มีความเป็นไปได้ว่านายจิลาสอาจจะมีการปกปิดหรือมีการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลบางอย่าง โดยหลักฐานที่รวบรวมได้จากสำนักข่าว OCCRP และสื่อพันธมิตรพบว่ามีข้อบ่งชี้ว่ามีการสร้างเอกสารทางธนาคารปลอม โดยผู้สร้างเอกสารปลอมก็คือนายทาล ฮานัน ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดชาวอิสราเอลที่ขายบริการด้านการบิดเบือนข้อมูล
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ในสัปดาห์นี้ขอนำเสนอกรณีที่รัฐบาลเซอร์เบียอาจจะมีการติดต่อใช้งานบุคคลที่คาดว่าจะสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย และมีส่วนในการดัดแปลงข้อมูล โดยรายละเอียดมีดังต่อไปนี้
สำนักข่าวOrganized Crime and Corruption Reporting Project (OCCRP) หรือเครือข่ายผู้สื่อข่าวที่รายงานเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมและการทุจริต ได้รายงานข่าวว่าย้อนไปเมื่อเดือน มี.ค. 2564 ประธานาธิบดีเซอร์เบีย ซึ่งก็คือนายอเล็กซานดาร์ วูซิส ได้เดินทางไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างไรก็ตามการเดินทางดังกล่าวทำให้เขาถูกตรวจสอบว่ารัฐบาลของเขามีส่วนเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากร
อย่างไรก็ตามแทนที่ประธานาธิบดีวูซิสจะออกมาชี้แจงข้อมูลเขากลับใช้โอกาสนี้ปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ที่มีแนวโน้มโอนเอียงเข้าข้างเขาชื่อว่า TV Pink โดยประธานาธิบดีวูซิสกล่าวว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดนั้นมีเบื้องหลังมาจากนายดราแกน จิลาส อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรดและคู่แข่งทางการเมือง
ประธานาธิบดีวูซิสยังได้อ้างต่อไปอีกว่านายจิลาสนั้นซุกซ่อนความมั่งคั่งที่ผิดกฎหมายเอาไว้ในธนาคารต่างๆทั่วโลก และคาดว่าอีกไม่นานความมั่งคั่งเหล่านี้จะถูกเปิดโปงออกมา
6 วันหลังจากที่มีการออกอากาศ หนังสือพิมพ์ที่มีจุดยืนเอียงข้างรัฐบาลเซอร์เบียก็ได้มีการเผยแพร่บทความเกี่ยวกับบัญชีนอกอาณาเขตของนายจิลาส
หนังสือพิมพ์ในเซอร์เบียโจมตีนายดราแกน จิลาส อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรด
“นายจิลาสมีเงินซูกซ่อนอยู่ที่เกาะมอริเชียสและในสวิตเซอร์แลนด์ โดยในช่วงเดือน ธ.ค. 2563 พบว่าเขามีเงินอยู่กว่า 6.4 ล้านยูโร (235,248,272 บาท) ในบัญชีธนาคารใน 2 ประเทศนี้” หนังสือพิมพ์เวอร์เซิร์นเย่ โนวอสติ (Večernje Novosti) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่มีจุดยืนไปทางรัฐบาลเซอร์เบียระบุเมื่อเดือน มี.ค.2564
โดยเรื่องเงินหลายล้านยูโรของนายจิลาสนั้นตกเป็นพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ต่างๆในเซอร์เบียเป็นระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์ บรรดาผู้สื่อข่าวอ้างว่าเขามีหลักฐานว่าบัญชีเหล่านั้นมีตัวตนอยู่จริง เหล่าคอมเมนเตเตอร์ตามสื่อได้วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องของการฟอกเงินและการเลี่ยงภาษี ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ได้ออกมาพูดถึงผลกระทบของการกระทำดังกล่าว
ทางด้านของนายซินิซ่า มาลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลางคลังของเซอร์เบียได้กล่าวผ่านโทรทัศน์เช่นกันว่านายจิลาสมีหลายสิบบัญชีที่เต็มไปด้วยเงินซึ่งถูกขโมย ขณะที่นายเซลโก ราโดวาโนวิช หัวหน้าหน่วยต่อต้านการฟอกเงินของเซอร์เบียได้ให้คำมั่นเช่นกันว่าจะดำเนินการสืบสวน
