ไม่นานหลังจากที่รัสเซียได้รุกรานยูเครนในเดือน ก.พ.2565 บริษัทโรเชลได้มีการว่าจ้างบริษัทล็อบบี้อีกแห่งชื่อว่าบริษัทเอิร์นส์คลิฟฟ์ (นายเซสทริตซินทำงานที่บริษัทนี้ในตอนนั้น) เพื่อให้บริษัทนี้เป็นนายหน้าเจรจาต่อรองสำหรับข้อตกลงจะส่งรถ APC ไปยังประเทศยูเครนจำนวนแปดคัน....พอมาถึงเดือน เม.ย. 2565 นายเซสตริสซินได้ออกมากล่าวว่าสัญญาที่ได้มีการเซ็นกันนี้มีมูลค่ารถ APC ต่อคันอยู่ที่คันละ 325,000 ดอลลาร์ฯ (8,124,096 บาท) ส่วนบริษัทบอกว่าราคารถ APC อยู่ที่คันละ 370,000 ดอลลาร์ฯ (9,367,327 บาท)
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอเสนอกรณีที่บริษัทด้านความมั่นคงของประเทศแคนาดาที่ชื่อว่าโรเชลหรือ Roshel ถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย และอาจจะมีการละเมิดต่อกฎหมายต่อต้านการทุจริต เพื่อจะให้ได้รับสัญญากับรัฐบาลแคนาดามูลค่ากว่า 92 ล้านดอลลาร์แคนาดา (2,300,085,332 บาท) ซึ่งรายละเอียดของสัญญานั้นจะเป็นการที่บริษัทจะจัดส่งรถหุ้มเกราะไปให้กับทางรัฐบาลแคนาดา ซึ่งจะส่งไปให้กับประเทศยูเครนต่อไป จามรายละเอียดคำฟ้องที่ฟ้องต่ออดีตผู้บริหารของบริษัท
ทางด้านของบรรษัทพาณิชย์แคนาดาหรือ The Canadian Commercial Corporation (CCC), ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่กำกับดูแลข้อตกลงดังกล่าวก็ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการทุจริตเช่นกัน และขอให้บริษัทโรเชลที่ตั้งอยู่ในเมืองมิสซิสเซากาหยุดการผลิตรถหุ้มเกราะที่ได้ดำเนินมากว่าหนึ่งเดือนเอาไว้ก่อนจะมีการสืบสวนข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกรณีการรับสินบนและการทุจริตจนแล้วเสร็จ ซึ่งการสืบสวนที่ว่านี้จะเป็นการดำเนินการร่วมกันกระทรวงกลาโหม
“เมื่อทราบกรณีข้อกล่าวหา ทาง CCC ได้มีการออกคำแนะนำให้โรเชลยุติการดำเนินงานที่อยู่ภายใต้สัญญานี้ไปเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยงานผลิตรถหุ้มเกราะนั้นถูกพักไปแล้วและกระบวนการตรวจสอบก็ได้เริ่มแล้ว” นางซูซานนาห์ เดโนแวน ฟอร์เทียร์ โฆษกบริษัทกล่าวในแถลงการณ์
อย่างไรก็ตามแม้ในตอนนี้กระบวนการตรวจสอบกำลังเดินหน้าอยู่ แต่เนื่องจากว่ารถหุ้มเกราะเหล่านี้เป็นที่ต้องการอย่างเร่งด่วนในยูเครน ส่งผลทำให้ทาง CCC ได้ออกคำแนะนำอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ระบุให้โรเชลเดินหน้าผลิตรถหุ้มเกราะเต็มรูปแบบพร้อมกับส่งให้ประเทศยูเครน
ส่วนบริษัทก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาใดๆก็ตามที่ระบุว่าบริษัทได้กระทำผิด
สำหรับกระบวนการตรวจสอบของ CCC นั้นเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทโรเชลได้มีการจ่ายเงินให้กับอดีตเจ้าหน้าที่ยูเครน “เพื่อส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของรัฐบาลยูเครนและ/หรือกองทัพยูเครน” อันส่งผลทำให้ทางแคนาดาตัดสินใจซื้อยานพาหนะของบริษัทจำนวนกว่า 200 คันเพื่อส่งไปให้กับยูเครน ตามคำยื่นฟ้องที่ยื่นเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนายแอนตัน เซสทริตซิน
