นับตั้งแต่ปี 2555 การสืบสวนได้สรุปว่ามีบริษัทอินเดียแห่งหนึ่งชื่อว่า Sandeep Metalcraft Private Limited ได้ดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับกองทัพเมียนมา อันประกอบไปด้วยฟิวส์กลไกแบบ 447 เพื่อใช้สำหรับปืนไร้แรงสะท้ายคาร์ลกุสตาฟขนาด 84 มม. แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีข่าวว่ากองทัพเมียนมาได้ก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา และดำเนินอาชญากรรมระหว่างประเทศอื่นๆก็ตาม
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอกรณีที่หน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาหรือ Justice for Myanmar (JFM) ได้ออกรายงานฉบับหนึ่งพร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศสวีเดนดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับกรณีที่บริษัทผลิตอาวุธสาขาของสวีเดนที่ตั้งอยูในประเทศอินเดียได้มีการขายอาวุธให้กับกองทัพเมียนมา และให้ดำเนินการสืบสวนว่าชิ้นส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ของสวีเดนที่เคยถูกส่งออกไปให้กับอินเดียนั้นไปอยู่ในเผด็จการทหารเมียนมาได้อย่างไร
JFM ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสวีเดนและหน่วยงานที่ควบคุมด้านอาวุธอันได้แก่หน่วยงานชื่อว่า หน่วยงานผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ (ISP) ได้ออกมาดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อทำให้มั่นใจว่าอาวุธของสวีเดนจะไม่ตกไปอยู่ในมือของเผด็จการทหารเมียนมา ที่กระทำการอย่างโหดร้ายต่อประชาชน
สถานการณ์ในรัฐมณีปุระของเมียนมาที่อาจทวีความรุนแรงจนส่งผลกระทบต่ออินเดีย (อ้างอิงวิดีโอจาก DW)
ย้องไปเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา นายโทเบียส บิลสตรอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดนได้ออกมามีท่าทีต่อกรณีการไต่สวนของสมาชิกรัฐสภาได้แก่นายฮาเค็น สเวนเนลิง เกี่ยวกับมาตราการของรัฐบาลสวีเดนในการป้องกันไม่ให้มีการส่งออกซ้ำของอาวุธสวีเดนที่ได้รับใบอนุญาตให้ผลิตในประเทศอินเดีย
การไต่สวนที่รัฐสภาสวีเดนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีการสอบสวนของ JFM จนพบว่ามีอาวุธบางชิ้นและชิ้นส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องถูกขายจากอินเดียให้กับกองทัพเมียนมานั้นเป็นของที่ถูกผลิตขึ้นในสวีเดน ซึ่งรวมไปถึงปืนไร้แรงสะท้อนคาร์ลกุสตาฟที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทซ้าบ กรุ๊ป
ทั้งนี้การที่ประเทศสวีเดนเป็นหนึ่งในประชาคมสหภาพยุโรปหรือว่าอียู ดังนั้นจึงเป็นการห้ามไม่ให้สวีเดนสามารถส่งออกอาวุธและสินค้าที่ใช้ได้สองทางทั้งพลเรือนและการทหาร รวมไปถึงเทคโนโลยีไปให้กับกองทัพเมียนมา
กลับมาที่สวีเดน ทางด้านของนายบิลสตรอมได้ยอมรับต่อข้อซักถาม ยืนยันว่าปืนไร้แรงสะท้อนคาร์ลกุสตาฟนั้นถูกผลิตในอินเดีย ภายใต้ใบอนุญาตนับตั้งแต่ปีทศวรรษที่ 70 และยืนยันต่อว่าสวีเดนได้มีการโอนย้ายอาวุธดังกล่าวไปที่อินเดียจริง และอาวุธที่ถูกถ่ายโอนบางส่วนก็ถูกเปลี่ยนมือจากอินเดียไปเมียนมา