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่สื่อทั้งหมดถูกเบนความสนใจไปจากข่าวการเปิดโปงอันเกี่ยวข้องกับความเกี่ยวข้องของรัฐบาลกับองค์กรอาชญากรรม ก็ไม่เคยมีการนำข้อกล่าวหาที่มีต่อนายจิลาสไปดำเนินการในกระบวนการทางกฎหมายแต่อย่างใด ทางฝั่งของนายจิลาสเองก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่มีต่อตัวเขาทั้งหมดและพยายามฟ้องร้องกลับประธานาธิบดีซูซิส และสื่อมวลชนต่างๆที่ได้กล่าวหาเขา
ขณะที่หนังสือพิมพ์โนวอสติก็ได้ออกมาอ้างว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดนั้นมีการปลอมเอกสารทางธนาคารเพื่อหลีกเลี่ยงจากกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรม อย่างไรก็ตามศาลเซอร์เบียก็ไม่เคยนำคดีเหล่านี้ไปพิจารณาเลย
มีความเป็นไปได้ว่านายจิลาสอาจจะมีการปกปิดหรือมีการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลบางอย่าง โดยหลักฐานที่รวบรวมได้จากสำนักข่าว OCCRP และสื่อพันธมิตรพบว่ามีข้อบ่งชี้ว่ามีการสร้างเอกสารทางธนาคารปลอม โดยผู้สร้างเอกสารปลอมก็คือนายทาล ฮานัน ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดชาวอิสราเอลที่ขายบริการด้านการบิดเบือนข้อมูล
นายทาล ฮานัน ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดนักจารกรรมข้อมูลการเงินชาวอิสราเอล
มีแหล่งข่าวรายหนึ่งได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว OCCRP พร้อมกับข้อมูลเปรียบเทียบอีกชุด ที่อ้างว่าข้อมูลนี้ถูกนายมาลีนำไปใช้ออกรายการโทรทัศน์ โดยข้อมูลชุดนี้ถูกสร้างขึ้นในเดือน ธ.ค. 2563 ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนก่อนที่จะมีการกล่าวหานายจิลาสออกอากาศเป็นครั้งแรก
โดยหัวเรื่องของข้อมูลระบุว่าเป็นการค้นหาข้อมูลทางธนาคารในเชิงลึก มีเนื้อหาของสิ่งที่คล้ายกับการให้บริการของนายฮานันที่ระบุว่าเขาให้บริการในเรื่องการสแกนธนาคารในระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมานายฮานันได้เคยเสนอการให้บริการดังกล่าวให้กับกลุ่มผู้สื่อข่าวนอกรูปแบบซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพของเขา
*หมายเหตุ:ผู้สื่อข่าวนอกรูปแบบคือกลุ่มผู้สื่อข่าวที่พยายามทำข่าวโดยพยายามแทรกซึมเข้าไปในชุมชนโดยวางตัวเป็นคนที่เป็นมิตรกับชุมชนนั้น
แหล่งข่าว 2 คนที่มีความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของนายฮานันเองก็ได้ยืนยันว่านายฮานันนั้นอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการณ์หาข้อมูลทั้งหมด แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าใครกันแน่เป็นคนว่าจ้างให้นายฮานันดำเนินปฏิบัติการณ์หาข้อมูล จัดทำเอกสารที่ว่ามานี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเซอร์เบีย, ตัวแทนของนายมาลี รวมไปถึงประธานาธิบดีวูซิสไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการณ์แต่อย่างใด
อนึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการต้องสงสัยว่านายฮานันได้มีการขายข้อมูลบันทึกบัญชีธนาคาร เพราะทางอัยการสวิสได้มีการสืบสวนในประเด็นที่ว่านายฮานันนั้นอาจจะขายข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายๆกันให้กับสายลับชาวสวิสชื่อว่านายแดเนียล โมเซอร์