สำหรับนายเซสทริตซิน ซึ่งเป็นรองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของบริษัทโรเชลตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2565 จนกระทั่งถึงวันที่เขาลาออกในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ตัดสินใจโรเชลและประธานบริษัทได้แก่นายโรมัน ชิโมนอฟ คิดเป็นเงินกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์ฯ (37,495,827 บาท) ต่อกรณีการเลิกจ้างโดยมิชอบ หรือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
ในสำนวนคำฟ้องของนายเซสทริตซิน ระบุต่อไปด้วยว่าบริษัทโรเชลไม่ได้จ่ายเงินให้เขากว่า 460,000 ดอลลาร์ฯ (11,645,866 บาท) สำหรับค่าคอมมิชชั่น สำหรับการที่เขาได้มีส่วนเจรจาช่วยเหลือในข้อตกลงนี้ และได้เอาเงินที่ควรจะจ่ายดังกล่าวไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งนั่นก็คือการฝ่าฝืนต่อกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของแคนาดา
นายเซสทริตซินยังได้ขอให้ศาลสั่งให้ติดตามเงินทั้งหมด 92 ล้านดอลลาร์ฯ ที่รัฐบาลแคนาดาได้จ่ายให้กับบริษัทโรเชลตามข้อตกลงในสัญญา
ขณะที่บริษัทโรเชลและทนายความส่วนตัวของนายชิโมนอฟได้แก่นายอาเชอร์ โฮนิคแมนได้มีทำแถลงการณ์ออกมาระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นเท็จและมีลักษณะหมิ่นประมาทอย่างที่สุด เพราะบริษัทไม่เคยได้มีสัญญากับนายเซสทริตซินในเรื่องของการจ่ายเงินโบนัสหรือว่าค่าคอมมิชชั่นใดๆเลย ในส่วนของการทำหน้าที่ตามสัญญาของเขา
ย้อนไปเมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนบริษัทยังได้ยื่นฟ้องนายเซสทริตซินกลับเป็นเงินกว่า 11 ล้านดอลลาร์ฯ (274,969,404) ในข้อหาว่าเขาหมิ่นประมาทด้วยข้อความเป็นเท็จอย่างร้ายแรง และทำผิดสัญญากับบริษัท
“บริษัทโรเชลและคุณชิโมนอฟได้ประพฤติตัวโดยซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุดในการติดต่อธุรกิจทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ถูกอ้างถึงโดยนายเซสทริตซิน อดีตลูกจ้างของบริษัทโรเชลซึ่งได้ตัดสินใจลาออกหลังจากที่บริษัทปฏิเสธจะทำตามข้อเรียกร้องของเขาที่ไม่มีมูลความจริงและอยู่นอกเหนือสัญญาในการเรียกเงินกว่า 460,000 ดอลลาร์ฯ” นายโฮนิคแมนกล่าว
ขณะที่สำนักข่าว National Post ได้มีการรายงานข่าวครั้งแรกในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยตั้งคำถามไปถึงการที่บริษัทโรเชลได้สัญญามูลค่า 92 ล้านดอลลาร์ฯกับรัฐบาลแคนาดาเพื่อให้ส่งรถหุ้มเกราะ หรือ APC รุ่นเซเนทอร์จำนวนกว่า 200 คัน ที่จะส่งต่อไปให้กับประเทศยูเครน โดยบริษัทโรเชลได้รับสัญญานี้โดยไม่มีผู้แข่งขันรายอื่นแต่อย่างใด
รถ APC รุ่นเซเนทอร์ (อ้างอิงวิดีโอจาก STREIT Group)
