ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ยืนยกคำร้อง ‘’สมบัติ อุทัยสาง’ รวยผิดปกติ 108.5 ล้าน ทรัพย์สินตามคำร้องเกิดก่อนเป็น รมช.มหาดไทย-ที่ปรึกษา รมว.ไอซีที ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจยกคดีขึ้นไต่สวน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ วันที่ 16 ต.ค.2563 ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีคำพิพากษาในชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ เรื่องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ระหว่าง อัยการสูงสุด ผู้ร้อง นางรุจิวรรณ อุทัยสาง ผู้คัดค้านที่ 1 นางบุรณี กาญจนถวัลย์ ที่ 2 นางวชิรญา เพิ่มภูศรี ที่ 3 นายพิทย อุทัยสาง ที่ 4 นายสมบัติ อุทัยสาง ผู้ถูกกล่าวหา สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกคำร้อง คดีนายสมบัติ อุทัยสาง อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร นางสุจิวรรณ อุทัยสาง กับพวกรวม 4 ราย เป็นผู้คัดค้าน คดีร่ำรวยผิดปกติ 108,574,356.23 บาท โดยเห็นว่าผู้ร้องไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้สั่งให้เงินฝากดังกล่าวเป็นของแผ่นดินได้ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีคำพิพากษาในชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ พิพากษายืน สรุปสาระสำคัญดังนี้
คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ก่อนว่า ผู้ร้องมีอํานาจยื่นคําร้อง คดีนี้หรือไม่
ผู้ร้องอุทธรณ์ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 66 วรรคแรก มิได้กําหนดอายุความในการยกคดีขึ้นไต่สวนไว้ จึงต้องใช้มาตรา 75 วรรคสอง ซึ่งแก้ไขอํานาจคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ยกคดีร่ำรวยผิดปกติขึ้น ไต่สวนได้ภายใน 10 ปี นับแต่พ้นจากตําแหน่งทางการเมืองครั้งสุดท้าย เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการปราบปรามการทุจริตจากการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ผลประโยชน์อันไม่สมควร คดีนี้มี ความคาบเกี่ยวในระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งหลายตําแหน่ง เมื่อไม่อาจแยกได้ชัดเจนว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาขณะดํารงตําแหน่งใด จึงควรนับเวลาหลังจากผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งทางการเมือง ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546 การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552 ให้คําสั่งมีผลย้อนหลังไป 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2551 ยังไม่ เกิน 10 ปี คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีอํานาจยกคดีขึ้นไต่สวนได้ และการตีความคําว่าร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งหมายความว่า การมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติหรือหนี้สินลดลงผิดปกติ หนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 ต้องตีความอย่างกว้างเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ความร่ำรวยผิดปกติจะเกิดขึ้นระหว่างดํารงตําแหน่งรองปลัดกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และประธานกรรมการบริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ย่อมมีอํานาจยกคดีขึ้นไต่สวนได้
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์โดยมติเอกฉันท์ เห็นว่า ทรัพย์สินที่ผู้ร้องกล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติตามคําร้องเกิดขึ้นและคาบเกี่ยวในการดํารงตําแหน่งหลายตําแหน่ง และในระหว่างการดํารงตําแหน่งต่าง ๆ นั้น มีกฎหมายใช้บังคับหลายฉบับ การพิจารณาว่าจะนําบทบัญญัติใดมาบังคับแก่คดี ย่อมต้องคํานึงถึงเนื้อหาสาระของกฎหมายในการบังคับว่ามีเงื่อนไขขั้นตอนการดําเนินการตาม กฎหมายในแต่ละช่วงเวลาอย่างไร เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายปรากฏว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2535 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2536 ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งอธิบดีกรม อุตุนิยมวิทยา วันที่ 1 ตุลาคม 2536 ถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2538 ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งรอง ปลัดกระทรวงคมนาคม วันที่ 18 กรกฎาคม 2538 ถึงวันที่ 28 กันยายน 2539 ผู้ถูกกล่าวหา ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และวันที่ 25 มีนาคม 2540 ถึงวันที่ 25 เมษายน 2541 ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งประธานกรรมการบริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ในช่วงเวลาดังกล่าวมีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ พ.