ทั้งนี้ในช่วงปี 2555 การถ่ายโอนอาวุธดังกล่าวได้ถูกสอบสวนอย่างเป็นทางการโดย ISP
ตามข้อมูลของนายบิลสตรอม ISP ได้มีข้อสรุปไปแล้วว่าอินเดียนั้นดำเนินการโดยเคารพต่อข้อผูกมัดว่าจะไม่ดำเนินการส่งออกซ้ำสำหรับอาวุธที่ถูกผลิตภายใต้ใบอนุญาตของสวีเดน และรัฐบาลอินเดียก็ได้ดำเนินการตามมาตรการอย่างเพียงพอเพื่อที่จะลดความเสี่ยงอันเกี่ยวกับการถ่ายโอนอาวุธ
ปืนไร้แรงสะท้อนคาร์ลกุสตาฟของสวีเดน ที่มีข่าวว่าถูกส่งออกจากอินเดียไปเมียนมา (อ้างอิงวิดีโอจาก News Direct)
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี 2555 การสืบสวนได้สรุปว่ามีบริษัทอินเดียแห่งหนึ่งชื่อว่า Sandeep Metalcraft Private Limited ได้ดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับกองทัพเมียนมา อันประกอบไปด้วยฟิวส์กลไกแบบ 447 เพื่อใช้สำหรับปืนไร้แรงสะท้ายคาร์ลกุสตาฟขนาด 84 มม. แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีข่าวว่ากองทัพเมียนมาได้ก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา และดำเนินอาชญากรรมระหว่างประเทศอื่นๆก็ตาม
โดยการขนส่งฟิวส์แบบ 447 ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในขึ้นในปี 2562 และการจัดส่งฟิวส์ในครั้งที่สองน่าจะเกิดขึ้นในช่วงหลังจากที่กองทัพเมียนมาได้ก่อเหตุรัฐประหารแล้ว ซึ่งจนถึงปัจจุบัน เว็บไซต์บริษัท Sandeep Metalcraft ก็ยังคงโฆษณาการขายฟิวส์ของปืนไร้แรงสะท้อนฯบนเว็บไซต์ของบริษัท
ข้อมูลที่ถูกเปิดโปงโดย JFM ที่ชี้ให้เห็นว่ามีชิ้นส่วนประกอบของปืนไร้แรงสะท้อนฯ ถูกโอนจากอินเดียไปยังเมียนมาอีกครั้งจึงเป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับความตั้งใจของรัฐบาลอินเดียว่าได้ดำเนินการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของผู้ใช้อาวุธและได้ดำเนินมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงของการเบี่ยงเบนจริงหรือไม่
ขณะที่การตอบคำถามของนายบิลสตรอมไม่ได้ตอบถึงกรณีการส่งฟิวส์อาวุธครั้งล่าสุดสำหรับปืนไร้แรงสะท้อนฯจากอินเดียไปยังเมียนมา
ส่วนบริษัทซ้าบก็ไม่ได้ตอบคำถามต่อการสืบสวนครั้งล่าสุดของ JFM เช่นกัน ทั้งในคำถามที่ว่าฟิวส์ที่ได้มีการถ่ายโอนนั้นต้องมีใบอนุญาตของซ้าบหรือไม่ ในแง่ของการผลิต และไม่ยอมตอบคำถามว่าข้อตกลงใบอนุญาตให้ผลิตของซ้าบกับรัฐบาลอินเดียนั้นได้ห้ามการส่งออกอาวุธไปยังประเทศอื่นหรือไม่
หน้าเว็บ Sandeep Metalcraft ที่ระบุว่าเป็นผู้ผลิตฟิวส์รายใหญ่ในอินเดีย
โดยตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า Sandeep Metalcraft ได้ดำเนินการผลิตฟิวส์ในอินเดียโดยได้รับการอนุญาตและได้รับความช่วยเหลือจากซ้าบ กรุ๊ป หรือไม่
มีรายงานว่าอินเดียยังคงส่งออกยุทโธปกรณ์ทางทหาร รวมไปถึงลำกล้องปืนใหญ่ขนาด 122 มม.ให้กับเผด็จการทหารเมียนมา ในช่วงเดือน ต.ค.2565 โดยบริษัทผู้ผลิตลำกล้องปืนใหญ่ก็ได้แก่รัฐวิสาหกิจ Yantra India Limited ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับกลาโหมของอินเดีย
โรงงานของรัฐวิสาหกิจ Yantra India Limited ในเมืองอัมบาจฮารียังได้มีการผลิตกระสุนต่อต้านรถถังแบบ FFV551 ขนาด 84 มม.ที่ใช้สำหรับปืนไร้แรงสะท้อนฯ