ในช่วงเวลานั้นรัฐบาลแคนาดาได้ออกมาประกาศว่าการจัดซื้อทั้งหมดได้รับการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับนายชิโมนอฟที่ออกมากล่าวว่าบริษัทได้มีการขายรถ APC รุ่นเซเนทอร์โดยตรงไปให้กับรัฐบาลยูเครนแล้วคิดเป็นจำนวน 300 คันในช่วงเดือน ส.ค. 2565 และนายชิโมนอฟได้ประกาศอีกว่าบริษัทโรเชลนั้นเป็นเอกชนแห่งเดียวที่สามารถนำเสนอ "การสนับสนุนหลังการขายที่กว้างขวาง" และมีความสามารถในการให้บริการยานพาหนะบนพื้นดิน
ทางด้านของสำนักรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีนางอานิตา อนานด์ เป็นรัฐมนตรีก็ได้ออกมากล่าวเมื่อเดือน ม.ค.ว่าคำสั่งซื้อรถหุ้มเกราะจากบริษัทโรเชลของรัฐบาลแคนาดานั้นมาจากคำร้องขอโดยตรงของนายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศยูเครน
ทว่าในคำฟ้องของนายเซสทริตซินซึ่งมีบทบาทในฐานะเป็นนายหน้าการซื้อขายกับรัฐบาลกลางกับกล่าวหาว่าบริษัทได้มีการจ่ายเงินให้กับอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนชื่อว่านายพาฟโล บาร์บูล เพื่อผลักดันให้รัฐบาลและกองทัพยูเครนสนับสนุนอุปกรณ์ของบริษัทโรเชล ซึ่งทางโรเชลก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้แล้ว
มีประเด็นที่น่าสนใจก็คือว่าข้อมูลจากกระทรวงว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่านายบาร์บูลถูกตั้งข้อหาว่าได้ยักยอกเงินเป็นจำนวนมหาศาลในปี 2562 โดยการยักยอกเงินนั้นเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาว่ามีการทำสัญญาจัดซื้อปลอมๆในช่วงเวลาที่นายบาร์บูลได้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้ารัฐวิสาหกิจป้องกันประเทศของยูเครนชื่อว่า SpetsTechnoExport จนถึงปี 2561
ผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อสอบถามนายบาร์บูลผ่านทางเพจ LinkedIn และทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด
เพจ LinkedIn นายพาฟโล บาร์บูล อดีตเจ้าหน้าที่ยูเครน
นายเซสทริตซินได้กล่าวหานายบาร์บูลอีกว่าเขามีส่วนในการจัดเตรียมสัญญาการจัดซื้ออุปกรณ์จากบริษัทโรเชลให้กับรัฐบาลยูเครน โดยนายบาร์บูลยังได้ไปทำข้อตกลงกับนายโอเล็กซานเดอร์ เลียฟ รักษาการหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหารของกระทรวงกลาโหมยูเครน ในฐานะที่ว่านายบาร์บูลทำงานให้กับโรเชล
นายเซสทริตซินระบุต่อไปอีกว่านายเลียฟเป็นผู้เซ็นสัญญาก่อนหน้านี้ในช่วงเดือน ส.ค. 2565 ในนามของรัฐบาลยูเครน การจัดซื้อรถ APC แบบเซเนทอร์กว่า 300 คัน
หกเดือนหลังจากนั้นนายเลียฟก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากถูกกล่าวหาโดยหัวหน้าศูนย์ต่อต้านการทุจริตของยูเครนว่ามีจุดยืนเอียงข้างไปทางรัสเซีย
