มีคำถามบางประการว่ากฎระเบียบใหม่ของแคนาดาจะมีผลบังคับใช้จนทำให้บรรลุเป้าหมายได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่ารัฐบาลท้องถิ่นในระดับรัฐและระดับพื้นที่การปกครองนั้นจงใจที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลให้แพร่หลายทั่วประเทศ อีกทั้งก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐกี่คนที่จะทำงานในโครงการนี้ เพื่อตรวจสอบว่าบริษัทต่างๆมีความถูกต้องตามที่ได้ลงทะเบียนไว้หรือไม่
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอเสนอปัญหาการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ของประเทศแคนาดา เพื่อจะรับมือกับการได้รับผลประโยชน์ของบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรในสงครามรัสเซียและยูเครน
โดยสำนักข่าว CBC ของแคนาดาได้รายงานข่าวถึงผลกระทบของสงครามดังกล่าวว่าได้เปิดโปงปัญหาที่เรื้อรังมานานในประเทศแคนาดา ซึ่งข้อมูลจากเอกสารภายในของรัฐบาล พบปัญหาว่าหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆของรัฐบาลยังไม่มีข้อมูลพื้นฐานว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริงของบริษัท และสินทรัพย์มูลค่าสูงหลายรายการในประเทศแคนาดา
ประเทศแคนาดาได้เริ่มกระบวนการคว่ำบาตรบุคคลระดับสูงของรัสเซียมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลประเทศตะวันตกนั้นรับทรายกันดีว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยในการจะทลายเครือข่ายการรับผลประโยชน์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรุกรานในครั้งนี้ เพราะเนื่องจากว่าเจ้าของธุรกิจของบุคคลเหล่านี้จะการวางชั้นซ้อนของบริษัทบังหน้า หรือว่าบัญชีต่างๆเอาไว้หลายชั้นมาก
ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนความโปร่งใสของแคนาดาเองก็ได้ออกมากล่าวเช่นกันว่าแคนาดาได้ละเลยกระบวนการตรวจสอบนักลงทุนที่มีความน่าสงสัยมานานแล้ว โดยนักลงทุนเหล่านี้จะใช้บริษัทโฮลดิ้ง (บริษัทที่ไปถือหุ้นบริษัทอื่น) นิรนามดำเนินการซื้อสินทรัพย์ที่มีค่า ซึ่งกระบวนการซื้อก็เป็นไปได้โดยสะดวก และบ่อยครั้งไม่มีการสอบถามถึงแหล่งที่มาของเงินแต่อย่างใด จนกระทั่งเริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไม่นานมีนี้ ตามเอกสารที่ทางสำนักข่าวได้มาด้วยกระบวนการทางกฎหมายขอข้อมูลข่าวสาร
“รัฐบาลแคนาดาได้ทํางานร่วมกับพันธมิตรระดับรัฐและระหว่างพรมแดนเพื่อปรับปรุงความโปร่งใสในการเป็นเจ้าของผลประโยชน์ของบริษัทต่างๆ” กระทรวงการคลังระบุในเอกสารสวนหนึ่งที่มีคำว่า “ได้รับการคุ้มครอง” ในปี2565
“โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในระดับรัฐบาลกลาง ในระดับรัฐและระดับพื้นที่การปกครองย่อยต่างๆได้มุ่งมั่นที่จะกําหนดให้ บริษัท ต่างๆมีข้อมูลการเป็นเจ้าของผลประโยชน์ที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน” เอกสารระบุต่อ
ทางด้านของโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่าภายใต้กฎระเบียบใหม่นั้นกำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลตัวผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงได้ก่อนสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตามมีคำถามบางประการว่ากฎระเบียบใหม่ของแคนาดาจะมีผลบังคับใช้จนทำให้บรรลุเป้าหมายได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่ารัฐบาลท้องถิ่นในระดับรัฐและระดับพื้นที่การปกครองนั้นจงใจที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลให้แพร่หลายทั่วประเทศ อีกทั้งก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐกี่คนที่จะทำงานในโครงการนี้ เพื่อตรวจสอบว่าบริษัทต่างๆมีความถูกต้องตามที่ได้ลงทะเบียนไว้หรือไม่
@ทุกคนต่างปิดหู ปิดตา
นับตั้งแต่คฤหาสน์ที่มีเจ้าของโดยกองทุนทรัสต์นิรนามในแวนคูเวอร์ไปจนถึง บริษัทหลายแห่ง ซึ่งมีการถือหุ้นบริษัทมูลค่ามหาศาล โดยบริษัทเหล่านี้พบว่าจดทะเบียนในเมืองโตรอนโต
