อัยการสหรัฐฯ ได้มีการเปิดเผยถึงคำฟ้อง 57 หน้า เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของนายอดัมส์ โดยอัยการระบุว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 โดยตอนนั้นตุรเคียระบุว่าจะให้การสนับสนุนทางการเงินให้กับการหาเสียงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของอดัมส์ในปี 2564
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ขอเสนอเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับนายอีริค อดัมส์ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่ล่าสุดถูกกล่าวหาว่ามีความผิดรวมทั้งสิ้น 5 กระทง รวมถึงกรณีการรับสินบนจากตุรเคีย
สำนักข่าวหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาได้รายงานข่าวกรณีนายอีริค อดัมส์ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ถูกคณะลูกขุนใหญ่กล่าวหาว่ามีความผิดในข้อหาทางอาญาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาเหล่านี้ยังเป็นความลับ อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลสองคนที่รับรู้เกี่ยวกับประเด็นนี้
“ข้อกล่าวหาที่มีต่อนายอดัมส์ที่ยังคงปิดผนึก อย่างน้อยก็ในช่วงวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ตามคำกล่าวอ้างของผู้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวเอพีที่ขอไม่ระบุตัวตนเนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยเรื่องนี้” Hollywood Reporter รายงาน
สำหรับคำฟ้องที่มีต่อนายอดัมส์ถูกรายงานครั้งแรกโดยสำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส อย่างไรก็ตามสำนักอัยการสหรัฐฯ ในแมนฮัตตันปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องนี้
“ผมรู้เสมอว่าถ้าผมยืนหยัดเพื่อชาวนิวยอร์ก ผมจะเป็นเป้าหมาย — และผมก็เป็นจนได้” นายอดัมส์กล่าวในแถลงการณ์และย้ำว่าถ้าตัวเขาถูกตั้งข้อหา ขอยืนยันว่าเขาบริสุทธิ์ และจะต่อสู้ด้วยพลังและจิตวิญญาณที่เขามีทั้งหมด
คำฟ้องที่มีต่อนายอดัมส์ถือว่าเป็นจุดตกต่ำที่น่าตกใจสำหรับนายอดัมส์ที่มาจากพรรคเดโมแครต โดยอดีตผู้กองตำรวจนิวยอร์กรายนี้ชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมื่อเกือบสามปีก่อน ส่งผลทำให้เขาได้กล่าวเป็นนายกเทศมนตรีผิวสีคนที่สองของนิวยอร์ก ซึ่งหลังจากที่นายอดัมส์เข้ารับตำแหน่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เขาได้สัญญาว่าจะจัดการเรื่องแนวทางด้านกฎหมาย ลดอาชญากรรมและสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับมหานครแห่งนี้
ในช่วงปีที่ผ่านมานายอดัมส์ต้องเผชิญกับข้อครหาทางกฎหมายที่เพิ่มขึ้น เพราะการสอบสวนของหน่วยงานรัฐบาลกลางหลายครั้งเกี่ยวกับกรณีอื้อฉาวเรื่องที่ปรึกษาระดับสูง ส่งผลทำให้มีการออกหมายศาลการค้นหาหลักฐานและการบุคคลระดับสูงต้องออกจากตำแหน่ง นี่จึงทำให้โครงสร้างการบริหารงานในเทศบาลนครเข้าขั้นวิกฤติ
นายอดัมส์ได้ปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเขาไม่ได้ทราบถึงการกระทำผิดใดๆ และพูดถึงข้อกล่าวหาว่าทั้งหมดเป็นข่าวลือและการเสียดสี และให้คำมั่นในวันที่ 25 ก.ย.ว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป
"ผู้คนในเมืองนี้เลือกผมให้ต่อสู้เพื่อพวกเขา และผมจะอยู่และต่อสู้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” นายอดัมส์กล่าว
การสอบสวนรัฐบาลกลางเกี่ยวกับทีมบริหารของนายอดัมส์ที่มีมาแล้วหลายครั้ง เริ่มปรากฏให้เห็นสู่สาธารณะตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2566 เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานสอบสวนกลางสหรัฐฯหรือเอฟบีไอได้เข้าบุกค้นบ้านแห่งหนึ่งในย่านบรูคลิน ซึ่งภายหลังปรากฎว่าบ้านหลังนี้คือบ้านของนางบริแอนนา ซักส์ หัวหน้าฝ่ายระดมทุนของนายอดัมส์
การตรวจสอบนายอีริค อดัมส์ (อ้างอิงวิดีโอจาก Face The Nation)
ในช่วงเวลาดังกล่าวนายอดัมส์ยืนยันว่าเขาได้ปฏิบัติตามกฎหมายและตกใจมากที่รู้ว่ามีคนในทีมหาเสียงเขาทำผิดกฎหมาย
หนึ่งวันหลังจากที่เอฟบีไอค้นบ้าน เอฟบีไอก็ได้ดำเนินการยึดโทรศัพท์และไอแพดของนายกเทศมนตรีขณะที่เขากำลังออกงานอีเวนท์ที่แมนฮัตตัน
และล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.ย. เจ้าหน้าที่สอบสวนกลางได้ยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากผู้บัญชาการตำรวจของนครนิวยอร์ก ยึดอุปกรณ์จากอธิบดีที่บริหารด้านกิจการโรงเรียน,จากรองนายกเทศมนตรีฝ่ายความปลอดภัยสาธารณะ,จากรองนายกเทศมนตรีคนแรก และยึดอุปกรณ์จากคนสนิทของนายอดัมส์จำนวนหลายคนทั้งที่ทำงานและไม่ได้ทำงานในศาลาว่าการนครนิวยอร์ก
อัยการกลางปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบสวน แต่ผู้ที่รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับองค์ประกอบของคดีของนายอดัมส์ได้ระบุถึงสอบสวนหลายครั้งที่แยกจากกันแต่ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับผู้ช่วยระดับอาวุโสของนายอดัมส์ ญาติของผู้ช่วยเหล่านั้น การระดมทุนในการรณรงค์หาเสียงและการใช้อิทธิพลที่อาจเกิดขึ้นโดยตํารวจและหน่วยดับเพลิงนิวยอร์ก
ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังการตรวจยึด นายเอ็ดเวิร์ด คาบัน อธิบดีตำรวจนิวยอร์กก็ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยเขาให้เหตุผลกับบรรดาเจ้าหน้าที่ว่าเขาไม่อยากให้การสืบสวนถูกเบี่ยงเบน สองสัปดาห์ถัดมา นายเดวิด แบงค์ส อธิบดีกิจการโรงเรียนก็ประกาศว่าจะลาออกภายในสิ้นปีนี้
ทางด้านของนายอดัมส์ได้กล่าวยืนยันว่าเขาจะยังคงดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีและปล่อยให้การสืบสวนดำเนินต่อไป
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา อัยการกลางได้ออกหมายเรียกนายอดัมส์ ออกหมายเรียกทีมงานรณรงค์หาเสียง และออกหมายเรียกผู้บริหารที่ศาลากลาง โดยอัยการได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับตารางเวลาของนายกเทศมนตรี การเดินทางต่างไปประเทศและความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐบาลตุรเคีย
สำหรับประวัติของนายอดัมส์พบว่าเขาเคยทำงานในกรมตำรวจนิวยอร์กนาน 22 ปี ก่อนเข้าสู่วงการการเมือง โดยเริ่มต้นในฐานะวุฒิสภาประจำรัฐ และต่อมาก็เป็นประธานในเขตบรูคลิน ซึ่งเป็นตำแหน่งในทางพิธีการ