บทบาทของนายบาร์บูลในนามของบริษัทโรเชลก็คือว่าเขาเป็นตัวกลางในการล็อบบี้เจ้าหน้าที่ยูเครนตามคำสั่งของบริษัทโรเชลและนายชิโมนอฟ ซึ่งนายเซสทริตซินเชื่อว่าบริษัทโรเชลหรือนายชิโมนอฟได้จ่ายเงินให้กับนายบาร์บูลเพื่อที่จะให้เขาส่งผลกระทบทางด้านการจัดสินใจไปยังรัฐบาลหรือว่ากองทัพยูเครนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับโรเชล
ส่วนแถลงการณ์แก้ต่างของโรเชลระบุว่าบริษัทยอมรับว่าได้มีการจ่าข้างทางบริษัทชื่อว่าไดนามิก ซิสเต็มส์ (Dynamic Systems) ซึ่งเป็นบริษัทที่นายบาร์บูลทำงานอยู่จริง โดยจุดประสงค์การว่าจ้างก็คือให้บริษัทช่วยเหลือในเรื่องการหาประเทศคู่ค้าที่อยู่ในกลุ่มเครือรัฐเอกราช (ประเทศยูเครนอยู่ในกลุ่มนี้) โดยแลกเปลี่ยนกันทางโรเชลจะให้เงินค่าคอมมิชชั่นตามมูลค่าสัญญา
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรเชลได้ทำธุรกิจผ่านช่องทางที่เป็นทางการ โดยมีเอกสารยืนยันและสนับสนุนอย่างเป็นทางการมาโดยตลอด” เอกสารแก้ต่างของบริษัทโรเชลและนายชิโมนอฟระบุและยังได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาใดๆก็ตามที่ระบุว่าพวกเขาได้เข้าไปมีส่วนในการกระทําที่ผิดกฎหมาย ผิดจรรยาบรรณ หรือทุจริตต่างๆ
บริษัทยังได้กล่าวหาด้วยว่าเป็นที่ตัวนายเซสทริตซินเองต่างหากที่ไม่เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมายในส่วนของการเจรจาธุรกิจของบริษัทโรเชลเลย ในช่วงเวลาที่เขามีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ประสานงานในเรื่องการทำสัญญาของบริษัท โดยเป็นแค่นายเซสทริตซินฝ่ายเดียวเท่านั้นที่เรียกร้องให้บริษัทดำเนินการจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่นคิดเป็นมูลค่า 0.5 เปอร์เซ็นต์ของสัญญาทั้งหมด ในช่วงเวลาที่เขาเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของบริษัท
แต่นายเซสทริตซินกล่าวว่าเขาเพิ่งจะสืบทราบพฤติกรรมและบทบาทของนายบาร์บูลกับบริษัทโรเชลเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา หรือก็คือประมาณ 10 สัปดาห์หลังจากที่รัฐบาลแคนาดาได้ตกลงซื้อรถ APC รุ่นเซเนทอร์จำนวน 200 คันให้กับทางประเทศยูเครน โดยสืบทราบในระหว่างการพูดคุยกับนายชิโมนอฟ ซึ่งตอนนั้นประธานบริษัทโรเชลถูกกล่าวหาว่าได้ “หักหลัง” คำสัญญาว่าจะจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่น
ในเอกสารคำฟ้องยังมีการอ้างถ้อยคำที่นายชิโมนอฟคุยกับนายเซสทริตซินเป็นภาษารัสเซียว่า “คุณรู้ใช้ไหมว่าพาฟโลเขาไม่ได้ทำเรื่องนี้ให้ฟรีๆ ผมยังต้องเอาเงินไปจ่ายพวกยูเครนอีก”
นายเซสทริตซินอ้างต่อไปว่านายชิโมนอฟนั้นเริ่มมองตั้งแต่ต้นปี 2565 แล้วว่าการที่รัสเซียเข้ารุกรานประเทศยูเครนนี้จะถือเป็นโอกาสอันดีของบริษัทโรเชลและต่อตัวนายชิโมนอฟเองในการทำกำไรมูลค่ามหาศาล โดยเขาหวังว่าทางแคนาดาจะซื้อรถ APC จากบริษัทเป็นจำนวนมากเพื่อเอาไปให้ยูเครนใช้งาน
