เจ้าชายบันดาร์ได้มีพระราชหัตเลขาไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษซึ่งรับผิดชอบในการโปรโมตการขายอาวุธในทุกไตรมาส ในพระราชหัตเลขามีการเรียกร้อง “ขอให้ชำระเงินค่างวดในครั้งถัดไป” พอหลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนนี้ได้รับพระราชหัตเลขา ก็ได้มีการแนะนำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมอีกคน “ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และตัวเขาก็จะมอบหมายไปยังบริษัท BAE ให้ทำการชำระเงิน”
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอความไม่โปร่งใสกรณีข้อกล่าวหาว่าภาคส่วนด้านกลาโหมของประเทศอังกฤษได้มีการจ่ายสินบนให้กับสมาชิกราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียนานนับปี และเป็นมูลค่ามหาศาล
โดยสำนักข่าวการ์เดียนรายงานว่ากระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรกำลังตกอยู่ภายใต้ข้อครหาเกี่ยวกับการชำระเงินที่น่าสงสัย เพราะมีความกังวลกันว่าในการทำสัญญาจัดซื้ออาวุธระหว่างสหราชอาณาจักรกับประเทศซาอุดิอาระเบียนั้น อาจมีการโอนเงินบางส่วนเข้าไปสู่กระเป๋าของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย
ก่อนหน้านี้มีการเปิดโปงเอกสารลับว่ากระทรวงกลาโหมษตกลงที่จะมีการชำระเงินไปยังบัญชีธนาคารของซาอุดิอาระเบียด้วยวิธีการอย่างไร ซึ่งการเปิดโปงดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่สำนักงานต่อต้านทุจริตร้ายแรงของสหราชอาณาจักรหรือ SFO ได้เข้ามาตรวจสอบข้อกล่าวหาการทุจริต
เอกสารระบุว่าบุคคลระดับสูงในกระทรวงกลาโหมกำลังมีความกังวลว่าการปฏิเสธคำขอให้ชำระเงินของซาอุดิอาระเบียนั้นอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงทำให้บุคคลระดับสูงในซาอุดิอาระเบียบางคนไม่พอใจ และยังเน้นย้ำด้วยว่าจำเป็นต้องรักษาซาอุดิอาระเบียให้ยืนเคียงข้างอังกฤษในช่วงเวลาที่วิกฤตนี้
รูปแบบการชำระเงินแบบใหม่ที่ว่ามานี้อยู่ในเอกสารที่ถูกจัดทำขึ้นมาหลังจากที่ SFO ได้ดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาการทุจริตของบริษัท BAE ซึ่งเป็นบริษัทค้าอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ซึ่งบริษัทนี้ถูกกล่าวหาว่าได้มีการจ่ายสินบนมหาศาลให้กับราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย เพื่อแลกกับการทำสัญญาชื่อว่าสัญญาอัล-ยามามาห์ (al-Yamamah) ระหว่างสหราชอาณาจักรและซาอุดิอาระเบีย
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนของ SFO ถูกยกเลิกอย่างกะทันหันในปี 2549 หลังจากที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรภายใต้การนำของนายโทนี่ แบลร์ (เป็นนายกฯตั้งแต่ปี ค.ศ.1997-2007) ณ เวลานั้นถูกกดดันจากซาอุดิอาระเบีย และแน่นอนว่าการยกเลิกการสอบสวนก็ทำให้เกิดความไม่พอใจระหว่างประเทศตามมาชื่อเสียงของสหราชอาณาจักรที่เสียหายอย่างรุนแรงในเรื่องของการควบคุมการทุจริต