ในปี 2564 นายอดัมส์ชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี โดยเริ่มต้นจากการชนะแคนดิเดตคนอื่นจากพรรคเดโมแครต และต่อมาก็ชนะนายเคอร์ติส สลิวา คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน และยังเป็นผู้ก่อตั้งองค์กร Guardian Angels องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งเน้นด้านการต่อต้านอาชญากรรม
หลังจากดํารงตําแหน่งมานานกว่าสองปี ความนิยมของนายอดัมส์ก็ลดลง แม้ว่านครนิวยอร์กจะมีการจ้างงานมากขึ้น และอาชญากรรมบางประเภทลดลงก็ตาม แต่ว่าฝ่ายบริหารของนครกลับเดินหน้าในเรื่องของความพยายามหาที่อยู่ให้กับผู้อพยพต่างชาติหลายหมื่นคน ที่ตอนนี้ครอบงำที่พักพิงผู้ไร้บ้านในนครนิวยอร์ก
นอกจากนี้ยังมีข้อกล่าวหาอย่างต่อเนื่องและความสงสัยรอบ ๆ คนที่ใกล้ชิดกับนายกเทศมนตรี
อัยการเขตแมนฮัตตันยังได้ฟ้องร้องอีกหกผู้ต้องหา รวมถึงอดีตผู้กองตํารวจที่สนิทสนมกับนายอดัมส์มานาน โดยข้อหาระบุว่าเกี่ยวกับแผนการใช้เงินหลายหมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับการรณรงค์หาเสียงของนายกเทศมนตรีโดยมีการเข้าไปควบคุมโครงการกองทุนจับคู่หลายโครงการ เพื่อหวังจะได้สิทธิพิเศษจากทางนคร แต่นายอดัมส์ไม่ได้ถูกกล่าวโทษว่ากระทำผิดในคดีดังกล่าว
ในปีที่ผ่านมานายเอริค อุลริค เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยอาคารชั้นนําในระดับสูง ซึ่งเป็นทีมงานของนายอดัมส์ถูกตั้งข้อหาว่ารับสินบน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (4,855,500 บาท) และของขวัญที่ไม่เหมาะสมเพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางการเมือง รวมถึงการเข้าถึงตัวนายกเทศมนตรี ซึ่งนายอุลริคได้ปฏิเสธการกระทำผิดและกำลังต่อสู้กับข้อกล่าวหา
ข่าวอัยการตั้งข้อหาสินนนายอีริค อดัมส์ (อ้างอิงวิดีโอจาก CBS)
ในเดือน ก.พ. เจ้าหน้าที่สืบสวนรัฐบาลเอฟบีไอได้ตรวจค้นทรัพย์สินสองแห่งของนางวินนี่ เกรโก ผู้ช่วยคนสนิทคนหนึ่งของอดัมส์ ซึ่งระดมทุนได้หลายพันดอลลาร์ในการบริจาคแคมเปญจากชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายจีนในเมือง และต่อมาได้เป็นผู้อํานวยการฝ่ายกิจการเอเชียของนายอดัมส์ นางเกรโกไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับการตรวจค้นทรัพย์สินของเธอของเอฟบีไอและยังคงทํางานให้กับนครนิวยอร์กต่อไป
ทั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากนายเอ็ดเวิร์ด คาบัน อดีตอธิบดีตำรวจนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการตรวจสอบไปถึงนายเจมส์ คาบัน น้องชายฝาแฝดที่เป็นอดีตตำรวจและตอนนี้ทำธุรกิจให้คำปรึกษาสถานบันเทิงยามค่ำคืน พร้อมกับยึดอุปกรณ์จากนายฟิลลิป แบงค์ส พี่ชายของนายเดวิด แบงค์ส อธิบดีกิจการโรงเรียน โดยนายฟิลลิป แบงค์สนั้นเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) และปัจจุบันเป็นรองนายกเทศมนตรีด้านความปลอดภัยสาธารณะ ยีดอุปกรณ์จากนายเทอเรนซ์ แบงค์ส น้องชายของพวกเขา ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษาที่ให้คำสัญญาว่าจะเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหน่วยงานรัฐ และยึดอุปกรณ์จากนางชีน่า ไรท์ รองนายกเทศมนตรีคนที่หนึ่ง ผู้เป็นพันธมิตรกับนายเดวิด แบงค์ส
แน่นอนว่าทั้งหมดปฏิเสธการกระทำผิด