ส่วนบริษัทก็ได้ยอมรับในเอกสารศาลเช่นกันว่าบริษัทนั้นหวังว่าทางแคนาดาจะให้ความช่วยเหลือยูเครน ถ้าหากรัสเซียรุกรานยูเครน แต่บริษัทได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับแรงจูงใจทางการเงินแต่อย่างใด โดยบริษัทกล่าวว่าความหวังที่ว่ามานี้เกิดจากความมุ่งมั่นของบริษัทโรเชลและนายชิโมนอฟ ที่ต้องการจะป้องกันยูเครนให้รอดพ้นจากการรุกรานของรัสเซีย
ต่อมาไม่นานหลังจากที่รัสเซียได้รุกรานยูเครนในเดือน ก.พ.2565 บริษัทโรเชลได้มีการว่าจ้างบริษัทล็อบบี้อีกแห่งชื่อว่าบริษัทเอิร์นส์คลิฟฟ์ (นายเซสทริตซินทำงานที่บริษัทนี้ในตอนนั้น) เพื่อให้บริษัทนี้เป็นนายหน้าเจรจาต่อรองสำหรับข้อตกลงจะส่งรถ APC ไปยังประเทศยูเครนจำนวนแปดคัน
รถ APC ยี่ห้อเซเนทอร์บนหน้าเว็บไซต์บริษัทโรเชล
พอมาถึงเดือน เม.ย. 2565 นายเซสตริสซินได้ออกมากล่าวว่าสัญญาที่ได้มีการเซ็นกันนี้มีมูลค่ารถ APC ต่อคันอยู่ที่คันละ 325,000 ดอลลาร์ฯ (8,124,096 บาท) ส่วนบริษัทบอกว่าราคารถ APC อยู่ที่คันละ 370,000 ดอลลาร์ฯ (9,367,327 บาท)
ในเอกสารการฟ้องร้องระบุต่อไปว่าในช่วงเวลาไม่เกินหนึ่งปีหลังจากนั้น ที่แคนาดาได้มีการตัดสินใจซื้อรถ APC อีกเป็นจำนวนกว่า 200 คัน ราคารถต่อคันก็เพิ่มขึ้นไปอีกคันละเกือบหนึ่งแสนดอลลาร์ฯ โดยอยู่ที่คันละ 464,650 ดอลลาร์ฯ (11,625,300 บาท)
ขณะที่บริษัทโรเชลก็ได้ทำเอกสารแก้ต่าง ยอมรับว่าราคารถ APC ต่อหน่วยมีการปรับขึ้นจริง แต่ไม่ได้ระบุว่าราคาเท่าไร โดยบรัทอ้างว่าการที่ราคารถเพิ่มขึ้นเป็นเพราะว่าราคาเชสซีรถรุ่น Ford 550 ที่ใช้ในรถ APC รุ่นเซเนทอร์มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาวัตถุดิบอย่างเช่นแก้วและเหล็ก ราคาค่าขนส่งรวมไปถึงเงินค่าล่วงเวลาเพื่อทำให้สามารถผลิตรถหุ้มเกราะได้ทันเวลา ก็เป็นเหตุให้ราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“การเพิ่มขึ้นของราคานั้น ทางบริษัทได้อธิบายให้ CCC ได้รับทราบไปแล้วพร้อมกับได้ส่งหลักฐานสนับสนุนไปด้วย ซึ่งทาง CCC ก็ได้เห็นด้วยกับหลักฐานเหล่านี้” บริษัทระบุ
กลับมาที่นายเซสทริตซิน เขายังได้อ้างอีกว่าบริษัทได้รับผลประโยชน์บางประการจากการขายให้กับ CCC แทนที่จะเป็นการซื้อขายอุปกรณ์ทางทหารด้วยช่องทางปกติ
“เป็นผลให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างสําหรับโรเชลสั้นลงและเข้มงวดน้อยกว่ากระบวนการเสนอราคาปกติ” เอกสารคำฟ้องระบุ
ทางบริษัทโรเชลเองก็ได้ยอมรับว่าบริษัทได้รับผลประโยชน์ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่สั้นลง จากการดำเนินการผ่าน CCC ทั้งในกรณีการทำสัญญาซื้อรถ APC จำนวนแปดคัน เมื่อเดือน เม.ย.2565 และการทำสัญญาซื้อรถ APC จำนวน 200 คันในปี 2566
ทาง CCC ก็ได้ทำแถลงการณ์ออกมาเช่นกัน โดยอ้างว่า CCC ได้ดำเนินการตรวจสอบ วิเคราะห์สถานะของโรเชลแล้ว ซึ่งรวมไปถึงการประเมินการปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านความซื่อสัตย์ การตรวจสอบด้านกฎหมายและการตรวจสอบทางการเงินของการดําเนินงานของโรเชล แต่ว่าตรวจสอบเฉพาะในแคนาดาเท่านั้น
