ส่องคดีทุจริตโลก:ตั้งข้อหาผู้บริหาร บ.คู่กรณีพันธมิตรทรัมป์ จ่ายสินบน ปธ.กกต.ฟิลิปปินส์

เขียนวันที่

วันอาทิตย์ ที่ 11 สิงหาคม 2567 เวลา 12:30 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

1602 views

Smartmatic

เพื่อที่จะปกปิดการจ่ายเงินอันไม่ถูกต้อง นายฮวน โดนาโต้ บาติสต้า อดีตประธาน กกต.ฟิลิปปินส์ ผู้สมรู้ร่วมคิดในการสร้างกองทุนโคลน ได้มีการใช้ชื่อรหัสต่อให้ตัวเองว่า Philippines Pot ตามการรายงานของเจ้าหน้าที่สืบสวน ที่ระบุต่อไปว่าเขาได้มีการสร้างข้อตกลงเงินกู้อันหลอกลวง เพื่อจะให้มีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารทั้งในสิงคโปร์,ฮ่องกง,สวิตเซอร์แลนด์ นิวยอร์ก และฟลอริดา

ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอกรณีทางการสหรัฐอเมริกาได้มีการตั้งข้อหากับผู้บริหารบริษัทสมาร์ทมาติก (Smartmatic) ว่าได้มีการจ่ายเงินสินบน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (35,253,000 บาท) เพื่อแลกกับการติดตั้งเครื่องลงคะแนนเสียงในประเทศฟิลิปปินส์ การตั้งข้อหาดังกล่าวนั้นยังถือว่าเป็นความพ่ายแพ้อย่างมีนัยยะสำคัญเนื่องจากบริษัทนี้มีข้อบาดหมางกับพันธมิตรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะถูกกล่าวหาอย่างไม่มีมูลเกี่ยวกับกรณีว่าได้มีการควบคุมผลการจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปี 2563

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้มีการระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ว่า นายโรเจอร์ ปินาเต พลเมืองเวเนซุเอลา ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสมาร์ทมาติกซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโบคา ราตัน รัฐฟลอริดา พบว่าได้มีการจ่ายเงินสินบนให้กับประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประเทศฟิลิปปินส์ผ่านกองทุนโคลนที่ถูกสร้างขึ้น และมีการเรียกเก็บเงินที่สูงเกินจริงสำหรับเครื่องลงคะแนนเสียงในแต่ละเครื่องที่จัดหาให้กับเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้ง

แถลงการณ์กระทรวงยุติธรรมซึ่งไม่ได้เอ่ยถึงชื่อบริษัทสมาร์ทมาติกตรงๆ ระบุต่อไปว่ากระบวนการจ่ายเงินเกิดขึ้นระหว่างปี 2558-2561 เพื่อที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าบริษัทจะได้ทำธุรกิจกับทางการฟิลิปปินส์ และรับประกันว่าบริษัทจะได้รับผลประโยชน์สำหรับงานที่เกิดขึ้น

เพื่อที่จะปกปิดการจ่ายเงินอันไม่ถูกต้อง นายฮวน โดนาโต้ บาติสต้า อดีตประธาน กกต.ฟิลิปปินส์ ผู้สมรู้ร่วมคิดในการสร้างกองทุนโคลน ได้มีการใช้ชื่อรหัสต่อให้ตัวเองว่า Philippines Pot ตามการรายงานของเจ้าหน้าที่สืบสวน ที่ระบุต่อไปว่าเขาได้มีการสร้างข้อตกลงเงินกู้อันหลอกลวง เพื่อจะให้มีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารทั้งในสิงคโปร์,ฮ่องกง,สวิตเซอร์แลนด์ นิวยอร์ก และฟลอริดา

ข่าวตั้งข้อหาอดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ฟิลิปปินส์ (อ้างอิงวิดีโอจาก Inquirer.net)

สำหรับเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจ่ายอย่างผิดกฎหมายพบว่าถูกใช้โดยสมาชิกครอบครัวของนายบาติสต้าเพื่อจะไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในนครซานฟรานซิสโก

กระบวนการสืบสวนผู้บริหารของบริษัทเริ่มต้นในปี 2560 เมื่อภรรยาของนายบาติสต้ายืนยันกับผู้สืบสวนในฟิลิปปินส์ว่าสามีของเธอได้รับความมั่งคั่งมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (705,060,000 บาท) ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งความมั่งคั่งบางส่วนนั้นเป็นเงินสดที่พบเจอในบ้านของพวกเขา

ปี 2566 ที่ผ่านมา นายบาติสต้าถูกจับด้วยข้อหาทางคดีอาญาที่นครไมอามี่ โดยรายละเอียดข้อหาระบุว่าเขารับเงินสินบนเพื่อแลกกับการมอบสัญญาคิดเป็นมูลค่าเกือบ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7,050,600,000 บาท) เพื่อให้ส่งมอบเครื่องลงคะแนนเสียงที่ผลิตในไต้หวันจำนวนหลายหมื่นเครื่อง ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในช่วงปี 2559

ก่อนหน้าที่จะถูกจับกุม นายบาติสต้าได้ปฏิเสธว่าเขาไม่เคยรับเงินไม่ว่าจะทั้งจากบริษัทสมาร์ทมาติกหรือนิติบุคคลอื่นๆ อย่างไรก็ตามทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งห้ามไม่ให้บริษัทสมาร์ทมาติกเข้าร่วมเสนอราคาในสัญญาการจัดหาเทคโนโลยีสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในปี 2568