เพราะมีรายงานจากสื่อพันธมิตรของสำนักข่าว OCCRP ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชื่อว่า Tamedia พบว่านายโมเซอร์ได้เคยจ่ายเงินให้กับนายฮานันเป็นเงินกว่า 88,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (2,999,920 บาท) ในปี 2557 โดยแลกกับการที่นายฮานันจะหาข้อมูลทางการเงินของหนึ่งในเป้าหมาย แต่ปรากฏว่าข้อมูลที่หามาได้นั้นกลับกลายเป็นข้อมูลปลอม
โดยในคดีดังกล่าวนั้นอัยการสวิสได้ยกคำฟ้องที่มีต่อนายฮานันไปเมื่อปี 2564 ระบุว่า พวกเขาไม่สามารถสืบค้นได้ว่านายฮานันได้รับรู้หรือไม่ว่าข้อมูลที่เขามอบให้กับนายโมเซอร์นั้นจะถูกนำไปใช้ในภารกิจจารกรรม
ขณะที่นายฮานันเองก็ได้กล่าวกับสื่ออีกแห่งชื่อว่า Forbidden Stories โดยเขาปฏิเสธการกระทำความผิดทั้งหมด และไม่ยอมตอบคำถามเกี่ยวกับกรณีของนายจิลาส อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรด
@การสแกนธนาคารทั่วโลก
พบข้อมูลว่านายฮานันมีประวัติทั้งในเรื่องของการใช้ข้อมูลที่ถูกบิดเบือน และแฮ็กข้อมูลเพื่อเข้าไปยุ่งกับการเมืองในระดับโลก
ย้อนไปเมื่อกลางปี 2565 กลุ่มผู้สื่อข่าวนอกรูปแบบที่ได้ทำงานให้กับโครงการข่าว Story Killers ได้เข้าถึงทีมงานของนายฮานัน โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวอ้างตัวว่าเป็นคนกลางสำหรับลูกค้าที่ต้องการจะชะลอการเลือกตั้งในแอฟริกา ซึ่งในระหว่างการประชุมซูมกันหลายครั้งและการพบปะแบบเห็นตัวกันครั้งหนึ่ง นายฮานันและทีมของเขาได้เสนอกลยุทธ์ที่จะเผยแพร่ข้อมูลที่มีการบิดเบือนและสามารถบ่อนทำลายกลไกประชาธิปไตยได้
ผู้สื่อข่าวสามารถยืนยันข้อมูลได้อีกว่าทีมของนายฮานันได้ใช้กลยุทธ์เหล่านี้ อาทิ การใช้แคมเปญโซเชียลมีเดียเพื่อกำหนดเป้าหมายบางอย่าง,การแฮ็กอีเมลเพื่อจะควบคุมผลลัพธ์ทางการเมือง เป็นต้น และสิ่งอื่นๆที่นายฮานันอ้างว่าเขาสามารถทำได้ก็ได้แก่การระบุบัญชีธนาคารของผู้ที่เป็นเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามบนโลก ด้วยจุดประสงค์ว่าจะหาสิ่งที่เป็นจุดอ่อนสำหรับบุคคลนั้นๆ ซึ่งเรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ไกลตัวมากขึ้นไปอีก
“ตอนนี้ผมกำลังแสดงให้พวกคุณเห็นถึงข่าวกรองทางการเงิน” นายฮานันกล่าวครั้งหนึ่งในระหว่างการคุยผ่านซูม และเขาก็ได้เปิดเอกสารที่เรียกว่า “การสแกนธนาคารในระดับโลก:ข้อมูลอันเป็นความลับ” และก็ได้มีการเลื่อนเมาส์ลงแสดงให้เห็นถึงรายชื่อบัญชีธนาคารต่างๆของบุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายในช่วงเวลาที่ผ่านมา อาทิ นาย Batkhuu Gavaa ส.ส.มองโกเลียและนักธุรกิจที่เสียชีวิตในปี 2562
โดยนายฮานันอ้างว่าเขาพบว่าอดีต ส.ส.มองโกเลียคนนี้มีทรัพย์สินรวมถึง 232 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7,908,880,000 บาท) ใน 67 บัญชีธนาคาร แต่เขาไม่ได้อ้างว่าเขาสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร
“มันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่ามันประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น” นายฮานันกล่าว
ทางด้านของนายเจมส์ เฮนรี่ นักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเยลกล่าวว่าคำกล่าวอ้างของนายฮานันว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินได้ทั่วโลกนั้นฟังดูไม่น่าเชื่อถือ
“มันไม่มีระบบกลางของฐานข้อมูลธนาคารในระดับโลก และจะไม่เคยมี ใครก็ตามที่เสนอการให้บริการประเภทนี้ ถือว่าเป็นข้อบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มีส่วนร่วมเกี่ยวกับการแบล็กเมล์ หรือว่าติดสินบนของเจ้าหน้าที่ภายในธนาคารบางแห่ง” นานเฮนรี่กล่าว
