ภายหลังมีหลายกระแสออกมาโจมตี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ กรณีพูดทำนองว่าเคยคิดว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็น “เขตปกครองพิเศษ” โดยให้คนพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องมุสลิมได้ปกครองกันเองหรือไม่ ถึงขั้นที่สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.เตรียมหาช่องทางกฎหมายเพื่อยื่นองค์กรองค์กรอิสระตรวจสอบเพื่อเอาผิด เพราะมองว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 1
“ไม่ได้พูดเรื่องเขตปกครองพิเศษเลย พูดแต่เรื่องคนอุยกูร์พูดภาษาอุยกูร์แล้วแปลเป็นภาษาจีน เหมือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พูดภาษามลายู และเราให้ความสำคัญกับเรื่องวัฒนธรรม”
การเดินทางเยือนไทยของนายกฯ อันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ในวันที่ 17 เม.ย.68 เดิมมีข่าวหลุดจากกระทรวงการต่างประเทศแต่เพียงว่าเป็นการเยือนแบบ working visit แนวๆ เช้าไป-เย็นกลับ แค่วันเดียว
สถานการณ์ของรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร คือ กำลังถูกมรสุมรุมถล่มอย่างไม่ต้องสงสัย
“สมาชิกสภาสูง” ขยับตรวจสอบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังเสนอแนวคิดให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น “เขตปกครองพิเศษ” เปิดโอกาสให้ “ปกครองตนเอง” เหมือนมณฑลซินเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน
การพูดแนว “จุดพลุ” ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่เล่าว่าตนเองเคยแอบคิดว่า ปลายทางของการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ “เขตปกครองพิเศษ” ในโมเดล “มณฑลซินเจียง” ของสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือไม่นั้น
คุยกันต่อกับ ดร.ซาช่า เฮลบาร์ต (Dr. Sascha Helbardt) นักวิจัยชาวเยอรมัน ซึ่งร่วมวิจัยในโครงการ “แนวความคิดในการต่อต้านความรุนแรงแบบสุดโต่ง กับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย”
การนำระเบิดแสวงเครื่องบรรทุกมากับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “รถโชเล่ย์” แล้วนำไปจอดเพื่อก่อเหตุวางระเบิดเป็น “โชเล่ย์บอมบ์” นั้น
นโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ถูกคิดและขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องหลายรัฐบาล
ปัญหาไฟใต้ที่ยืดเยื้อมาถึง 21 ปี ฝ่ายความมั่นคงบอกว่า สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ยังสร้างสันติสุขไม่สำเร็จ