4 คดีนายก อบต.-รองฯ สกลนคร ราชบุรี พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ยื่นเท็จ -ไม่ยื่นบัญชีฯ

ต่อเนื่อง! คำพิพากษา 4 คดีนักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ - จงใจไม่ยื่น นายก อบต. จ.สกลนคร รองนายก อบต. ราชบุรี เมืองพิษณุโลก ร้อยเอ็ด 3 ราย จำคุก 1-2 เดือน และปรับ 4,000-8,000 บาท รอการลงโทษ 1 ปี 1 คนโดนซ้ำ

news2903main

คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมืองท้องถิ่นยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 10 มี.ค. 2563 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดี การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง จำนวน 4 คดี จำแนกเป็น

กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ 3 คดี ได้แก่

1. นายยุทธ เส็งประเสริฐ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองกลางนา อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี พิพากษา ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2554 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

2. นายสายันต์ จีนด้วง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 มกราคม 2558 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

3. นายสัญชัย พัฒนเพ็ญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบต.วานรนิวาส ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน นับแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2561 และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2562 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ 1 คดี ได้แก่ นายอำนาจ คามวัลย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งเขาหลวง อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2556

รายละเอียดดังนี้

คดีจงใจยื่นบัญชีฯเท็จ

1.นายยุทธ เส็งประเสริฐ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองกลางนา อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.หนองกลางนา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2550 และพ้นจากตำ แหน่ง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2554 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 1 บัญชี ที่ดิน 1 แปลง ไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินกู้ธนาคาร 1 รายการ และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ ที่ดิน 2 แปลง ไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่เงินกู้ธนาคาร 1 รายการ

พิพากษาว่า นายยุทธ เส็งประเสริฐ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต. หนองกลางนา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2554 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดง ที่ อม.203/2562 วันที่ 6 ต.ค.2562)

news2903 1

2.นายสายันต์ จีนด้วง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำ รงตำ แหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2557 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่ง โดยไม่แสดงรายการเงินกู้จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาพิษณุโลก ของผู้ถูกกล่าวหาและ นางชญาพัฒน์ หรือวลัยลักษณ์ จีนด้วง คู่สมรส จำนวน 249,722.07 บาท และกรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการเงินกู้จากธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขาพิษณุโลก ของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส จำนวน 238,236.74 บาท

พิพากษาว่า นายสายันต์ จีนด้วง ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.บ้านกร่าง ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 มกราคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.212/2562 วันที่ 15 ส.ค.2562 )

news2903 2

3. นายสัญชัย พัฒนเพ็ญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต.วานรนิวาส ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2551 และพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2555 ต่อมาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต. วานรนิวาส ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2555 โดยแถลงนโยบายต่อสภา อบต.วานรนิวาส เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555 และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ นับแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณา

ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งนายก อบต.วานรนิวาส ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 6 บัญชี และเงินลงทุน 1 แห่ง

ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.วานรนิวาสครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 โดยไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 9 บัญชี เงินลงทุน 1 รายการ และรถยนต์ 1 คัน

ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งนายก อบต. วานรนิวาส ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 โดยไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 9 บัญชี เงินลงทุน 1 รายการ โรงเรือน 2 หลัง รถยนต์ 1 คัน และรายการเงินกู้จากสถาบันการเงิน 2 แห่ง

และยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลวานรนิวาส ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 โดยไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 8 บัญชี เงินลงทุน 1 รายการ โรงเรือน 2 หลัง รถยนต์ 1 คัน และรายการเงินกู้จากสถาบันการเงิน 2 แห่ง

พิพากษาว่า นายสัญชัย พัฒนเพ็ญ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่งนายก อบต. วานรนิวาส ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่งนายก อบต. วานรนิวาส ครั้งที่ 2 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.วานรนิวาส ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน นับแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 กรณีพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.วานรนิวาส ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่งนายก อบต.วานรนิวาส ครั้งที่ 2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.216/2562 วันที่ 20 ส.ค.2562)

news2903 3

จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ

1.นายอำนาจ คามวัลย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งเขาหลวง อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ทุ่งเขาหลวง เมื่อวันที่ 21มกราคม 2553 และพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดแต่ไม่แนบเอกสารให้ครบถ้วนถูกต้อง ได้แก่ สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส สำเนาสมุดเงินฝากหรือรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีของธนาคารทุกบัญชี สำ เนาทะเบียนบ้าน สำ เนาทะเบียนหรือคู่มือการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 รายการ สำเนาสัญญากู้เงินกองทุนหมู่บ้านหรือสำเนายอดหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2554 และสำเนาสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์หรือหนังสือรับรองยอดหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2554 ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่แนบเอกสารประกอบให้ครบถ้วนถูกต้อง ได้แก่ สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส สำเนาสมุดเงินฝากหรือรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เลขที่บัญชี 7222934465 ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2556 สำเนาทะเบียนหรือคู่มือการจดทะเบียน รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 รายการ สำเนาสัญญากู้เงินกองทุนหมู่บ้านหรือสำเนายอดหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2556 และสำเนาสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์หรือหนังสือรับรองยอดหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2556 และผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่แนบเอกสารประกอบ ให้ครบถ้วนถูกต้อง ได้แก่ สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส สำเนาสมุดเงินฝากหรือรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เลขที่บัญชี 7222934 465 ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2557 สำเนาทะเบียนหรือคู่มือการจดทะเบียน รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 รายการ สำเนาสัญญากู้เงินกองทุนหมู่บ้านหรือสำเนายอดหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2557 และสำเนาสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์หรือหนังสือรับรองยอดหนี้คงเหลือ รถจักรยานยนต์ ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2557 ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุผลของการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องพ้นระยะเวลาที่กำหนดและไม่แนบเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย

พิพากษาว่า นายอำนาจ คามวัลย์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำ หนด กรณีเข้ารับตำ แหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.ทุ่งเขาหลวง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก (คดีหมายเลขแดงที่ อม.204/2562 วันที่ 6 ส.ค.2562)

news2903 4

สำหรับ นายสายันต์ จีนด้วง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ก่อนหน้านี้ ปี 2561 ศาลฎีกาฯพิพากษา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. บ้านกร่าง ครั้งที่ 1 และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.บ้านกร่าง ครั้งที่ 2 ห้ามมิให้ ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 6 ม.ค.2558 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.บ้านกร่าง ครั้งที่ 2 กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 4 กระทง เป็นจำคุก 8 เดือน และปรับ 32,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอ การลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 86/2561-31 พ.ค.2561) (อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :ลอตใหญ่! ศาลฎีกาฯฟัน 17 นักการเมืองท้องถิ่น 14 จังหวัด จงใจไม่ยื่นทรัพย์สิน ป.ป.ช.)