ทางด้านของนายบิลสตรอมได้กล่าวต่อไปว่าเขารับทราบดีว่ามีระบบใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2565 ซึ่งรายละเอียดนั้นระบุถึงการควบคุมและกํากับดูแลในต่างประเทศในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตให้ผลิตปืนไร้แรงสะท้อนฯและอาวุธอื่นๆที่เป็นอาวุธสัญชาติสวีเดน
ระบบใหม่ที่ว่านี้ยังบอกเป็นนัยยะว่าอีกว่าประเทศที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคํามั่นสัญญาว่าจะไม่ส่งออกซ้ำอาวุธของสวีเดนนั้นจะไม่ได้รับความยินยอมจากสวีเดนให้เข้าสู่การพิจารณาว่าจะมีสิทธิ์ได้รับโอนอาวุธใหม่ที่ทําในสวีเดนหรือไม่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่ทํากับสวีเดนตราบใดที่ข้อผูกพันในเรื่องการตรวจสอบหลังการถ่ายโอนอาวุธมีผลบังคับใช้อยู่
ยังไม่มีความชัดเจนว่า ISP ได้ดําเนินการหรือตั้งใจที่จะดําเนินการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับกรณีที่บริษัท Sandeep Metalcraft ได้ถ่ายโอนฟิวส์สำหรับปืนไร้แรงสะท้อนไปเมียนมาหรือไม่ ซึ่งตามหลักการแล้ว ISP ควรจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนว่าการจัดส่งของบริษัท Sandeep Metalcraft ไปยังประเทศเมียนมานั้นมีเทคโนโลยีของสวีเดนประกอบอยู่ด้วยหรือไม่ และควรจะเปิดเผยผลการตรวจสอบทั้งในอดีตรวมถึงที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคตให้สาธารณชนได้รับทราบ
ทางด้านของ JFM ได้ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนการข้อเสนอของนายสเวนเนลิงเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่เรียกร้องให้รัฐบาลสวีเดนดำเนินการป้องการการส่งออกซ้ำของอาวุธสวีเดนไปยังเมียนมา
JFM ได้รายงานถึงความกังวลเมื่อเดือน ก.ย.2565 ในช่วงเวลาที่ซ้าบได้ออกประกาศว่าทางบริษัทได้ตัดสินใจที่ตั้งโรงงานในอินเดียเพื่อผลิตระบบปืนไร้แรงสะท้อนฯ โดยผลจากการประกาศร่วมทุนและตั้งโรงงานดังกล่าว ก็ทำให้เกิดการจัดตั้งบริษัท Saab FFV India ขึ้นมา เพื่อเป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องยิงจรวดสำหรับกองทัพอินเดีย และผลิตอาวุธอื่นๆขายในต่างประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะว่าอินเดียได้เพิ่มความร่วมมือทางการทหารอย่างต่อเนื่องกับเมียนมาหลังเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในช่วงปี 2560 โดยในเดือน ก.ค.2562 อินเดียและเมียนมาได้มีการเซ็นบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือหรือว่าเอ็มโอยูด้านกลาโหมและยังคงสนับสนุนกองทัพเมียนมาอย่างต่อเนื่องหลังจากรัฐประหาร
โดยข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) อินเดียเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่อันดับสามให้กับเมียนมาในช่วงปี 2560-2564 คิดเป็น 17% ของการนําเข้าอาวุธของเมียนมารองจากจีน (36%) และรัสเซีย (27%)
เรียบเรียงจาก:https://mizzima.com/article/sweden-must-act-stop-indian-arms-sales-myanmar-military