@ความคืบหน้าล่าสุด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา อัยการสหรัฐฯ ได้มีการเปิดเผยถึงคำฟ้อง 57 หน้า เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของนายอดัมส์ โดยอัยการระบุว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 โดยตอนนั้นตุรเคียระบุว่าจะให้การสนับสนุนทางการเงินให้กับการหาเสียงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของอดัมส์ในปี 2564 และให้ผลประโยชน์กับนายอดัมส์ในรูปแบบของการเดินทางอย่างหรูหรา ห้องพักราคาพิเศษในโรงแรมหรู และมื้ออาหารในร้านอาหารชั้นนำ
อัยการกล่าวว่า นายอดัมส์ได้ตอบแทนตุรเคียโดยการกดดันเจ้าหน้าที่ของเมืองนิวยอร์กให้อนุญาตให้เปิดดำเนินการสถานกงสุลแห่งใหม่สูง 36 ชั้นของตุรกีได้ แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยก็ตาม
แน่นอนว่านายอดัมส์ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และยืนยันว่าจะต่อสู้คดีในชั้นศาล
@กรณีดิดดี้
ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกรณีการจับกุมนาย ‘ดิดดี้’ หรือ ‘ฌอน ดิดดี้ โคมบ์ส’ แร็ปเปอร์ชาวอเมริกันในข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคนดังหลายวงการ ซึ่งนายจีน ดีล อดีตบอร์ดี้การ์ดของนายดิดดี้กล่าวยืนยันว่าทั้งนายอีริค อดัมส์ และนายดิดดี้มีความสัมพันธ์กัน โดยการสอบสวนนายอดัมส์ได้นำมาซึ่งการสอบสวนนายดิดดี้ตามมา
ข่าวนายดิดดี้คืนกุญแจเมืองให้นายอีริค อดัมส์
และมีรายงานข่าวล่าสุดว่านายอดัมส์เคยมอบกุญแจเมืองนิวยอร์กให้กับนายดิดดี้ด้วยเช่นกันในช่วงเดือน ก.ย.ปีที่ผ่านมา และต่อมาในเดือน มิ.ย. นายอดัมส์ก็ได้ขอให้นายดิดดี้คืนกุญแจเมืองนิวยอร์ก หลังจากที่มีข่าวว่านายดิดดี้ทำร้ายร่างกายแฟนเก่า
เรียบเรียงจาก:hollywoodreporter.com/news/general-news/new-york-city-mayor-eric-adams-indicted-1236012269/,https://allhiphop.com/rumors/diddy-investigation-triggered-by-ties-to-eric-adams-claims-former-bad-boy-boss-bodyguard/
- ส่องคดีทุจริตโลก:อิสราเอลส่อเอี่ยวเพชรสีเลือดแอฟริกา หารายได้หมื่นล.หนุนสงครามฉนวนกาซา
- ส่องคดีทุจริตโลก:ศาลฝรั่งเศสพิจารณาคดี เสธ.ฯฮั้วจัดจ้าง บ.โลจิสติกส์ ขนส่งพื้นที่ขัดแย้ง
- ส่องคดีทุจริตโลก: สส.พรรคปฏิรูปอังกฤษ เจอข้อครหาซุกทรัพย์สินนับล้าน ณ เกาะเจอร์ซีย์
- ส่องคดีทุจริตโลก: ศาลโปแลนด์ออกหมายจับ ขรก.จัดซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ไม่ส่งมอบให้ยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก: อดีต รบ.โปแลนด์จ้างเอกชนไร้ประสบการณ์ ผลิตกระสุนปืนใหญ่มูลค่าแสน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:สธ.ยูเครนสั่งยกเลิกประกวดราคาสร้าง รพ.หลังสื่อตีข่าวกระบวนการไม่เหมาะสม
- ส่องคดีทุจริตโลก:ตั้งข้อหาผู้บริหาร บ.คู่กรณีพันธมิตรทรัมป์ จ่ายสินบน ปธ.กกต.ฟิลิปปินส์
- ส่องคดีทุจริตโลก:EU เดินหน้าสอบ-เรียกเงิน รบ.ไซปรัสสร้างสถานีก๊าซ 2 หมื่นล. 6 ปีไม่เสร็จ
- ส่องคดีทุจริตโลก:รบ.เคนยาเดินหน้า เจาะจงเอกชนอินเดียยึดสัมปทาน บริหารสนามบินนาน 30 ปี
- ส่องคดีทุจริตโลก:อดีตผู้บริหารโกลด์แมนแซคส์ ถูกสอบจ่ายสินบน จนท.กานา แลกสัญญาโรงไฟฟ้า
- ส่องคดีทุจริตโลก:ผบ.ทร.ญี่ปุ่นประกาศลาออก เซ่นปมอื้อฉาว จนท.เบิกงบเท็จ-ความลับรั่วไหล
