อ้างหย่าเมียแต่โชว์รูปในเฟซบุ๊ก! ศาลฎีกาฯฟันรองนายก อบต.ท่าซุง จ.อุทัยฯ ซุกเงินฝาก ป.ป.ช.

100121 sarn11

ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษา‘วิเชียร แสงนุภาพ’รองนายก อบต.ท่าซุง จ.อุทัยธานี จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช. ไม่แสดงเงินฝากเมีย 1 บัญชียอดกว่า 1 ล้าน อ้างหย่าแยกกันอยู่แต่ฟังไม่ขึ้น พบโชว์รูปในเฟซบุ๊กอยู่ด้วยกันที่บ้านใน จ.ปทุมธานี ห้ามดำรงตำแหน่งการเมือง 5 ปี จําคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ลดเหลือ 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี

.........................................

100121 sarn1

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินราย นายวิเชียร แสงนุภาพ รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) ท่าซุง อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่ง โดยไม่แสดงบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) ของ นางน้ำไส เม้าเขียว คู่สมรส ห้ามดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี จําคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจําคุก ให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้

ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าซุง อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษฐาน เป็นผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 และ 167

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

พิเคราะห์คําร้อง ประกอบเอกสารท้ายคําร้อง และคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าซุง อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานีเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2556 และพ้นจากตําแหน่ง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 ต่อมาวันที่ 13 กรกฎาคม 2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งดังกล่าว โดยไม่แสดงบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) สาขาถนนรังสิต-นครนายก (คลอง 2) เลขที่บัญชี 292-1-39935-5 ชื่อบัญชี นางน้ำไส เม้าเขียว คู่สมรส

ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณี พ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าซุง อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี หรือไม่

เห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมาย ที่ใช้ภายหลังการกระทําความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคําร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําผิดบังคับแก่คดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 ส่วนมาตรการบังคับทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 มิใช่มาตรการบังคับทางการเมืองตามกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําความผิด จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 บังคับแก่คดี ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล จึงเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องภายในสามสิบวันนับแต่วันเข้ารับตําแหน่ง วันพ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33

ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าซุงโดยไม่แสดงบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรี อยุธยา จํากัด (มหาชน) สาขาถนนรังสิต-นครนายก (คลอง 2) เลขที่บัญชี 292-1-39935-5 ของ นางน้ำไส เม้าเขียว ซึ่งเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ถูกกล่าวหาในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง โดยในวันที่ 12 มีนาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่นางน้ำไสเปิดบัญชีเงินฝาก ผู้ถูกกล่าวหายังคงดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าซุง และในวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง มียอดเงินอยู่ในบัญชีเงินฝากของนางน้ำไส 1,006,990.96 บาท เมื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวทางการเงินนับแต่เปิดบัญชีเป็นต้นมา มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มีรายการที่สําคัญ เช่น วันที่ 12 มีนาคม 2558 มียอดเปิดบัญชี 1,300,000 บาท วันที่ 21 พฤษภาคม 2558 มียอดถอนเงิน 300,000 บาท วันที่ 17 ธันวาคม 2558 มียอดฝากเงิน 500,000 บาท และวันที่ 12 มกราคม 2559 มียอดถอนเงิน 1,000,000 บาท เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าบัญชีเงินฝากของนางน้ำไสที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้แสดงต่อผู้ร้องเป็นบัญชี เงินฝากที่มีการใช้งานโดยมีการฝากและถอนเงินจํานวนมากผ่านบัญชีอยู่ตลอด ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงต่อผู้ร้องอ้างว่าแยกกันอยู่กับนางน้ำไสมาตั้งแต่ปี 2550 และในวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหาไม่รับรู้เรื่องทรัพย์สินของนางน้ำไสนั้น ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเพิ่งจดทะเบียน หย่ากับนางน้ำไสเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560

อีกทั้งจากการตรวจสอบการใช้งานเฟซบุ๊กของ ผู้ถูกกล่าวหาพบว่าในปี 2557 ผู้ถูกกล่าวหายังคงแสดงออกให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหามีความสัมพันธ์เป็นสามีภริยากับนางน้ำไส และมีการพักอาศัยที่หมู่บ้านซื่อตรง เลขที่ 97/20 หมู่ 1 ตําบลบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี อันเป็นภูมิลําเนาตามแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรของนางน้ำใสอีกด้วย ข้อชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาจึงมีพิรุธ เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหารับรู้ถึงความมีอยู่ของบัญชีเงิน ฝากของนางน้ำไสเป็นอย่างดี เมื่อรับฟังประกอบคําให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาของบัญชีเงินฝากดังกล่าว

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าซุง อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี มีผลห้ามมิให้ ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วัน พ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง และเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอัน เป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119

พิพากษาว่า นายวิเชียร แสงนุภาพ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าซุง อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่พ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จําคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

(คดีหมายเลขแดงที่ อม.20/2563 วันที่ 22 ธ.ค.2563 )

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินอื่น

พิพากษายืน ยกคำร้อง นายก อบต.พยุหะ จ.นครสวรรค์ ยื่นบัญชีฯเท็จ คดีขาดอายุความ

คุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รองนายก อบต.ควนสุบรรณ จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ รอลงโทษ

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืนขาดอายุความ รองนายก อบต.คูเมือง อุบลฯไม่ยื่นบัญชีฯ

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืนยกคำร้อง‘’สมบัติ อุทัยสาง’รวยผิดปกติ 108.5 ล.

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืนยกคำร้อง นายก อบต.เขาทอง จ.กระบี่ ยื่นเท็จ คดีขาดอายุความแล้ว

คดีขาดอายุความแล้ว! ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืน ยกคำร้อง ส.ท.พระนครศรีอยุธยายื่นเท็จ

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายืน ยกคำร้อง ส.อบจ.มุกดาหาร ยื่นบัญชีฯเท็จ –คดีขาดอายุความแล้ว

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายก อบต.นาหัวบ่อ สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ-ขาดอายุความ

คุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รองนายกเทศฯ ต.ขวาว ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ -รอลงโทษ 1 ปี

อีกคดี!ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืนยกคำร้อง รองนายกเทศฯบางริ้น ยื่นเท็จ-ขาดอายุความ