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปงเอกชนสวิส ตั้ง บ.ย่อย หลบคว่ำบาตร แอบขายน้ำมันรัสเซีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปมปัญหาการใช้กฎหมายใหม่แคนาดา รับมือโอลิการ์ชลงทุนสินทรัพย์มหาศาล
- ส่องคดีทุจริตโลก: จากปมสินบนโรลซ์รอยส์โยงกรณีอื้อฉาว จัดซื้อ บ.ฝึก ทอ.อินเดียนับหมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เส้นทางทองคำ แสน ล.จาก 'รัสเซีย' สู่ UAE หลบมาตรการคว่ำบาตรตะวันตก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ยูเอ็นเผย 'สิงคโปร์' ส่งออกชิ้นส่วนให้กองทัพเมียนมา 8 พัน ล. หลัง รปห.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เผยความมั่งคั่งบิ๊ก ทอ.เมียนมา ให้เครือญาติตั้งบริษัทรับงานนับพันล้าน
- ส่องคดีทุจริตโลก:อดีตลูกจ้างฟ้องศาล แฉ บ.แคนาดา จ่ายสินบน แลกสัญญารถเกราะยูเครน พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: บริษัทพลังงานเยอรมนี เอี่ยวส่งเชื้อเพลิง เอื้อกองทัพรัสเซีย บุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก: สกอตแลนด์ทำสัญญาจ้างตุรเคีย ต่อเรือ 9 พัน ล. ท้องถิ่นไม่ได้ประโยชน์
- ส่องคดีทุจริตโลก:เอกสารหลุดเพนตากอน แฉความสัมพันธ์ รัสเซีย- UAE ช่วยหลบมาตรการคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก:เจาะลึกระบบธนาคารใต้ดินจีน เอี่ยวฟอกเงินพันล้านแก๊งยาเสพติดยุโรป
- ส่องคดีทุจริตโลก: อัยการ EU สั่งสอบ งบฟื้นฟูเมืองหลวงบัลแกเรียไม่โปร่งใส เสียหาย ร้อย ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.เซอร์เบีย ส่อใช้งานนักจารกรรมข้อมูลการเงินอิสราเอลโจมตีฝ่ายตรงข้าม
- ส่องคดีทุจริตโลก: เอกชนใกล้ชิดพรรคการเมือง ได้สัญญาส่งอาหารกองทัพลัตเวีย 8 พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการสวิสสั่งฟัน 4 นายธนาคาร เอื้อประโยชน์คนสนิทปูตินฝากเงินนับพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปง 3 เอกชนเยอรมนี นำเข้าไม้สักผิด กม.จากเมียนมานานนับปี
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉ หน.ทหารรับจ้างวากเนอร์ หลบคว่ำบาตรตะวันตก หารายได้ พัน ล.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก: แฉคอร์รัปชั่นวงการก่อสร้างตุรเคีย ต้นเหตุยอดตายแผ่นดินไหว 4.6 หมื่นศพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปม บ.เกลมาโต้ถูกกล่าวหาจ่ายคอมมิชชั่นเอื้อทำสัญญาหลาย รบ.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปง บ.พลังงานยักษ์ใหญ่ตะวันตก ทำธุรกิจหนุนเส้นเงินเผด็จการเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปมฉาว กห.ยูเครนจัดซื้ออาหารไม่โปร่งใส กระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ
- ส่องคดีทุจริตโลก:ขมวดปมอื้อฉาว ATK สะเทือนพรรคคอมฯเวียดนามอย่างไร หลัง ปธน.ลาออก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ตามรอยบุหรี่จีนนับล้านมวนสูญหาย หลังเดินทางออกจากโรงงานในโรมาเนีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชนรับงานบูรณะถนนยูเครนพันล้าน เชื่อมโยงผู้ต้องหาหนีคดี FBI
- ส่องคดีทุจริตโลก: ประมวลข่าวคอร์รัปชันโลกปี 65 จากโอลิการ์ชรัสเซียถึงเอกสารแพนโดรา