ขณะที่บริษัทโรเชลก็ได้ตอบโต้นายเซสทริตซินว่าเขาได้เอาข้อมูลความลับอันเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทบางส่วนย้ายเข้าไปในอีเมลส่วนตัวในช่วงเวลาก่อนที่ได้ออกจากบริษัทไป อีกทั้งยังไม่ยอมคืนกรรมสิทธิ์การใช้งานแอปพลิเคชั่น WhatsApp ที่บริษัทได้ใช้งานเพื่อสื่อสารภายใน อีกทั้งยังไม่ยอมรับสายจากนายชิโมนอฟ
“นายเซสทริตซินลาออกในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการทำสัญญาของบริษัท โดยเขารับรู้ว่าการทำเช่นนั้นจะบ่อยทำลายบริษัท” แถลงการณ์บริษัทระบุ
- ส่องคดีทุจริตโลก: บริษัทพลังงานเยอรมนี เอี่ยวส่งเชื้อเพลิง เอื้อกองทัพรัสเซีย บุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก: สกอตแลนด์ทำสัญญาจ้างตุรเคีย ต่อเรือ 9 พัน ล. ท้องถิ่นไม่ได้ประโยชน์
- ส่องคดีทุจริตโลก:เอกสารหลุดเพนตากอน แฉความสัมพันธ์ รัสเซีย- UAE ช่วยหลบมาตรการคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก:เจาะลึกระบบธนาคารใต้ดินจีน เอี่ยวฟอกเงินพันล้านแก๊งยาเสพติดยุโรป
- ส่องคดีทุจริตโลก: อัยการ EU สั่งสอบ งบฟื้นฟูเมืองหลวงบัลแกเรียไม่โปร่งใส เสียหาย ร้อย ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.เซอร์เบีย ส่อใช้งานนักจารกรรมข้อมูลการเงินอิสราเอลโจมตีฝ่ายตรงข้าม
- ส่องคดีทุจริตโลก: เอกชนใกล้ชิดพรรคการเมือง ได้สัญญาส่งอาหารกองทัพลัตเวีย 8 พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการสวิสสั่งฟัน 4 นายธนาคาร เอื้อประโยชน์คนสนิทปูตินฝากเงินนับพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปง 3 เอกชนเยอรมนี นำเข้าไม้สักผิด กม.จากเมียนมานานนับปี
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉ หน.ทหารรับจ้างวากเนอร์ หลบคว่ำบาตรตะวันตก หารายได้ พัน ล.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก: แฉคอร์รัปชั่นวงการก่อสร้างตุรเคีย ต้นเหตุยอดตายแผ่นดินไหว 4.6 หมื่นศพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปม บ.เกลมาโต้ถูกกล่าวหาจ่ายคอมมิชชั่นเอื้อทำสัญญาหลาย รบ.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปง บ.พลังงานยักษ์ใหญ่ตะวันตก ทำธุรกิจหนุนเส้นเงินเผด็จการเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปมฉาว กห.ยูเครนจัดซื้ออาหารไม่โปร่งใส กระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ
- ส่องคดีทุจริตโลก:ขมวดปมอื้อฉาว ATK สะเทือนพรรคคอมฯเวียดนามอย่างไร หลัง ปธน.ลาออก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ตามรอยบุหรี่จีนนับล้านมวนสูญหาย หลังเดินทางออกจากโรงงานในโรมาเนีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชนรับงานบูรณะถนนยูเครนพันล้าน เชื่อมโยงผู้ต้องหาหนีคดี FBI
- ส่องคดีทุจริตโลก: ประมวลข่าวคอร์รัปชันโลกปี 65 จากโอลิการ์ชรัสเซียถึงเอกสารแพนโดรา