ข้อมูลบัญชีของ Evro Polis ยังแสดงให้เห็นว่าการคว่ำบาตรมีผลที่ค่อนข้างจำกัดกับการดำเนินงานของบริษัทที่เกิดในปี 2563 โดยในปีนั้นบริษัททำยอดขายได้ 134 ล้านดอลลลาร์สหรัฐฯ (4,679,280,000 บาท) คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (3,142,800,000 บาท) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 180 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถูกส่งกลับไปยังรัสเซีย
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ในสัปดาห์นี้ขอนำเสนอเส้นทางความมั่งคั่งของนายเยฟเกนี ปรีโกชิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ที่ตอนนี้ถือว่าเป็นกลุ่มทหารรับจ้างของรัสเซียที่มีทบาทเป็นอย่างยิ่งในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กินเวลานานมานมากกว่า 1 ปีแล้ว
โดยสำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สของอังกฤษได้รายงานข่าวเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ตามข้อมูลของบันทึกบริษัทจำนวนหลายรายการ ระบุว่านายปรีโกซินที่โดนคว่ำบาตรจากฝ่ายตะวันตกนั้นสามารถหาเงินได้มากกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (8,730,000,000 บาท) จากแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติทั่วโลกในพื้นที่ที่กองกำลังของเขาเข้าไปปฏิบัติการณ์ ในช่วงเวลาสี่ปีก่อนที่รัสเซียจะตัดสินใจรุกรานยูเครน
แนะนำบริษัททหารรับจ้างวากเนอร์กับประธานาธิบดีปูติร (อ้างอิงวิดีโอจาก VOX)
ทั้งนี้จากการทำข่าวเชิงสืบสวนของสำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สระบุว่าแม้ว่าที่ผ่านมาทางตะวันตกจะดำเนินการคว่ำบาตรบริษัททหารรับจ้างวากเนอร์มาเป็นเวลายาวนาน แต่ว่ามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวนั้นก็ดูเหมือนจะล้มเหลวในการหยุดเส้นเงินจำนวนนับล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าสู่กระเป๋าของนายปรีโกชิน โดยที่ไปที่มาของเงินจำนวนนี้ก็มีทั้งจากการขนย้ายน้ำมัน,แก๊ส,เพชร และทองคำ
โดยเป็นที่รับทราบกันดีว่าทหารวากเนอร์นั้นมีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีในหลายเรื่อง อาทิ การมีพฤติกรรมฆาตกรรม,ทรมานและข่มขืนในเกือบทุกประเทศที่วากเนอร์เข้าไปปฏิบัติการณ์ ส่วนรายได้จากธุรกิจทหารรับจ้างของนายปรีโกซินในประเทศอาทิ ซีเรีย และซูดานนับตั้งแต่ปี 2561 ก็ได้กลายเป็นส่วนทำให้นายปรีโกซุนได้รับการสนับสนุนจากทางเครมลินจนกลายเป็นหนึ่งในขุนศึกที่ทรงพลังที่สุดในสงครามรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ทางสำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆได้แก่บัญชีการเงินหลายบัญชีของบริษัทหลายแห่งที่ได้รับการสนับสนุนจากวากเนอร์ ซึ่งบริษัทเหล่านี้นั้นถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปหรออียู เพราะว่าถูกควบคุมโดยนายปรีโกซิน และวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทอีกหลายแห่งที่ยังไม่ถูกคว่ำบาตร วิเคราะห์ข้อมูลเอกสารทางกฎหมายที่รั่วไหล
ผลของการวิเคราะห์ก็พบว่าขนาดของการเงินในปฏิบัติการณ์นี้เป็นสิ่งที่ตรงกับที่กรุงวอชิงตันดีซีได้เคยขนานนามว่านี่คือ “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าวนั้นยังไม่ครอบคลุมไปถึงบัญชีของนายปรีโกซินในประเทศรัสเซียที่เขาใช้ทำธุรกิจการจัดเลี้ยงและธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยธุรกิจทั้งสองอย่างนี้เป็นธุรกิจที่นายปรีโกซินได้รับสัญญาจากรัฐคิดเป็นมูลค่ามหาศาล
โดยในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าพบว่าวากเนอร์ที่ได้มีการเกณฑ์นักโทษรัสเซียเป็นจำนวนนับหลายหมื่นคนไปรบในยูเครนนั้นเคยมีประวัติการทำอาชญากรรมที่เลวร้ายรวมไปถึงการประหารชีวิตผู้คนจำนวนมาก,การข่มขืน,การลักพาตัวเด็ก และการล่วงละเมิดทางร่างกายในประเทศอย่างสาธารณรัฐแอฟริกากลางและมาลี
ทั้งนี้ปฏิบัติการณ์ในต่างประเทศของกลุ่มทหารรับจ้าง, การโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มวากเนอร์เพื่อสนับสนุนเผด็จการในหลายประเทศและการให้บริการทหารที่มีความแข็งแกร่ง ทุกอย่างที่ว่ามานี้ได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับนโยบายต่างประเทศอันปฏิเสธไม่ได้แก่ทางเครมลิน และยังเป็นส่วนที่ช่วยสสนับสนุนความมั่งคั่งให้กับผู้ก่อตั้งวากเนอร์ด้วยเช่นกัน
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา นายปรีโกซินได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับวากเนอร์ และปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการของทหารรับจ้างในต่างประเทศ จนกระทั่งในปี 2565 ที่ผ่านมา เขาถึงได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อตั้งวากเนอร์ในปี 2557 และเขายังได้ปรากฏตัวในวิดีโอรับสมัครนักโทษจากที่คุมขังหลายแห่งในประเทศรัสเซีย
ทว่าแม้นายปรีโกซินที่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรในเดือน ธ.ค. 2559 อยู่ในรายชื่อผู้ต้องหาที่ทางสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯหรือเอฟบีไอต้องการตัวมากที่สุดในปี 2564 และกำลังถูกตรวจสอบเพิ่มเติมจากรัฐบาลตะวันตกในหลายประเทศ แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดยั้งธุรกิจของเขาในการหากำไรกับทรัพยากรธรรมชาติในแอฟริกาและในตะวันออกกลางแต่อย่างใด
โดยในปี 2561 รัฐบาลสหรัฐฯได้คว่ำบาตร บริษัทชื่อว่า Evro Polis ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกควบคุมโดยนายปรีโกซิน อย่างไรก็ตามบริษัทนี้ได้รับสัญญาสัมปทานพลังงานจากประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย แลกเปลี่ยนกับการที่ทหารรับจ้างแวกเนอร์จะทำหน้าที่ปลดปล่อยบ่อน้ำมันแห่งหนึ่งที่ถูกยึดไปโดยกลุ่มก่อการร้าย ISIS ในช่วงสงครามกลางเมืองซีเรีย
ข้อมูลบัญชีของ Evro Polis ยังแสดงให้เห็นว่าการคว่ำบาตรมีผลที่ค่อนข้างจำกัดกับการดำเนินงานของบริษัทที่เกิดในปี 2563 โดยในปีนั้นบริษัททำยอดขายได้ 134 ล้านดอลลลาร์สหรัฐฯ (4,679,280,000 บาท) คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (3,142,800,000 บาท) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 180 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถูกส่งกลับไปยังรัสเซีย
รายงานว่ากองทัพสหรัฐฯเคยกวาดล้างทหารรับจ้างวากเนอร์ในซีเรีย (อ้างอิงวิดีโอจาก Not What You Think)
ในเดือน ธ.ค. 2564 หรือคิดเป็นสองเดือนก่อนหน้าการรุกราน บริษัทรายงานการลดลงของรายได้ที่เกี่ยวข้องกับสัญญา โดยรายได้นั้นลดเหลือแค่ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,968,000 บาท) แต่ถึงกระนั้นบริษัทก็ยังแจ้งว่ายังคงมีเงินสด 92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (3,212,640,000 บาท) อยู่ในเอกสารงบดุลของบริษัท
ขณะที่ปฏิบัติการณ์ทหารรับจ้างจากบริษัทอีกแห่งของนายปรีโกซินนั้นแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่ามากแต่ก็ยังสามารถดำเนินกิจการการค้าต่อไปได้แม้จะถูกคว่ำบาตร โดยบริษัทที่ดำเนินปฏิบัติการณ์เกี่ยวกับทหารรับจ้างแห่งนี้ชื่อว่า M Invest ซึ่งพบว่าดำเนินงานด้านการขุดเหมืองทองในประเทศซูดาน โดยบริษัทนั้นถูกคว่ำบาตรจากทางสหรัฐฯในเดือน ก.ค. 2563 ทว่ายังคงสามารถทำยอดขายได้ 2.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (90,792,000 บาท) ในปี 2564