เอกสารที่ว่ามานั้นปรากฏให้สาธารณชนได้เห็นในการดำเนินคดีที่ศาลเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ในเอกสารมีทั้งอีเมล,บันทึกข้อความ,ข้อความหลายจุดที่ถูกระบุว่าเป็นเนื้อหาอ่อนไหว เนื้อหาที่ต้องถูกควบคุม โดยทั้งหมดเกี่ยวกับสัญญาอัล-ยามามาห์ คิดเป็นมูลค่า 4 หมื่นล้านปอนด์ (1,819,149,840,000 บาท)
สำหรับรายละเอียดสัญญานั้นจะเป็นการที่ประเทศอังกฤษจะจัดส่งเครื่องบินรบรุ่นพาเนเวีย ทอร์นาโดจำนวน 120 ลำ เครื่องบินรบรุ่นฮอว์ค และอุปกรณ์ทหารอื่นๆให้กับประเทศซาอุดิอาระเบีย
ทางด้านของนางซูซาน ฮอว์ลีย์ ผู้อำนวยการองค์กร Spotlight on Corruption ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังการทุจริตในสหราชอาณาจักรรวมถึงในที่อื่นที่สหราชอาณาจักนได้มีอิทธิพลได้กล่าวว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่ง เพราะว่าหลังจากสิ้นสุดการไต่สวนของ SFO แล้ว ทางกระทรวงกลาโหมได้มีการสร้างระบบใหม่ที่มีความไม่โปร่งใสมากขึ้น เพื่อทำให้การจ่ายเงินยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด
ส่วนกระทรวงกลาโหมกล่าวว่าซาอุดิอาระเบียมีหน้าที่รับผิดชอบในการเบิกจ่ายเงินภายใต้ข้อตกลงใหม่
"เงินดังกล่าวทั้งหมดยังคงเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียตลอดเวลา" โฆษกกล่าว
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการเตรียมการจ่ายเงินในรูปแบบที่คล้ายๆกันหรือไม่ โฆษกกล่าวว่าเราไม่สามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงที่อยู่ในสัญญาที่มีอยู่ได้
ดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ลิงก์นี้
@การจ่ายเงินลับ
เอกสารฉบับใหม่ที่สำนักข่าวการ์เดียนได้นำเสนอไปนั้นยืนยันข้อมุลว่ากระทรวงกลาโหมและบริษัท BAE ซึ่งเป็นผู้รับเหมารายหลักในสัญญาอัล-ยามามาห์ ดำเนินการด้วยระบบที่เป็นความลับเพื่อชำระเงินเป็นไตรมาสให้กับเจ้าชายบันดาร์ บิน สุลต่าน ระหว่างปี ค.ศ.1988-2007
เอกสารนี้ยังย้อนแย้งกับคำกล่าวอ้างที่กินเวลานานกว่าหลายทศวรรษจากทางฝั่งรัฐมนตรีอังกฤษหลายคนว่าไม่มีการทุจริตในข้อตกลงนี้ ซึ่งข้อตกลงนี้ถูกล็อบบี้โดยนางมาการ์เร็ต แทตเชอร์ ในช่วงทศวรรษที่ 80 และมีรายงานว่าเจ้าชายบันดาร์ บุตรของเจ้าชายสุลต่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของซาอุดิอาระเบียในเวลานั้นมีบทบาทสำคัญในการเจรจา
ในบันทึกตอนหนึ่งระบุคำว่า “กระบวนการปกติ” นั้นคือการที่เจ้าชายบันดาร์ได้มีพระราชหัตเลขาไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษซึ่งรับผิดชอบในการโปรโมตการขายอาวุธในทุกไตรมาส ในพระราชหัตเลขามีการเรียกร้อง “ขอให้ชำระเงินค่างวดในครั้งถัดไป” พอหลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนนี้ได้รับพระราชหัตเลขา ก็ได้มีการแนะนำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมอีกคน “ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และตัวเขาก็จะมอบหมายไปยังบริษัท BAE ให้ทำการชำระเงิน”
