ศาลฎีกาฯห้ามดำรงตำแหน่งการเมืองตลอดชีวิต นายก อบต.หนองปลิง ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช.

news wrp main

ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘วรพจน์ ทับพุ่ม’ นายก อบต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. 19 รายการ เงินลง รถ 10 คัน กรมธรรม์ เงินกู้ 4.2 ล. แบบ ภ.ง.ด. ปีภาษี 2561 ตอนพ้นตำแหน่งปี 2563 ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดไป จําคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษ 1 ปี

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายางานว่าเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า นายวรพจน์ ทับพุ่ม ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) หนองปลิง อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 19 รายการ ได้แก่ เงินลงทุน พร้อมโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเลขที่ 987 หมู่ที่ 2 ตําบลหนองปลิง อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มูลค่า 5,472,930 บาท รถยนต์ 10 คัน มูลค่า 4,000,829.92 บาท สิทธิและสัมปทาน สิทธิประกันชีวิต 5 รายการ มูลค่า 160,552.42 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงิน 2 รายการ รวมเป็นเงิน 4,215,912.63 บาท และไม่แสดง สําเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2561 ของผู้ถูกกล่าวหา รวมมูลค่าทั้งสิ้น 13,850,224.97 บาท ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท รับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้

ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นตามประกาศ ของผู้ร้อง จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบล หนองปลิง อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ ผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81, 114, 167

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

พิเคราะห์คําร้องประกอบเอกสารท้ายคําร้องและคําให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองปลิง อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 โดยแถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนตําบลหนองปลิงเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2554 และพ้นจากตําแหน่งด้วยการลาออกเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่ง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา 19 รายการ ได้แก่ เงินลงทุนพร้อมโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเลขที่ 987 หมู่ที่ 2 ตําบลหนองปลิง อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มูลค่า 5,472,930 บาท รถยนต์ 10 คัน มูลค่า 4,000,829.92 บาท สิทธิและสัมปทาน สิทธิประกันชีวิต 5 รายการ มูลค่า 160,552.42 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงิน 2 รายการ รวมเป็นเงิน 4,215,912.63 บาท และไม่แสดง สําเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2561 ของผู้ถูกกล่าวหา รวมมูลค่าทั้งสิ้น 13,850,224.97 บาท ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการยื่น บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบดังกล่าวต่อผู้ร้อง แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย

มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองปลิง หรือไม่ เห็นว่า เมื่อผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองปลิง จึงเป็นผู้บริหารท้องถิ่นและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4 ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องเมื่อพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภา ท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ.2561 การที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยไม่แสดงรายการ ทรัพย์สินมีมูลค่ารวมเป็นเงิน 9,634,312.34 บาท และรายการหนี้สินรวมเป็นเงิน 4,215,912.63 บาท ซึ่งล้วนแต่มีมูลค่าสูง ผู้ถูกกล่าวหาย่อมต้องรู้ถึงการมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวเป็นอย่างดี อีกทั้ง ผู้ถูกกล่าวหายังไม่แสดงสําเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2561 และเพิกเฉยไม่ชี้แจงเหตุแห่งความบกพร่อง ทั้งที่การยื่นบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องโดยถูกต้องตรงกับความจริงเป็นหน้าที่สําคัญของผู้บริหารท้องถิ่นที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและ หนี้สิน เพื่อป้องปรามผู้ใช้อํานาจรัฐโดยมิชอบ ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบล หนองปลิง มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง และการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวยังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองปลิง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 167 ด้วย

พิพากษาว่า นายวรพจน์ ทับพุ่ม ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองปลิง อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้ รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.12/2564 วันที่ 15 ธันวาคม 2564)

news 2712 wrp