ศ. 2518 มาตรา 21 จัตวา ซึ่งกําหนดว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหา ร้องเรียนว่ามีพฤติการณ์ร่ํารวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการได้มีมติให้รับเรื่องไว้พิจารณาตามมาตรา 20 แล้ว แม้ภายหลังผู้นั้นจะพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไปแล้ว คณะกรรมการมีอํานาจดําเนินการ ต่อไปได้แต่ต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อไม่ปรากฏว่ามีผู้กล่าวหาและไม่มีการดําเนินการกรณีร่ำรวยผิดปกติตามที่กฎหมายบัญญัติ ภายในวันครบกําหนดหนึ่งปีนับแต่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งต่าง ๆ ดังกล่าว อํานาจในการ ดําเนินการกรณีร่ำรวยผิดปกติในตําแหน่งอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รองปลัดกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และประธานกรรมการบริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่ใช้ขณะนั้นจึงสิ้นสุดลง
ต่อมาวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2543 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2544 ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งประธานกรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2544 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2545 ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย วันที่ 29 ตุลาคม 2545 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2546 ผู้ถูกกล่าวหาดํารง ตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในระหว่างนั้นมี พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งใช้ บังคับเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2542 โดยมาตรา 75 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่มีการ กล่าวหาว่าผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดร่ำรวยผิดปกติ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาวินิจฉัยเบื้องต้นก่อนว่าพฤติการณ์หรือเรื่องที่กล่าวหานั้น เข้าหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ซึ่งได้แสดงบัญชีรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินไว้แล้ว ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. นําบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาด้วย” และวรรคสอง บัญญัติว่า “การกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ ต้องกระทําในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี ” แสดงว่า กรณีที่จะมีการกล่าวหาว่าผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดร่ำรวยผิดปกตินั้น จะต้องมีการกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มี คําวินิจฉัยก่อนว่าจะรับพิจารณาหรือไม่ และการกล่าวหาดังกล่าวจะต้องกระทําในขณะที่ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี เมื่อไม่ปรากฏว่า มีผู้กล่าวหาและไม่มีการดําเนินการกรณีร่ำรวยผิดปกติตามที่กฎหมายบัญญัติภายในสองปี อํานาจในการดําเนินการยกคดีขึ้นไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกติตามบทบัญญัติของกฎหมายที่ใช้ขณะนั้นจึงสิ้นสุดลงอีกเช่นเดียวกัน
สําหรับข้ออุทธรณ์ของผู้ร้องที่ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. อ้างตําแหน่งครั้งหลังสุด คือ ตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546 ไปไต่สวนทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.พบว่า ผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติก่อนการดํารงตําแหน่งครั้งสุดท้ายเป็นเวลาสิบปีและขอให้ศาลมีคําสั่งให้ทรัพย์ของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสตกเป็นของแผ่นดินนั้น เห็นว่า เป็นการขยายระยะเวลาในการไต่ สวนซึ่งมีผลเป็นการเพิ่มเติมกฎหมายและขยายอํานาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีอยู่จํากัดใน ช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งให้เกินเลยไปถึงในช่วงเวลาที่ไม่มีอํานาจด้วย แม้ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2552 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษาว่า ผู้คัดค้านที่ 1 และ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าของเงินในบัญชีเงินฝากรวม 9 บัญชี และเงินดังกล่าวมิได้เป็นของบุตร ผู้ถูกกล่าวหาอย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการเงินฝากทั้ง 9 บัญชี จึงเป็นการจงใจ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามคดีหมายเลขแดงที่ อม.8/2552 ของศาลนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคําสั่งที่ 23/2552 ลงวันที่ 14 มกราคม 2552 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีมี เหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหาในขณะดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่ำรวยผิดปกติ ต่อมาประมาณ 2 ปี จึงได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 โดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2554 ซึ่ง มาตรา 75 ที่แก้ไขใหม่ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “…ให้ผู้กล่าวหาดําเนินการกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหายังดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากตําแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินห้าปี...” วรรคสอง บัญญัติว่า “ในกรณีที่ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐพ้นจากการดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือพ้นจากการ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเกินห้าปีแล้ว ห้ามมิให้มีการกล่าวหาผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ ของรัฐนั้นตามวรรคหนึ่งอีก แต่ไม่เป็นการตัดอํานาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะยกคํากล่าวหาที่ ได้มีการกล่าวหาไว้แล้วหรือกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นร่ำรวยผิดปกติขึ้นไต่สวนได้ ทั้งนี้ต้องไม่เกินสิบปีนับแต่วันที่ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นพ้นจากตําแหน่งทางการเมือง หรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วแต่กรณี”
เห็นได้ว่า ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคําสั่งให้ไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกติ หาได้มีกฎหมาย ใดให้อํานาจในการยกคดีขึ้นไต่สวนแต่อย่างใด และเป็นการแก้ไขกฎหมายที่มีผลให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจไต่สวนย้อนหลังไปถึงกรณีที่สิ้นสุดเวลาการไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกติแล้วและทรัพย์สินที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่าร่ำรวยผิดปกติก็ล้วนแล้วแต่เป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งอื่นมิใช่ตําแหน่งที่ยกคดีขึ้นไต่สวนแต่อย่างใด แม้คดีร่ำรวยผิดปกติจะฟ้องคดีได้โดยไม่มีกําหนดอายุความก็ตาม แต่การยกคดีขึ้นไต่สวนนั้นมีกระบวนการเพื่อให้ ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสแสวงหาพยานหลักฐานมาโต้แย้งว่าทรัพย์สินที่มีอยู่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นการจะแปลความให้อํานาจเจ้าหน้าที่ของรัฐดําเนินการเมื่อใดเวลาใดก็ได้ย่อมจะก่อให้เกิดภาระ แก่ผู้ถูกกล่าวหาเกินสมควร เช่นในคดีนี้ผู้ร้องยื่นคําร้องเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 โดยกล่าวอ้าง ถึงบัญชีเงินฝากของผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านทั้งสี่เมื่อประมาณปี 2540 ถึงปี 2543 และกล่าวอ้าง ถึงตําแหน่งที่ผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติในช่วงปี 2535 ถึงปี 2544 การปล่อยเวลาให้ล่วงพ้นมา นับสิบปีทําให้การหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ว่า ทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหาไม่ได้เกิดจากการร่ำรวย ผิดปกติหรือทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นนั้น มีที่มาโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างไรเป็นไปได้ยาก เพราะเอกสาร ความเชื่อมโยงทางบัญชีธนาคารในคดีนี้ได้ถูกทําลายตามระบบของธนาคารไปแล้ว จึงอาจทําให้ ผู้ถูกกล่าวหาต้องรับโทษทางทรัพย์สินโดยไม่อาจหาพยานหลักฐานมาโต้แย้งได้ การยกคดีขึ้นไต่สวน จึงควรอยู่ในเงื่อนไขการดําเนินการภายในเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติในขณะนั้น การที่ผู้ร้องอุทธรณ์ ให้ใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 75 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2554 เพื่อให้มีผลย้อนหลังไปบังคับกับการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกิดขึ้นก่อนมีกฎหมายบัญญัติ ทําให้มีอํานาจไต่สวนอย่างไม่มีสิ้นสุด ประกอบกับทรัพย์สินตามคําร้องเกิดขึ้นในช่วงก่อนที่ผู้ถูกกล่าวหาจะดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ย่อมมิใช่เป็นทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติสืบเนื่องจากการใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่หรือจากการปฏิบัติตามหน้าที่ตามตําแหน่งที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้เป็นมูลเหตุในการไต่สวนทรัพย์สินตามคําร้อง ดังนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอํานาจที่จะออกคําสั่งแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการไต่สวนโดยอ้างอิงตําแหน่งทั้งสองนี้เพื่อเป็นเหตุทําให้เกิดอํานาจไต่สวนย้อนหลังไปถึง ทรัพย์สินที่ได้มาเมื่อล่วงพ้นกําหนดเวลาไต่สวนแล้วได้ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอํานาจที่จะยกคดี ขึ้นไต่สวนข้อเท็จจริงได้แล้ว ผู้ร้องย่อมไม่มีอํานาจยื่นคําร้องขอให้ศาลมีคําสั่งให้ทรัพย์สินตามคําร้องตกเป็นของแผ่นดินได้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกคำร้องมานั้นชอบแล้ว องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย เมื่อวินิจฉัยเช่นนี้แล้วจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาอื่นอีกต่อไปเพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลง อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน (คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ.17/2563 วันที่ 16 ต.ค.2563)
หมายเหตุ : ภาพประกอบ คุณสมบัติ อุทัยสาง จาก โพสต์ทูเดย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘สมบัติ อุทัยสาง’รอด! ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรวยผิดปกติ-ป.ป.ช.สอบหลังพ้นเก้าอี้เกิน 2 ปี
ข่าวคดีการยื่นบัญชีทรัพย์สินอื่น
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืนยกคำร้อง นายก อบต.เขาทอง จ.กระบี่ ยื่นเท็จ คดีขาดอายุความแล้ว
คดีขาดอายุความแล้ว! ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืน ยกคำร้อง ส.ท.พระนครศรีอยุธยายื่นเท็จ
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืน ยกคำร้อง ส.อบจ.มุกดาหาร ยื่นบัญชีฯเท็จ –คดีขาดอายุความแล้ว
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายก อบต.นาหัวบ่อ สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ-ขาดอายุความ
คุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รองนายกเทศฯ ต.ขวาว ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ -รอลงโทษ 1 ปี
อีกคดี!ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืนยกคำร้อง รองนายกเทศฯบางริ้น ยื่นเท็จ-ขาดอายุความ
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน ยกคำร้องคดีรองนายก อบต.ท่าพล ยื่นเท็จ -ขาดอายุความแล้ว
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษาแก้เพิ่มหนึ่งกระทง รองนายกเทศฯห้วยกระบอก ราชบุรี ยื่นเท็จ
คุก 1 เดือนปรับ 4,000 บ. รองนายก อบต.บ้านพร้าว หนองบัวลำภู ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
โดนครั้งที่ 3 ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต.บางพระ ฉะเชิงเทรา ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ยกคำร้อง คดีรองนายก อบจ.ตราด ยื่นบัญชีฯเท็จตอนพ้น 1 ปี กม.ใหม่ไม่กำหนดเป็นความผิด
ศาลฎีกาฯ ห้ามนายกเทศฯ ต.นาซอ สกลนคร ดำรงตำแหน่งการเมือง 5 ปี ยื่นบัญชีฯ ไม่ครบ
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.ป่าไร่ จ.มุกดาหาร ซุกหนี้-ที่ดิน ส.ป.ก.-รอลงโทษ 1 ปี
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน ยกคำร้อง ส.จ.นครปฐม ซุกทรัพย์สิน คดีขาดอายุความ
ศาลฎีกาฯคุก 2 เดือน รองนายก อบต.ท่าเคย จ.ราชบุรี ซุกหนี้แบงก์ ป.ป.ช. - รอลงโทษ 1 ปี
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืนยกคำร้อง ส.อบจ.นนทบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ คดีขาดอายุความ
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน นายก อบต.บางยอ จ.สมุทรปราการ ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน ‘ศักดาพินิจ’ที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงราย ยื่นเท็จ-ซุกหนี้ห้องชุด ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.เรือง จ.น่าน จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.-รอลงโทษ
คุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท รองนายก อบต.ป่ามะม่วง จ.ตาก ยื่นบัญชีฯเท็จ – รอลงโทษ
คุก 1 เดือน นายก อบต.ถ้ำเจริญ จ.บึงกาฬ ไม่ยื่นเอกสารเงินฝาก-แบบภาษีเงินได้ –รอลงโทษ
คุก 1 เดือน นายก อบต.ลำทับ จ.กระบี่ ซุก ป.ป.ช. เงินฝาก 7 บัญชี ที่ดิน 7 แปลง รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.โป่งผา จ.เชียงราย ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช.-รอลงโทษ
ขาดอายุความ 5 ปี!ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรองนายก อบต. จ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน นายกเทศฯ ต.หนองหญ้าลาด จ.ศรีสะเกษ ยื่นเท็จ ป.ป.ช.