ทางกระทรวงกลาโหมกล่าวว่าการที่บริษัท BAE จ่ายเงินให้กับเจ้าชายบันดาร์เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลอังกฤษและซาอุดิอาระเบีย และซาอุดิอาระเบียก็เป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะนำเงินไปใช้อย่างไร และยังกล่าวเสริมว่ามันเป็นแค่การคาดเดาเท่านั้นที่จะมาบอกว่าการจ่ายเงินนั้นเป็นการทุจริต
เครื่องบินรบทอร์นาโดของซาอุดิอาระเบีย (อ้างอิงวิดีโอจาก Joluqa Malta)
@ยกเลิกการสอบสวน
ในปี 2547 SFO ได้ดำเนินการสอบสวนสืบสวนเกี่ยวข้องข้อกล่าวหาว่าบริษัท BAE ได้จ่ายสินบนในหลายประเทศทั่วโลก พอมาถึงปลายปี 2549 SFO ได้ยื่นคําร้องทางกฎหมายอย่างเป็นทางการต่อเจ้าหน้าที่ในสวิตเซอร์แลนด์เพื่อจะเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร ซึ่งพวกเขาเชื่อกันว่าบัญชีนี้เป็นบัญชีรับเงินอันทุจริตที่เกี่ยวข้องกับสัญญาอัล-ยามามาห์
มีรายงานว่าเจ้าชายบันดาร์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลของโทนี่ แบลร์หยุดการไต่สวน ในเดือน ธ.ค. 2549 นายปีเตอร์ โกลด์สมิธ อัยการสูงสุดในขณะนั้น ได้ตัดสินว่าเป็นผลประโยชน์แห่งชาติของสหราชอาณาจักรที่จะยุติการสอบสวน ส่วนนายแบลร์กล่าวว่าเขา "รับผิดชอบอย่างเต็มที่" สําหรับการตัดสินใจนี้
ในเดือน มิ.ย.2550 สำนักข่าวการ์เดียนได้เปิดเผยว่ามีข้อพิสูจน์ได้ว่ามีการจ่ายเงินเป็นมูลค่า 1 พันล้านปอนด์ (45,493,200,000 บาท ตามมูลค่าปัจจุบัน) ซึ่งการจ่ายเงินนี้ถูกอนุมัติโดยกระทรวงกลาโหม แต่ทางเจ้าชายบันดาร์ได้ปฏิเสธ และยืนยันว่าตัวพระองค์ไม่ได้ทำผิดใดๆ อีกทั้งการทำธุรกรรมดังกล่าวก็ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงกลาโหมซาอุดิอาระเบียแล้ว
เอกสารระบุต่อไปว่าหนังสัปดาห์หลังจากมีการเปิดโปงเรื่องเหล่านี้ นายสตีเฟน พอลลาร์ด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมได้ออกมาเตือนว่าคงเป็นยากที่จะชำระเงินให้กับนายบันดาร์ต่อไป และจะดีกว่าถ้าหากเราหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในข้อตกลงเหล่านี้ได้ในอนาคต
ต่อมาในเดือน มิ.ย.2550 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาได้ประกาศการดำเนินการสืบสวนข้อทุจริตเกี่ยวกับบริษัท BAE ส่งผลให้บริษัทนี้ต้องเสียค่าปรับไป 225 ล้านปอนด์ (10,235,970,000 บาท)
เอกสารแสดงต่อว่าหนึ่งเดือนถัดมา นายพอลลาร์ดได้บอกกับเพื่อนร่วมงานว่าซาอุดิอาระเบียได้ขอเงินเพิ่มเติมเพื่อเป็นทุนสําหรับเครื่องบินส่วนตัวของเจ้าชายบันดาร์ นายพอลลาร์ดกล่าวว่าการปฏิเสธคําขอจะ "เสี่ยงต่อการทําให้คนสําคัญของซาอุดิอาระเบียไม่พอใจ ซึ่งเป็นที่โต้แย้งได้ว่าการรักษาซาอุดิอาระเบียให้อยู่เคียงข้างในช่วงเวลาวิกฤตินี้สําคัญกว่า”
พอมาถึงปี 2551 ก็มีการใช้ระบบใหม่ โดยระบบการจัดซื้อจัดจ้างนี้ ซาอุดิอาระเบียในฐานะผู้ซื้ออาวุธจะมีการชำระเงินไปยังบัญชีของกระทรวงกลาโหม โดยการชำระเงินเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงว่าซาอุดิอาระเบียได้เตรียมการอย่างเป็นทางการในการจัดซื้ออาวุธจากอังกฤษ
อย่างไรก็ตามพบว่ากระทรวงกลาโหมอังกฤษได้มีการคืนเงินส่วนหนึ่งไปยังบัญชีที่แตกต่างออกไปซึ่งยังเป็นของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยเงินนี้ระบุว่าเพื่อใช้จ่ายใน “ข้อตกลงที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการ”
โดยการใช้ระบบนี้ดำเนินไปจนถึงปี 2554 และมีข้าราชการคนอื่นๆเข้ามามีส่วนร่วมกับการทำธุรกรรมนี้
นายพอลลาร์ดได้เขียนบันทึกในปี 2553 ว่า "ความยากลําบาก" สําหรับกระทรวงกลาโหมคือ "เรามองไม่เห็น" ว่าเงินจํานวนนี้ถูกนําไปใช้เพื่ออะไร "เราอาจถูกกล่าวหาว่าไม่ดําเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเงินที่ส่งคืนให้กับกระทรวงกลาโหมซาอุดิอาระเบียจะไม่ถูกนำไปใช้จ่ายอย่างไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตามนายพอลลาร์ดได้ปฎิเสธจะแสดงความคิดเห็นเมื่อสำนักข่าวการ์เดียนติดต่อไปหาเขา
ทางด้านของบริษัท BAE ก็ได้ปฏิเสธในช่วงก่อนหน้านี้เช่นกัน โดยยืนยันว่าการชำระเงินนั้นมีการดำเนินการโดยรัฐบาลอังกฤษที่เป็นผู้อนุมัติและทั้งหมดนั้นเป็นความลับ
เรียบเรียงจาก:https://www.theguardian.com/world/2024/mar/08/mod-paid-millions-into-saudi-account-amid-bae-corruption-scandal
อ่านประกอบ:
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปม กองทัพอาระกันขายวัสดุนิวเคลียร์แลกอาวุธ ใช้ยากูซ่าเป็นนายหน้า
- ส่องคดีทุจริตโลก: ลูกขุนสหรัฐฯฟันอดีตพ่อค้าน้ำมัน บ.วิตอล คดีสินบนเม็กซิโก-เอกวาดอร์
- ส่องคดีทุจริตโลก: อัยการยุโรปสั่งสอบ 3 มหาวิทยาลัยเอี่ยวโกงงบช่วยเหลือ EU นับร้อยล้าน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ปธน.เกาหลีใต้ อ้างเป็นเรื่องโชคร้าย หลังภรรยาถูกครหารับกระเป๋า 8 หมื่น
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.น้ำมันใหญ่จ่ายสินบนพัน ล.ให้ จนท.รัฐทุกระดับ-แลกสัญญาน้ำมันเอกวาดอร์
- ส่องคดีทุจริตโลก: อดีตคนวงในแฉจนท. UN รวมหัวเรียกสินบนโครงการฟื้นฟูอิรัก 5.3 หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เอกสารแพนโดร่าแฉอดีต รมว.คลังมาเลย์ ถือครองอสังหาฯ 1.8 พันล. ณ ลอนดอน
- ส่องคดีทุจริตโลก:เอกชนเยอรมันจ่ายเงิน 7.7พันล. ยุติคดีสินบนในต่างแดน
- ส่องคดีทุจริตโลก: สว.สหรัฐฯฉาวอีก ถูกครหารับสินบนนักลงทุน แลกออกแถลงการณ์สนับสนุนกาตาร์