มีความน่าสนใจอีกประการก็คือว่ารูปแบบการรายงานข้อมูลทางการเงินของนาย Gavaa ที่ถูกนำเสนอโดยนายฮานันนั้นมีความคล้ายคลึงกับรายงานข้อมูลทางการเงินของนายจิลาส ซึ่งผู้สื่อข่าวในเซอร์เบียอ้างว่าสามารถรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาได้ แม้ว่าข้อมูลทั้ง 2 ชุดนั้นจะไม่มีตราประทับของบริษัทติดอยู่ก็ตาม
รูปแบบการนำเสนอข้อมูลทางการเงินส่วนตัวของอดีตนายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรด (ล่าง)กับอดีต ส.ส.มองโกเลีย (บน)
สำหรับทีมของนายฮานันนั้นมีการระบุชื่อทีมว่าคือทีมจอร์เก (Team Jorge) แต่ทีมที่ว่านี้ไม่มีการจดทะเบียนว่าเป็นบริษัทและไม่มีโลโก้ใดๆสำหรับการทำงานมาก่อน โดยพวกเขามักจะทำงานอยู่ในเงามืด
ย้อนไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มผู้สื่อข่าวนอกรูปแบบได้พบกับนายฮานัน ที่เมืองโมดิอิน ในประเทศอิสราเอล ก็ปรากฎว่าสถานที่นัดพบนั้นเป็นอาคารที่มีลักษณะอึมครึมไม่มีป้าย ไม่มีอะไรเลย
“คุณเห็นนี่ไหม ที่ประตู มันไม่บอกอะไรเลย นี่คือสิ่งที่เราเป็น เราไม่ได้เป็นอะไรเลย” ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิดเบือนข้อมูลกล่าว
@การปลอมแปลงข้อมูลทางบัญชี
ตามข้อมูลคำฟ้องที่นายจิลาสฟ้องต่อประธานาธิบดีวูซิสและหนังสือพิมพ์โนวอสติ ซึ่งถูกปฏิเสธการรับฟ้องจากศาลเซอร์เบียมีการระบุรายละเอียดบางประการว่าผู้สื่อข่าวคนแรกที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวบนสื่อที่มีจุดยืนเอียงข้างรัฐบาล เธอระบุว่าเธอได้รับข้อมูลทางบัญชีจากแหล่งต้นทางที่ไม่ระบุที่มา โดยแหล่งข่าวลับของเธอซึ่งน่าจะทราบว่าเธอคือผู้สื่อข่าว
รายงานข่าวของผู้สือข่าวคนนี้มีการพูดถึงบัญชีธนาคาร 2 บัญชีที่เป็นของนายจิลาส บัญชีหนึ่งได้แก่ธนาคารดอยช์แบงค์ในมอริเชียสและอีกบัญชีได้แก่บัญชีธนาคาร Societe Generale ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีเงินรวมในบัญชีทั้งสิ้น 6.4 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอและสื่อมวลชนคนอื่นๆจะเขียนเรื่องราวมเหล่านี้นับสิบๆเรื่องแต่ปรากฎว่าไม่มีเรื่องใดเป็นเรื่องจริงเลย
สาเหตุที่ไม่จริงเพราะว่าในช่วงปี 2563 ธนาคารดอยช์แบงค์ไม่ได้มีสาขาอยู่ในมอริเชียสและธนาคาร Societe Generale ในซูริคก็ส่งจดหมายยืนยันมาแล้วว่าบัญชีของนายจิลาสนั้นไม่มีจริงแต่อย่างใด
ทางด้านของนายจิลาสได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาเคยเปิดบริษัทในสวิตเซอร์แลนด์อยู่ช่วงหนึ่งโดยได้รับคำอนุญาตจากธนาคารแห่งชาติเซอร์เบียแต่ยืนยันว่าบัญชีธนาคารของเขาในต่างแดนนั้นไม่มีจริง
“ผมไม่เคยมีบัญชีธนาคารนอกอาณาเขตแต่อย่างใด” นายจิลาสให้สัมภาษณ์กับสื่อพันธมิตรของสำนักข่าว OCCRP ที่ชื่อว่าสำนักข่าว KRIK
ข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมที่ OCCRP ได้รับมาระบุว่านายอารอน ชาวิฟ ที่ปรึกษาทางการเมืองที่ทำงานกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลนั้นอาจจะมีส่วนในการเชื่อมต่อรัฐบาลเซอร์เบียกับนายฮานัน
โดยนายชาวิฟได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าเขาเคยทำงานกับประธานาธิบดีเซอร์เบียในแคปเปญเลือกตั้งในปี 2560 แต่ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับนายฮานัน
“มีการแนะนำให้ผมรู้จักกับทีมจอร์เกอีกครั้งในปี 2562 และผมก็ไม่ได้มีธุรกิจหรือว่ามีธุรกรรมกับพวกเขาแต่อย่างใด” นายชาวิฟให้สัมภาษณ์กับ OCCRP และระบุต่อไปว่าถ้าหากชื่อของเขาถูกใช้โดยกลุ่มบุคคลที่สามเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เรื่องนี้เขาไม่ได้มีส่วนรับรู้ด้วย และมีความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ขณะที่นายจิลาสกล่าวว่าเขามีความสงสัยมายาวนานแล้วว่ารัฐบาลเซอร์เบียนั้นอยู่เบื้องหลังการรายงานปลอมในครั้งนี้แต่ว่าไม่เคยมีหลักฐานจะพิสูจน์ได้ เขาแค่รู้เพียงว่าใครเป็นคนแรกที่ออกมาป่าวประกาศให้รับรู้ว่าเขาบัญชีเหล่านี้เท่านั้น
อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรดกล่าวด้วยว่าเขายอมรับว่าข้อกล่าวหาในเรื่องบัญชีธนาคารเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ แต่ว่าแคมเปญโจมตีตัวเขานั้นมีมานานหลายปีแล้ว นับตั้งแต่ที่เขาและประธานาธิบดีวูซิสยังเป็นผู้แข่งชิงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรดในปี 2551 ซึ่งนายวูซิสได้แพ้การเลือกตั้งในครั้งนั้นและใน 4 ปีหลังจากนั้น
แต่พอหลังจากปี 2555 เมื่อนายวูซิสและพรรคการเมือง Serbian Progressive Party ชนะการเลือกตั้งก็มีการโจมตีนายจิลาสเรื่องมา โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าเขาหาเงินที่ผิดกฎหมายในต่างประเทศได้กว่า 600 ล้านยูโร
“พวกเขากล่าวหาว่าผมเป็นโจร, อาชญากรรม กล่าวหาว่าผมมีเงินนับพันล้านยูโร คือเราไม่สามารถจะต่อสู้กับขบวนการข่าวปลอมที่ทำกันอย่างเป็นระบบ และมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการได้” นาจิลาสกล่าว
เรียบเรียงจาก:https://www.occrp.org/en/storykillers/israeli-disinformation-expert-linked-to-faked-bank-accounts-in-serbian-smear-campaign
- ส่องคดีทุจริตโลก: เอกชนใกล้ชิดพรรคการเมือง ได้สัญญาส่งอาหารกองทัพลัตเวีย 8 พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการสวิสสั่งฟัน 4 นายธนาคาร เอื้อประโยชน์คนสนิทปูตินฝากเงินนับพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปง 3 เอกชนเยอรมนี นำเข้าไม้สักผิด กม.จากเมียนมานานนับปี
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉ หน.ทหารรับจ้างวากเนอร์ หลบคว่ำบาตรตะวันตก หารายได้ พัน ล.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก: แฉคอร์รัปชั่นวงการก่อสร้างตุรเคีย ต้นเหตุยอดตายแผ่นดินไหว 4.6 หมื่นศพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปม บ.เกลมาโต้ถูกกล่าวหาจ่ายคอมมิชชั่นเอื้อทำสัญญาหลาย รบ.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปง บ.พลังงานยักษ์ใหญ่ตะวันตก ทำธุรกิจหนุนเส้นเงินเผด็จการเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปมฉาว กห.ยูเครนจัดซื้ออาหารไม่โปร่งใส กระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ
- ส่องคดีทุจริตโลก:ขมวดปมอื้อฉาว ATK สะเทือนพรรคคอมฯเวียดนามอย่างไร หลัง ปธน.ลาออก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ตามรอยบุหรี่จีนนับล้านมวนสูญหาย หลังเดินทางออกจากโรงงานในโรมาเนีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชนรับงานบูรณะถนนยูเครนพันล้าน เชื่อมโยงผู้ต้องหาหนีคดี FBI
- ส่องคดีทุจริตโลก: ประมวลข่าวคอร์รัปชันโลกปี 65 จากโอลิการ์ชรัสเซียถึงเอกสารแพนโดรา