กองกำลังทหารรับจ้างรัสเซียกำลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่ทางตอนเหนือของประเทศมาลี
มีบันทึกการส่งออกของบริษัทอีกจำนวนสองแห่งแสดงให้เห็นว่าบริษัททั้งสองแห่งนี้ได้ดำเนินการส่งออกชิ้นส่วนอุตสาหกรรมลอตใหญ่ไปให้กับบริษัทที่ได้รับการหนุนหลังโดยวากเนอร์ ที่อยู่ในซูดานและในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซึ่งบริษัทเหล่านี้สามารถทำยอดขายคิดเป็นมูลค่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (209,520,000 บาท) ในช่วงสิ้นปี 2564
ข้อมูลทางบัญชียังแสดงให้เห็นว่าบริษัทของนายปรีโกซินบางแห่งดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนการดำเนินงานไปยังนิติบุคคลอื่นๆ ก่อนที่ตะวันตกจะดำเนินการเพื่อปิดบริษัทเหล่านี้ อาทิ บริษัท Mercury LLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินงานเกี่ยวกับกิจการน้ำมันในซีเรีย ที่ถูกอียูคว่ำบาตรในปี 2564 โดยบริษัทมียอดขาย 67 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (2,339,640,000 บาท) ในช่วงสามปีก่อนหน้าการคว่ำบาตร แต่ก็ประกาศผลรายได้เป็นศูนย์หลังจากนั้น
โดยการการวิเคราะห์บริษัททรัพยากรธรรมชาติต่างๆที่ได้รับการสนับสนุนจากวากเนอร์อ้างอิงจากบัญชีที่มีอยู่ล่าสุดจนถึงเดือนธันวาคม 2564 พบว่ารายได้และผลกำไรที่ประกาศโดยบริษัทเหล่านี้ในรัสเซียนั้นถูกแปลงค่าเงินจากรูเบิลไปเป็นดอลลาร์สหรัฐฯในอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
ขณะที่ทางด้านของนายปรีโกซินได้เคยกล่าวผ่านเทเลแกรมเกี่ยวกับบทความของไฟแนนเชียลไทม์สไปแล้วระบุว่าเขาถือว่าการคว่ำบาตรต่อตัวเขา ต่อบริษัททหารรับจ้างวากเนอร์ รวมไปถึงตัวแทนทางกฎหมายและหน่วยงาน บุคคลของรัสเซียนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีบทความของไฟแนนเชียลไทม์สที่ระบุเกี่ยวกับปฏิบัติการสังหารในแอฟริกา การโฆษณาชวนเชื่อ นายปรีโกซินกล่าวว่าบทความเหล่านั้นถูกต้อง แต่ว่าเขาไม่ได้หาผลกำไรได้เป็นมูลค่ามหาศาลจากปฏิบัติการณ์เหล่านี้แต่อย่างใด
“ไฟแนนเชียลไทม์ส ถ้าหากคุณไม่รู้ นี่เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ของอังกฤษ เผยแพร่บทความของบริษัททหารรับจ้างวากเนอร์ ซึ่งส่วนมากแล้วจะจริง ยกเว้นในส่วนสุดท้ายที่พูดถึงการหาความมั่งคั่งทางการเงินของผม” นายปรีโกซินกล่าว
เรียบเรียงจาก:https://www.ft.com/content/98e478b5-c0d4-48a3-bcf7-e334a4ea0aca
- ส่องคดีทุจริตโลก: แฉคอร์รัปชั่นวงการก่อสร้างตุรเคีย ต้นเหตุยอดตายแผ่นดินไหว 4.6 หมื่นศพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปม บ.เกลมาโต้ถูกกล่าวหาจ่ายคอมมิชชั่นเอื้อทำสัญญาหลาย รบ.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปง บ.พลังงานยักษ์ใหญ่ตะวันตก ทำธุรกิจหนุนเส้นเงินเผด็จการเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปมฉาว กห.ยูเครนจัดซื้ออาหารไม่โปร่งใส กระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ
- ส่องคดีทุจริตโลก:ขมวดปมอื้อฉาว ATK สะเทือนพรรคคอมฯเวียดนามอย่างไร หลัง ปธน.ลาออก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ตามรอยบุหรี่จีนนับล้านมวนสูญหาย หลังเดินทางออกจากโรงงานในโรมาเนีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชนรับงานบูรณะถนนยูเครนพันล้าน เชื่อมโยงผู้ต้องหาหนีคดี FBI
- ส่องคดีทุจริตโลก: ประมวลข่าวคอร์รัปชันโลกปี 65 จากโอลิการ์ชรัสเซียถึงเอกสารแพนโดรา