ส่วนบริษัทสมาร์ทมาติกได้ออกแถลงการณ์ระบุว่าบริษัทได้สั่งพักงานพนักงานสองคน มีผลภายในทันที

“ไม่มีการกล่าวหาว่ามีการฉ้อโกงการเลือกตั้งและบริษัทก็ไม่ได้ถูกฟ้องร้องแต่อย่างใด ทางบริษัทยืนยันว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วโลกต้องมั่นใจว่าการเลือกตั้งที่พวกเขาเข้าร่วมนั้นดำเนินการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและความโปร่งใสสูงสุด” บริษัทสมาร์ทมาติกกล่าวในแถลงการณ์

นายปินาเต ร่วมก่อตั้งบริษัทสมาร์ทมาติกมาตั้งแต่เกือบ 20 ปีก่อนหน้านี้แล้ว และความสำเร็จในช่วงแรกของการก่อตั้งมาจากการที่บริษัทได้รับสัญญากับรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีอูโก้ ชาเวซ ของเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นผู้ที่ชื่นชอบในระบบการลงคะแนนเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างยิ่ง และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาระบบการลงคะแนนเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ขยายไปใน 25 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่อาร์เจนตินาไปจนถึงแซมเบีย รวมถึงหลายประเทศในยุโรป

สมาร์ทมาติกโฆษณาเครื่องลงคะแนนเสียงที่ใช้งานในประเทศเคนยา (อ้างอิงวิดีโอจาก Smartmatic)

ต่อมาในปี 2560 บริษัทสมาร์ทมาติกได้ตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับทางเวเนซุเอลา โดยบริษัทกล่าวหาว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ได้พยายามที่จะควบคุมจำนวนผู้มาลงคะแนนเลือกตั้งในการเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งชาติ บริษัทยังได้กล่าวอีกว่ารัฐบาลได้ประกาศจำนวนผู้มาลงคะแนนสูงเกินจริงไปถึง 1 ล้านเสียง

สำหรับการตั้งข้อหาที่สหรัฐฯ นายปินาเตที่เป็นประธานบริษัทสมาร์ทมาติกและนายฮอร์เก มิเกล วาสเกซ พลเมืองสหรัฐฯ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอีกคนถูกตั้งข้อหาคนละหนึ่งกระทงในความผิดฐานละเมิดกฎหมายว่าด้วยการกระทําอันเป็นการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐฯ. (Foreign Corrupt Practices Act: FCPA) ซึ่งมีโทษสูงสุด จำคุก 5 ปีในเรือนจำ โดยปัจจุบันทั้งคู่มีถิ่นพักอาศัยอยู่ที่ทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อหานายเอลี่ โมเรโน พลเมืองสองสัญชาติ เวเนซุเอลา-อิสราเอล ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทสมาร์ทมาติกที่มีส่วนในการจัดการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศฟิลิปปินส์กับบริษัทสมาร์ทมาติก ฐานละเมิดกฎหมาย FCPA ด้วยเช่นกัน และทั้งหมดยังถูกตั้งข้อหาว่าได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินในหลายข้อหา ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี

นายปินาเตยังเคยโพสต์ลงบนหน้าโพรไฟล์ของตัวเองบนเพจ LinkedIn ระบุถึงคำขวัญของบริษัทสมาร์ทมาติกว่า “การปกป้องความซื่อสัตย์สุจริตในการเลือกตั้งเป็นหัวใจสําคัญของสิ่งที่เราทํา”

บริษัทสมาร์ทมาติกเคยมีประวัติว่าฟ้องร้องสถานีข่าว ฟ็อกซ์ นิวส์พันธมิตรของนายทรัมป์ ในข้อกล่าวหาว่าฟ็อกซ์นิวส์ได้ออกอากาศ นำเสนอคำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จว่าซอฟต์แวร์ที่บริษัทได้มีส่วนเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2563 ผลของการฟ้องร้องคดีก็คือสถานีโทรทัศน์ One America News Network ได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทสมาร์ทมาติก ด้วยเงื่อนไขที่ไม่ถูกเปิดเผยแต่อย่างใด

มีรายงานว่าผู้ให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้บริษัทสมาร์ทมาติกดำเนินการฟ้องหมิ่นประมาทที่มีมูลค่าการต่อสู้คดีสูงนั้นก็คือนายรีด ฮอฟฟ์แมน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ LinkedIn ซึ่งตัวเขาปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อสื่อ ในกรณีที่ผู้บริหารสมาร์ทมาติกถูกตั้งข้อกล่าวหา

สมาร์ทมาติกยังเคยฟ้องร้องพันธมิตรของนายทรัมป์อีกจำนวนหลายคน รวมไปถึงนายรูดี้ จูลิอานี ทนายความส่วนตัวของนายทรัมป์ แต่ว่าคดีต้องชะงักเอาไว้ก่อนเนื่องจากนายจูลิอานีได้ยื่นเรื่องขอล้มละลาย

เรียบเรียงจาก:https://abcnews.go.com/US/wireStory/venezuelan-founder-voting-machine-company-targeted-trump-allies-112714421,https://www.nbcnews.com/politics/politics-news/smartmatic-executives-indicted-allegedly-bribing-phillipine-official-rcna165944

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage