ใน CAR แวกเนอร์ได้จัดทําพิมพ์เขียวเพื่อเข้าครอบครองกิจการของรัฐ และสนับสนุนการกระทำที่ไม่ถูกต้อง การยึดอำนาจโดยประธานาธิบดีแอฟริกากลางคนปัจจุบันและบุคคลใกล้ชิดของเขา นอกจากนี้แวกเนอร์ยังสะสมอํานาจทางทหารผ่านการเข้าไปทำกิจการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้าถึงและปล้นแร่ธาตุล้ำค่า รวมไปถึงปราบประชาชนท้องถิ่นด้วยความหวาดกลัว
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอกรณีความมั่งคั่งอันน่าสงสัยของทหารรับจ้างแวกเนอร์ที่ได้ก่อเหตุกบฏเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยมีรายงานข่าวว่าทหารแวกเนอร์ที่ก่อเหตุกบฏต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเมื่อสุดสัปดาห์นั้นในปัจจุบันเรียกได้ว่าสามารถจะครอบครองประเทศสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (CAR) ได้ทั้งประเทศแล้ว และยังได้ดำเนินการอันโหดร้ายหลายๆประการเพื่อที่จะให้ประธานาธิบดีของประเทศนั้นสามารถคงอำนาจต่อไปได้ เพื่อที่ทหารรับจ้างแวกเนอร์จะสามารถหาผลประโยชน์จากทรัพยากรในประเทศ
ในช่วงเวลาตลอดห้าปีที่ผ่านมา ทหารรับจ้างแวกเนอร์ที่นำโดยนายเยฟกินี พรีโกซิน ได้ดำเนินการเข้าควบคุมภาคส่วนเกี่ยวกับความมั่นคงของ CAR เกือบทั้งประเทศแล้ว และก็ใช้กลไกที่ว่ามานี้ทำลายคู่แข่งของประธานาธิบดีโฟสแต็ง-อาร์ก็องฌ์ ตัวเดรา ของ CAR หรือทำลายใครก็ตามที่ต้องการจะหยุดแวกเนอร์จากการหาผลประโยชน์ในเหมืองทองต่างๆในประเทศ ตามการรายงานขององค์การไม่แสวงหาผลกำไร The Sentry เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวในหัวข้อ “สถาปนิกผู้รังสรรค์ ความหวาดกลัว พิมพ์เขียวของแวกเนอร์เพื่อจะยึดแอฟริกากลาง” (Architects of Terror: The Wagner Group’s Blueprint for State Capture in the Central African Republic) ได้มีการระบุรายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของแวกเนอร์ได้เข้ามาในประเทศด้วยการอ้างว่าตัวเองเป็นครูฝึกทหารรัสเซีย ซึ่งจะเป็นก้าวแรกในการเข้าใน CAR ในช่วงปี 2561 ซึ่งในช่วงนั้น CAR ประสบกับความวุ่นวายเรื้อรังมาอย่างยาวนาน หลังจากนั้นก็แทรกซึมเข้าไปในภาคส่วนต่างๆของหน่วยงานความมั่นคง หรือไม่ก็สร้างหน่วยงานความมั่นคงขึ้นมาใหม่เพื่อจะค้ำจุนประธานาธิบดีที่ถูกสั่นคลอน
ย้อนไปเมื่อเดือน มี.ค.2566 มีเหตุทหารแอฟริกาใต้ 15 นายถูกสังหาร เมื่อพวกเขาถูกกลุ่มบฎเซเลกาเข้าโจมตีเพื่อจะโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีฟรองซัวร์ โบซิเซ
The Sentry รายงานว่าตอนนั้นแวกเนอร์เข้ามาเพื่อช่วยนายตัวเดรากระชับอำนาจ แต่ผลลัพธ์ก็คือทำให้เกิดการรณรงค์อันน่าหวาดกลัวเกิดขึ้น
มีการตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มติดอาวุธทั้งสองฝ่ายยังคงกระทําการโหดร้ายต่อพลเรือนและส่วนหนึ่งเป็นผลให้ 5.6% ของประชากร CAR เสียชีวิตในปี 2565 ซึ่งสัดส่วนนี้ "สูงกว่าการประมาณการในประเทศอื่น ๆ ในโลกถึงสองเท่า"
ทว่าระบอบของนายตัวเดราที่มีแวกเนอร์หนุนหลังก็ยังคงดำเนินการสังหารโหดอย่างเป็นระบบต่อไป ด้วยข้ออ้างว่าเป็นการตอบโต้กลุ่มที่ต่อต้านการปกครองของประธานาธิบดี
เหตุความรุนแรงต่อพลเรือนที่กระทำโดยกลุ่มแวกเนอร์
เป้าหมายของการรณรงค์ส่วนหนึ่งคือการข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและการทหารและข่มขู่ประชาชนในวงกว้างให้ยอมรับอํานาจของรัฐบาลและผู้สนับสนุนแวกเนอร์ เพื่อ "ทําลายล้าง" ฝ่ายตรงข้ามของนายตัวเดรา และกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกมองว่าสนับสนุนพวกเขาฝ่ายต่อต้าน
โดยแวกเนอร์ได้ส่งทหารอย่างน้อย 2,600 นายเข้าร่วมในการสังหารโหด และยังได้ฝึกฝนและแต่งกองทหารคู่ขนานของหน่วยทหารใหม่ประมาณอย่างน้อยสิบหน่วยสั่งการได้
The Sentry อ้างว่าคติพจน์ของแวกเนอร์นั้นก็คือการทำไม่เหลือร่องรอยใดๆเพื่อจะสาวมาถึง หรือก็คือการสังหารทุกคน รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ซึ่งทางแวกเนอร์,ทหาร CAR,และกองทหารที่ถูกฝึกโดยแวกเนอร์นั้นได้ดำเนินการก่ออาชญากรรมหลายประการอันน่าจะเข้าข่ายได้ว่าเป็นอาชญากรรมสงครามหรือว่าอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
@กองทัพส่วนตัวของประธานาธิบดีปูติน
รายงานอ้างว่ากลุ่มแวกเนอร์เป็นกองทัพส่วนตัวของวลาดิเมียร์ ปูติน เพราะส่วนหนึ่งก็คือแวกเนอร์ช่วยให้นายปูตินสามารถต่อต้านอิทธิพลใน CAR ที่เคยเป็นอาณานิคมฝรั่งเศส และในประเทศอื่นๆในทวีปแอฟริกาได้
และแวกเนอร์ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นกองทัพส่วนตัวของนายปูตินจนกระทั่งถึงวันที่ 23 มิ.ย. ที่นายเยฟกินี พรีโกซิน ได้ก่อการจลาจลในรัสเซียขึ้นก่อนจะประกาศยุติปฏิบัติการในเวลาไม่นานนัก
อย่างไรก็ตามยังมีความไม่ชัดเจนว่าภายใต้ข้อตกลงให้ยุติปฏิบัติการของแวกเนอร์นั้นจะไปส่งผลต่อการดำเนินงานของแวกเนอร์ในประเทศอย่าง CAR,มาลี,บูร์กินาฟาโซและซูดานด้วยหรือไม่ ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่แวกเนอร์มีอิทธิพลอย่างมาก
โดยข้อตกลงพื้นฐานที่แวกเนอร์มีกับประเทศเหล่านี้ก็คือว่าแวกเนอร์จะให้การักษาความปลอดภัย ดำเนินปฏิบัติการที่โหดเหี้ยมเพื่อส่งเสริมผู้นำที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แลกกับการได้รับสัมปทานเหมืองแร่เป็นรางวัล
The Sentry รายงานอ้างอิงจากการสัมภาษณ์บุคคลกว่า 45 ราย รวมไปถึงทหารจาก CAR จำนวน 11 ราย และกองทหารย่อยๆอีกบางราย ระบุว่านอกเหนือจากที่แวกเนอร์ได้พุ่งเป้าไปยังกลุ่มติดอาวุธมุสลิมฟูลานี,กลุ่มกบายา และกลุ่มอื่นๆแล้ว แวกเนอร์ยังได้ดำเนินการทหารทหารเพื่อขับไล่คนงานเหมืองและพลเรือนท้องถิ่นไปให้พ้นจากพื้นที่ทำเหมืองทองและเพชรอยู่บ่อยครั้งเพื่อที่จะพวกเขาจะได้เข้าไปควบคุมพื้นที่เหล่านั้นเสียเอง
โดยรางวัลชิ้นใหญ่ของแวกเนอร์ก็คือเหมืองนดาสซิมา ในตอนกลางของ CAR ที่มีปริมาณทองในเหมืองคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (98,756,000,000 บาท) ในรายงานยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า CAR ยังได้มีการโอนถ่ายการควบคุมเหมืองนี้จากบริษัท Axmin Inc ของแคนาดาไปยังบริษัท Midas Resources ในช่วงปี 2563 โดยไม่มีหลักพื้นฐานทางกฏหมายรองรับแต่อย่างใด
ค่ายทหารประเทศแอฟริกากลางที่มีครูฝึกเป็นทหารแวกเนอร์ (อ้างอิงวิดีโอจากอัลจาซีรา)
“ใน CAR แวกเนอร์ได้จัดทําพิมพ์เขียวเพื่อเข้าครอบครองกิจการของรัฐ และสนับสนุนการกระทำที่ไม่ถูกต้อง การยึดอำนาจโดยประธานาธิบดีแอฟริกากลางคนปัจจุบันและบุคคลใกล้ชิดของเขา นอกจากนี้แวกเนอร์ยังสะสมอํานาจทางทหารผ่านการเข้าไปทำกิจการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้าถึงและปล้นแร่ธาตุล้ำค่า รวมไปถึงปราบประชาชนท้องถิ่นด้วยความหวาดกลัว” รายงานระบุและยังได้ให้คำแนะนำด้วยว่าสหประชาชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศแอฟริกาควรจะได้มีการจัดตั้งกองกำลังผสมเพื่อที่จะปราบปรามกลุ่มแวกเนอร์เช่นเดียวกับที่ได้เคยจัดตั้งกำลังเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม
รายงานยังได้เสนอด้วยว่าสหรัฐอเมริกา,สหราชอาณาจักร,สหภาพยุโรป,แคนาดา,ญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ควรขยายการคว่ำบาตรต่อกลุ่มแวกเนอร์และบุคคลรวมไปถึงหน่วยงานวงในของนายตัวเดรา
The Sentry ระบุต่อไปว่าการเลือกตั้งในเดือน ธ.ค.2563 ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนผันสำหรับการณรงค์ของแวกเนอร์ใน CAR ดังนั้นแวกเนอร์และประเทศรัสเซียจึงได้ทำงานร่วมกันเพื่อจะทำให้มั่นใจได้ว่าผลการเลือกตั้งจะทำให้นายตัวเดราได้ครองอำนาจต่อไป ซึ่งก็รวมไปถึงการโน้มน้าวให้นักการเมืองและผู้นำเหล่าทัพใน CAR สนับสนุนนายตัวเดรา
แต่ว่าผู้นำกลุ่มพรรคฝ่ายค้านหลักได้ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าการเลือกตั้งนี้ถูกบ่อนทำลาย จึงทำให้ในวันที่ 13 ม.ค.2563 ได้มีการจัดตั้งกลุ่มติดอาวุธชื่อว่าแนวร่วมผู้รักชาติเพื่อการเปลี่ยนแปลงหรือ CPC ขึ้นมา โดยมีผู้นำกลุ่มได้แก่อดีตประธานาธิบดีโบซิเซ และกลุ่ม CPC ก็ได้ดำเนินการบุกกรุงบังกี เมืองหลวงของ CAR เพื่อจะโค่นล้มนายตูเดรา
เพื่อเป็นการตอบโต้ รัสเซียจึงได้ส่ง ‘ครูฝึก’ อีกกว่า 900 คนไป ส่งผลทำให้จำนวนทหารแวกเนอร์ใน CAR ในช่วงสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 2,600 นาย
นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียอ้างว่าแวกเนอร์จะปฏิบัติการในแอฟริกาต่อไป (อ้างอิงวิดีโอจาก France24)
สหประชาชาติเองก็ได้ยืนยันว่ารัสเซียได้ส่งมอบยุทโธปกรณ์ทางทหารขนาดหนัก รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินรบ ยานพาหนะภาคพื้นดิน โดรนลาดตระเวน และอาวุธหนักต่างๆไป CAR
ส่วนนายวลาดิเมียร์ ติโตเรนโกเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำ CAR ออกมาประกาศเมื่อปี 2564 ว่า"ครูฝึกสอนชาวรัสเซีย" รวมถึงทหารรับจ้างแวกเนอร์ - จะยังคงอยู่ใน CAR " จนกว่ากบฏ CPC และกลุ่มติดอาวุธจะถูกทําลายอย่างสมบูรณ์"
@การประหารชีวิตจำนวนมาก
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้ออกมาเตือนในเดือน มี.ค. 2564 ว่าหลังจากวางกำลังแวกเนอร์ กองทัพ CAR และทหารแวกเนอร์ ได้ดำเนินการประหารชีวิตจํานวนมาก,การควบคุมตัวโดยพลการ,การทรมานระหว่างการสอบปากคํา,การบังคับสูญหายการบังคับพลัดถิ่นของพลเรือน,การละเมิดสิทธิและการโจมตีผู้ปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรม
แต่ว่ากลุ่ม CPC ของนายโบซิเซก็ยังสามารถรับมือกับการโจมตีนี้ได้ ด้วยการใช้กลยุทธ์ต่อสู้แบบกองโจร ส่งผลทำให้ทั้งกองทัพ CAR และทางแวกเนอร์ประกาศรับสมัครทหารอีกหลายร้อยคนรวมไปถึงอดีตกองกำลังของ CPC
นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ครูฝึกสอนของแวกเนอร์ได้ดำเนินการฝึกสอนทหาร CAR ที่ฐานทัพเบเรงโก อันห่างจากกรุงบังกีไป 65 กิโลเมตร โดยการฝึกก็มีทั้งการต่อสู้มือเปล่า,การจารกรรมข้อมูล,การสอบสวนและเทคนิคการทรมาน สอดคล้องกันการประเมินของสหภาพยุโรปในช่วงเดือน พ.ย.2564 ที่ระบุว่าทหาร CAR ส่วนใหญ่ดำเนินภารกิจภายใต้การสั่งการโดยตรงจากทหารแวกเนอร์
นอกจากนี้ยังมีจุดที่รายงาน The Sentry ขัดแย้งกับผลการประเมินส่วนใหญ่ ที่คาดกันว่าประธานาธิบดีตูเดรานั้นอาจจะตกเป็นตัวประกันของกลุ่มแวกเนอร์
โดยรายงาน The Sentry อ้างว่าประธานาธิบดีตูเดรายังคงมีบทบาท และสามารถตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆได้ด้วยตัวเองอยู่ แต่สาเหตุที่ประธานาธิบดีเลือกจะใช้งานแวกเนอร์มากกว่าก็เพราะเขาไม่ไว้วางใจกองทัพของตัวเอง และต้องการจะปิดบังบทความความเกี่ยวข้องของตัวเองเอาไว้
แหล่งข่าวทางทหารหลายคนที่เคยปฏิบัติการบอกกับผู้เขียนรายงานว่าคําขวัญของแวกเนอร์คือ "การชําระล้าง" และ "กวาดล้าง" พวกเขากล่าวว่าเหล่าผู้บัญชาการรัสเซียของพวกเขาได้สั่งให้พวกเขา "ทําความสะอาด" หรือ "กวาด" หมู่บ้านพื้นที่ชนบทและที่สําคัญคือสถานที่ทําเหมืองทั่วประเทศ"
ผู้เขียนรายงานอ้างว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล CAR บางคนดูเหมือนจะไม่ละอายใจกับสิ่งที่กําลังทําอยู่ โดยในปี 2565 นายฟิเดลี กูอันจิกา (Fidèle Gouandjika) ที่ปรึกษาประธานาธิบดีตูเดรา ได้บอกกับสื่อดัตช์ว่า "ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรรัสเซีย ได้มีการทำลายฐานปฏิบัติการ กล่าวคือทําลายทางกายภาพอย่างหมดจด และโหดร้ายที่สุดเท่าที่จะทําได้"
นายกูอันจิกายังได้เคยบอกกับ The Sentry ว่า ทหารแวกเนอร์ที่กล้าหาญนั้นสามารถยึดเมืองและหมู่บ้านคืนจากกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งข่มขืนและทำร้ายประชาชนผู้ไม่มีทางสู้
- ส่องคดีทุจริตโลก:อาวุธสวีเดน ถูกอินเดียส่งออกให้ทัพเมียนมา ใช้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปงเอกชนสวิส ตั้ง บ.ย่อย หลบคว่ำบาตร แอบขายน้ำมันรัสเซีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปมปัญหาการใช้กฎหมายใหม่แคนาดา รับมือโอลิการ์ชลงทุนสินทรัพย์มหาศาล
- ส่องคดีทุจริตโลก: จากปมสินบนโรลซ์รอยส์โยงกรณีอื้อฉาว จัดซื้อ บ.ฝึก ทอ.อินเดียนับหมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เส้นทางทองคำ แสน ล.จาก 'รัสเซีย' สู่ UAE หลบมาตรการคว่ำบาตรตะวันตก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ยูเอ็นเผย 'สิงคโปร์' ส่งออกชิ้นส่วนให้กองทัพเมียนมา 8 พัน ล. หลัง รปห.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เผยความมั่งคั่งบิ๊ก ทอ.เมียนมา ให้เครือญาติตั้งบริษัทรับงานนับพันล้าน
- ส่องคดีทุจริตโลก:อดีตลูกจ้างฟ้องศาล แฉ บ.แคนาดา จ่ายสินบน แลกสัญญารถเกราะยูเครน พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: บริษัทพลังงานเยอรมนี เอี่ยวส่งเชื้อเพลิง เอื้อกองทัพรัสเซีย บุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก: สกอตแลนด์ทำสัญญาจ้างตุรเคีย ต่อเรือ 9 พัน ล. ท้องถิ่นไม่ได้ประโยชน์
- ส่องคดีทุจริตโลก:เอกสารหลุดเพนตากอน แฉความสัมพันธ์ รัสเซีย- UAE ช่วยหลบมาตรการคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก:เจาะลึกระบบธนาคารใต้ดินจีน เอี่ยวฟอกเงินพันล้านแก๊งยาเสพติดยุโรป
- ส่องคดีทุจริตโลก: อัยการ EU สั่งสอบ งบฟื้นฟูเมืองหลวงบัลแกเรียไม่โปร่งใส เสียหาย ร้อย ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.เซอร์เบีย ส่อใช้งานนักจารกรรมข้อมูลการเงินอิสราเอลโจมตีฝ่ายตรงข้าม
- ส่องคดีทุจริตโลก: เอกชนใกล้ชิดพรรคการเมือง ได้สัญญาส่งอาหารกองทัพลัตเวีย 8 พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการสวิสสั่งฟัน 4 นายธนาคาร เอื้อประโยชน์คนสนิทปูตินฝากเงินนับพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปง 3 เอกชนเยอรมนี นำเข้าไม้สักผิด กม.จากเมียนมานานนับปี
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉ หน.ทหารรับจ้างวากเนอร์ หลบคว่ำบาตรตะวันตก หารายได้ พัน ล.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก: แฉคอร์รัปชั่นวงการก่อสร้างตุรเคีย ต้นเหตุยอดตายแผ่นดินไหว 4.6 หมื่นศพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปม บ.เกลมาโต้ถูกกล่าวหาจ่ายคอมมิชชั่นเอื้อทำสัญญาหลาย รบ.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปง บ.พลังงานยักษ์ใหญ่ตะวันตก ทำธุรกิจหนุนเส้นเงินเผด็จการเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปมฉาว กห.ยูเครนจัดซื้ออาหารไม่โปร่งใส กระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ
- ส่องคดีทุจริตโลก:ขมวดปมอื้อฉาว ATK สะเทือนพรรคคอมฯเวียดนามอย่างไร หลัง ปธน.ลาออก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ตามรอยบุหรี่จีนนับล้านมวนสูญหาย หลังเดินทางออกจากโรงงานในโรมาเนีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชนรับงานบูรณะถนนยูเครนพันล้าน เชื่อมโยงผู้ต้องหาหนีคดี FBI
- ส่องคดีทุจริตโลก: ประมวลข่าวคอร์รัปชันโลกปี 65 จากโอลิการ์ชรัสเซียถึงเอกสารแพนโดรา