ซุกเงินฝาก 3 บัญชี!ศาลฎีกาฯคุก 2 เดือน รองนายก อบต.ชลคราม จ.สุราษฎร์ฯ รอลงโทษ 1 ปี
ซุกเงินฝาก 4 บัญชี!ศาลฎีกาฯ คุก 1 เดือนรองนายกเทศมนตรี ต.สวนผึ้ง ราชบุรี -รอลงโทษ 1 ปี
ซุกเงินฝาก 1 บัญชี ป.ป.ช.!ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รองนายก อบต.ท่าไม้ นครสวรรค์ -รอลงโทษ
ไม่แจ้งที่ดินเมีย 1 แปลง ป.ป.ช.!ศาลจำคุก 1 เดือน นายก อบต.วังหมัน จ.ตาก-รอลงโทษ 1 ปี
ไม่แสดงทรัพย์สินเมีย!ศาลให้นายก อบต.บากเรือ ยโสธร พ้นตำแหน่ง คุก 1 ด. -รอลงโทษ
เปิดบช.รับค่านายหน้า 1 ล. ทิ้งหลงลืม! ศาลยกคำร้อง นายกเทศฯ จ.ชัยนาท ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
คุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี รองนายก อบต.บางตะเคียน จ.สุพรรณฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ขาดอายุความ 5 ปี! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบจ. มุกดาหาร ยื่นบัญชีฯเท็จ 2 ครั้ง
คุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต. ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
กม.ใหม่ไม่กำหนด! ศาลยกคำร้อง นายก อบต.ลาดพัฒนา จ.มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีพ้น 1 ปี
คุก 1 เดือน-ให้พ้นตำแหน่ง นายก อบต.สำโรง จ.ศรีสะเกษ ซุกเงินฝาก 12 บัญชี-รอลงโทษ
คุก 1 เดือน รองนายก อบต.หนองหญ้าไทร จ.พิจิตร ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. -รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก 2 เดือน รองนายก อบต.หนองกบ จ.ราชบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ 2 ครั้ง-รอลงโทษ
ซุกหนี้ 2.2.ล้าน! ศาลคุก 1 เดือนรองนายก อบต.แม่ลา อยุธยา ยื่นเท็จ ป.ป.ช.- รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฯ จำคุก 1 เดือน รองนายก อบต. จ.อุบลฯไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รองนายก อบจ.มุกดาหาร ปกปิดทรัพย์สิน-รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง-จำคุก 1 เดือนรองนายก อบต.จะรัง ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ 3 ครั้ง-รอลงโทษ
ซุกเงินฝาก-หุ้นสหกรณ์! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือนรองนายก อบต.วัดเพลง จ.ราชบุรี-รอลงโทษ
คุก 1 เดือน! ศาลฎีกาฯฟันรองนายก อบต. เต่างอย สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง-รอลงโทษ
ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.4 ครั้ง! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือนรองนายก อบต. จ.นครสวรรค์-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง-คุก 1 เดือน รองนายก อบต.ศรีประจันต์ สุพรรณฯ ยื่นเท็จ 3 ครั้ง-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯยกคำร้องรองนายก อบต. ท่าพล จ.เพชรบูรณ์ ยื่นเท็จ ป.ป.ช.3 ครั้ง ขาดอายุความ
ขาดอายุความ ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯ จ.กาญจนบุรี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. 3 ครั้ง
ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. 2 ครั้ง! ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน รองนายก อบต. จ.พิษณุโลก - รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง ส.อบจ. นนทบุรี เขตบางบัวทอง ยื่นบัญชีเท็จ ป.ป.ช. ขาดอายุความ
ซุกเงินหนี้ 2 บัญชี 1.8 ล.! ศาลฎีกาฯ จำคุก 1 เดือน รอง อบต. จ.พิจิตร - ให้รอลงโทษ
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.! จำคุก 1 เดือน รองนายกเทศฯ จ.สกลนคร รอลงโทษ
ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช.! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายกเทศฯ จ.มุกดาหาร รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง!ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต. จ.อุบลฯ ซุกหุ้นรับเหมา 1 ล.-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง!ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รองนายก อบต. จ.สุโขทัย ยื่นเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบต.จ.สกลนคร ปกปิดทรัพย์สิน ป.ป.ช.อื้อ-ขาดอายุความ
ให้พ้นตำแหน่งทันที จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.จ.ลพบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช.
ขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายก อบต.ในจ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุกคนละ 1-2 เดือน 3 นักการเมืองท้องถิ่น จ.นครศรีฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือนรอลงโทษ นายก อบต.- รอง ฯ จ.ร้อยเอ็ด คดีบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีรองนายก อบต. จ.สิงห์บุรี ไม่แสดงเงินฝาก 10,055.69 บาท
โดนคดีที่สอง!รองนายกเทศฯ จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ 2 ปี
ขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง อดีต ส.ว.นครปฐม ยื่นบัญชีฯเท็จ ยุคเป็น ส.จ.
