำ “คาร์บอมบ์” เข้าไปโจมตีมาแล้วหลายครั้ง
“พ.ต.อ.ทวี” ลงพื้นที่เกิดเหตุ “คาร์บอมบ์บันนังสตา” แสดงความเสียใจ “ครูตาดีกา” สังเวยชีวิต สุดเศร้ารับเคราะห์ขณะซื้ออาหารไปทำเลี้ยงลูกศิษย์ ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บพุ่ง 21 ราย ผบช.ภ.9 แฉรถบรรทุกระเบิดเพิ่งถูกโจรกรรมเมื่อวาน ก่อเหตุวันนี้โดยไม่แปลงสภาพ ยังไม่ขึ้นทะเบียนเฝ้าระวัง
คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจบันนังสตา มีผู้บาดเจ็บ 18 ราย “รองผู้กำกับฯ” พร้อมครอบครัวโดนด้วย ส่วนเคราะห์ร้ายผู้เสียชีวิตเป็นหญิง สภาพศพไหม้เกรียม พิสูจน์อัตลักษณ์แล้วเป็นชาวบ้านจาก ต.บาเจาะ
เหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง กับเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ล่าสุด เมื่อช่วงสายของวันที่ 30 มิ.ย.67 ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา ซึ่งตั้งอยู่หลังบ้านพักตำรวจ สภ.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา
“คาร์บอมบ์” หน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายราย
นราธิวาสเป็น 1 ใน 9 จังหวัดที่ไม่มีตัวแทนกลุ่มอาชีพของตนหลุดเข้าไปเป็น “ว่าที่ สว.” เลยแม้แต่คนเดียว