- ส่องคดีทุจริตโลก: ตร.บราซิลแจ้งข้อหาฟอกเงิน อดีต ปธน.หลังสั่งผู้ช่วยขายนาฬิการับจากซาอุฯ
- ส่องคดีทุจริตโลก:ป.ป.ช.ออสซี่สอบสัญญา กห.3.6 หมื่นล. หลัง บ.ฝรั่งเศสประกวดราคาเจ้าเดียว
- ส่องคดีทุจริตโลก:สหรัฐฯ เผยขบวนการค้ายาเม็กซิโกใช้กลุ่มชาวจีนฟอกเงิน หากำไรนับพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.จีนสร้างทางหลวงหมื่น ล.10ปีไม่เสร็จ ได้งานรัฐมาซิโดเนียเหนือ 2 สัญญา
- ส่องคดีทุจริตโลก:อดีต รมช.กห.จอร์เจีย แจ้งรายได้7แสน/ปี ซื้อแฟลตหรูในลอนดอน 26 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ภรรยานายกฯทาจิกิสถาน ไม่แจ้งรายได้ ซื้อวิลล่าหรู 51 ล.ณ นครดูไบ
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปงชาวรัสเซีย ซื้ออสังหาฯในดูไบ 2.3 แสนล. หลังเหตุรุกรานยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:พันธมิตรสื่อทั่วโลกแฉดูไบ แหล่งฟอกเงินผู้ก่อการร้าย-กลุ่มอาชญากร
- ส่องคดีทุจริตโลก:ฟิลลิป มอร์ริส ส่อใช้ช่องไม่โปร่งใส ผูกขาดธุรกิจบุหรี่แสน ล.ในอียิปต์
- ส่องคดีทุจริตโลก : สส.เท็กซัส ถูกกล่าวหารับสินบน 22 ล.แลกผลักดัน กม.เอื้อ ปย.อาเซอร์ไบจาน
- ส่องคดีทุจริตโลก: รมช.กห.รัสเซียถูกจับสินบน สะท้อนเกมการเมือง ก่อน ปูตินเป็น ปธน.สมัย 5
- ส่องคดีทุจริตโลก: บ.กลาโหมอังกฤษ กำไรแสนล. หาผลประโยชน์ รบ.ทุจริต-ละเมิดสิทธิมนุษยชน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ยุโรปเดินหน้าสอบเอกชนกรีซ ส่อฮั้วประมูลโครงการ EU 9.7 หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารแอฟริกาแบนเอกชนจีน 1 ปี เหตุทำธุรกิจ-เดินหน้าสัญญาถนนไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก: นักธุรกิจ-นายหน้า รบ.จีน ในฟิจิ ถูกออสซี่กล่าวหาพัวพันองค์กรอาชญากรรม
- ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.แคนาดาประกาศยกเครื่องระบบจัดซื้อ หลังข้อครหาเอกชนทำใบเก็บเงินเท็จ
- ส่องคดีทุจริตโลก: เอกชนสหรัฐฯจ่ายคอมมิชชั่นเจ้าชายซาอุฯ 501 ล. แลกสัญญากลาโหม 3.3 พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกสาร กห.อังกฤษจ่ายสินบนให้ราชวงศ์ซาอุฯ แลกสัญญา บ.รบหมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปม กองทัพอาระกันขายวัสดุนิวเคลียร์แลกอาวุธ ใช้ยากูซ่าเป็นนายหน้า
- ส่องคดีทุจริตโลก: ลูกขุนสหรัฐฯฟันอดีตพ่อค้าน้ำมัน บ.วิตอล คดีสินบนเม็กซิโก-เอกวาดอร์
- ส่องคดีทุจริตโลก: อัยการยุโรปสั่งสอบ 3 มหาวิทยาลัยเอี่ยวโกงงบช่วยเหลือ EU นับร้อยล้าน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ปธน.เกาหลีใต้ อ้างเป็นเรื่องโชคร้าย หลังภรรยาถูกครหารับกระเป๋า 8 หมื่น
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.น้ำมันใหญ่จ่ายสินบนพัน ล.ให้ จนท.รัฐทุกระดับ-แลกสัญญาน้ำมันเอกวาดอร์
- ส่องคดีทุจริตโลก: อดีตคนวงในแฉจนท. UN รวมหัวเรียกสินบนโครงการฟื้นฟูอิรัก 5.3 หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เอกสารแพนโดร่าแฉอดีต รมว.คลังมาเลย์ ถือครองอสังหาฯ 1.8 พันล. ณ ลอนดอน
- ส่องคดีทุจริตโลก:เอกชนเยอรมันจ่ายเงิน 7.7พันล. ยุติคดีสินบนในต่างแดน
- ส่องคดีทุจริตโลก: สว.สหรัฐฯฉาวอีก ถูกครหารับสินบนนักลงทุน แลกออกแถลงการณ์สนับสนุนกาตาร์