มีเมียแล้วแต่แจ้งโสด! ศาลฎีกาฯฟัน รองนายกเทศฯ จ.ราชบุรี ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช.
ยกคำร้องอีกราย! นายก อบต.ใน จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ 5 ปี
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ผู้สมัคร ส.ส.มุกดาหาร ยุคนั่ง นายก อบต.ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
อีกราย! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯ จ.พิษณุโลก ยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ 5 ปี
ขาดอายุความ 5 ปี! ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง นายก อบต.โกรกพระ นครสวรรค์ ซุกทรัพย์สิน
ให้พ้นตำแหน่งทันที! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศฯนครสกลนคร ไม่แจ้งถือหุ้น 45.6 ล.
ศาลฎีกาคุก 1 เดือน นายก อบต. จ.สุโขทัย-รองนายกเทศฯมุกดาหารยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง คดี ส.จ.ลพบุรี-รองนายกเทศฯ จ.ระนอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน อดีต ส.ส.นนทบุรีช่วงนั่งรองนายกฯท.-รอลงโทษ 1 ปี
นายก อบต.ปากท่อ ราชบุรี ยื่นเท็จ! ศาลฎีกาฯฟัน 3 รายคดีบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษจำคุกรวด
ศาลฎีกาฟันอีก 4 นักการเมืองท้องถิ่น นครพนม สระบุรี ปัตตานี อุบลฯ คดีบัญชีทรัพย์สิน
ปกปิดทรัพย์สิน! ศาลฎีกาฯฟันอีก 4 นักการเมืองท้องถิ่น สตูล นครนายก ร้อยเอ็ด นครปฐม
4 คดีนายก อบต.-รองฯ สกลนคร ราชบุรี พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ยื่นเท็จ -ไม่ยื่นบัญชีฯ
คุก 4 เดือน! นายกเทศฯสระโบสถ์ จ.ลพบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ1 ปี-เคยถูก จนท.ค้นบ้าน
ศาลฎีกาฯฟัน 3 รายคดีบัญชีทรัพย์สิน! ให้รองนายกเทศฯ ในอยุธยา พ้นตำแหน่ง ซุกเพียบ
ส.จ.สระบุรีรอด! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ไม่ยื่นฯป.ป.ช. รถกระบะเก่า 1 คัน เงินฝาก 5,099.27 บาท
ศาลฎีกาฯ‘จำคุก-รอลงโทษ’รองนายกเทศฯ จ.พัทลุง - นายก อบต. สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ
2 นายกเทศฯสมุทรสงคราม - บางริ้น จ.ระนอง ยื่นบัญชีเท็จ ศาลจำคุก 1-2 เดือน รอฯ 1 ปี
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน ปลัดเทศบาล จ.สมุทรสาคร ยื่นเท็จ-คุก 2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
คดีขาดอายุความ! ศาลฎีกาฯยกคำร้อง นายก อบต. แสนทอง จ.น่าน ยื่นบัญชีฯเท็จ
คุก 1 เดือน นายก อบต. ใน จ.สิงห์บุรี ปัตตานี คดีบัญชีทรัพย์สิน -รอลงโทษ 1 ปี
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต.บางพรม จ.สมุทรสงคราม รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศมนตรี จ.สุรินทร์ ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช. 4 ครั้ง
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีฯเท็จ เหตุขาดอายุความ-เคยถูก ตร.ยุคบิ๊กโจ๊กสอบ
ศาลฎีกาฯคุก 1 ด.-รอลงโทษ รองนายกอบต. จ.สตูล -รองเทศมนตรี จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ลอตใหม่ปี 63 !ศาลฎีกาฯฟัน 6 คดีบัญชีทรัพย์สิน-ให้นายก อบต.บางขนุน นนทบุรี พ้นทันที
รายชื่อ 117 นักการเมือง ถูกศาลฎีกาฯฟันคดียื่นบัญชีทรัพย์สิน-ท้องถิ่น 110 คน
INFO: 28 นักการเมือง หลุดคดีบัญชีทรัพย์สิน ปี 62
รายชื่อ 28 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สินปี 62
INFO: 117 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ฟัน จงใจยื่น‘บัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ป.ป.ช. ปี 2562
ปี 62 นักการเมือง 117 คนถูกศาลฎีกาฯฟันคดีบัญชีทรัพย์สิน-รองนายก อบต.มากสุด 51 ราย