ทางหน่วยข่าวกรองเกี่ยวกับการกระทำความผิดทางอาญาของรัฐบาลแคนาดาได้ประเมินว่ากิจการเหล่านี้น่าจะมีส่วนในการฟอกเงินเป็นมูลค่ามูลถึง 4.5หมื่นล้าน-1.13 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา (33,570,819,000-84,300,056,600 บาท) โดยใช้วิธีการผ่านบริษัทบังหน้าเพื่อปิดบังเจ้าของที่แท้จริงของเงินลงทุน ซึ่งวิธีการเหล่านี้นั้นเป็นสิ่งที่บุคคลที่ปรากฏชื่ออยู่ในปานามาเปเปอร์สมักจะดำเนินการกัน
อย่างไรก็ตาม สงครามยูเครน-รัสเซียได้ทำให้มีการเร่งรัดเพื่อจะเปิดโปงผู้รับผลประโยชน์ของการลงทุนที่แท้จริงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ทุกคนต่างปิดตา เพราะว่ามันเป็นเงิน แต่ไม่ได้รับรู้เลยว่าเงินที่ว่ามานี้ถูกนำไปเป็นอาวุธเพื่อต่อต้านเรา” นายเจมส์ โคเฮน ผู้อำนวยการด้านความโปร่งใสแคนาดากล่าวและกล่าวต่อไปว่าก่อนปี 2566 แคนาดานั้นเป็นประเทศที่ล้าหลังมากในเรื่องของการตรวจสอบบริษัทเหล่านี้เมื่อเทียบกับประเทศจี 7 อื่นๆ
นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศจะยึดทรัพย์ผู้ทรงอิทธิพลรัสเซียจำนวน 35 คน (อ้างอิงวิดีโอจาก Global News)
@การปะติดปะต่อข้อมูลกับความโปร่งใสของความเป็นเจ้าของ
ภายใต้กฎหมายใหม่นั้นบริษัทที่ดำเนินการซื้อขายและอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จะต้องเปิดเผยว่าผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงของบริษัทเป็นใคร
โดยกฎหมายใหม่นั้นมีเป้าประสงค์ว่าใครกันแน่เป็นผู้ที่ควบคุมบริษัท ถือหุ้นตั้งแต่ 25 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป หรือว่ามีสิทธิ์ออกเสียงต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจส่วนมากนั้นจดทะเบียนกันในภูมิภาคต่างๆขอแคนาดา ซึ่งกฎหมายของรัฐบาลกลางไม่มีผลบังคับใช้ที่นั่น แต่ก็มีบางรัฐที่พร้อมที่จะเอากฎหมายของรัฐบาลกลางไปบังคับใช้ โดยให้ระบุว่าใครเป็นเของที่แท้จริงของบริษัท ยกตัวอย่างเช่นที่รัฐควิเบก ที่ทางด้านของนางมารี-ฟรองซ์ เฟาเชอร์ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่าได้มีการใช้กฎหมายเพื่อความโปร่งใสฉบับใหม่ที่ระบุตัวตนของผู้รับผลประโยชน์บริษัทไปแล้วเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และย้ำต่อไปด้วยว่ารัฐบาลกลางจะเน้นย้ำให้พื้นที่ต่างๆของแคนาดาได้เดินหน้าเพื่อความโปร่งใสในการเปิดเผยเจ้าของผลประโยชน์นี้
ส่วนนายโคเฮนกล่าวว่าเข้าหวังว่าหน่วยงานที่จดทะเบียนบริษัทในรัฐต่างๆนั้นจะขยายการบังคับใช้กฎหมายนี้และสื่อสารไปยังระบบของรัฐบาลกลางให้มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทที่แท้จริง สามารถจะรวบรวมได้โดยไม่ยาก
ขณะที่นายมัลคอม อาบู นักกฎหมายของบริษัทออสเลอร์ที่ทำหน้าที่ติดตามอาชญากรคอปกขาว (การทุจริตของคนชั้นสูง) กล่าวว่า ณ ตอนนี้ เรามีการบังคับใช้กฎหมายแบบปะติดปะต่อกับกฎระเบียบของแต่ละรัฐที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของกฎหมายอย่างถูกต้องจําเป็นต้องมีการเชื่อมบางส่วนกับการใช้กฎหมายของภาครัฐ
นายอาบูกล่าวย้ำว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้จะนำไปสู่ภาระด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นต่อภาคธุรกิจในการตรวจสอบผู้รับผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามบริษัท ต่างๆควรติดตามตัวเจ้าของผลประโยชน์ของพวกเขาที่แท้จริงด้วย เพื่อทำให้การให้ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์ต่อหน่วยงานรัฐนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
@ผลกระทบที่เกิดขึ้น
ข้อมูลเอกสารระบุว่ามีความกังวลเกิดขึ้นจากกรณีที่ผู้ลงทุนบริษัทหรือสินทรัพย์ต่างๆในแคนาดา อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากร,ระบอบเผด็จการ หรือกังวลว่าการลงทุนดังกล่าวอาจจะเป็นฉากหน้าของการทุจริต
โดยเอกสารที่เคยเป็นความลับจนถึงวันที่ 18 พ.ย. ปีที่ผ่านมา และเป็นเอกสารที่ส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและชุมชนของแคนาดาได้ระบุถึงผู้มีอำนาจหรือว่าโอลิการ์ชของรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรชื่อว่านายโอเล็ก เดริปาสกา
มีการอ้างว่านายเดริปาสกานั้นเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ไม่ได้มีส่วนควบคุมในบริษัทสัญชาติแม่ที่ออสเตรียชื่อว่าบริษัท Strabag SE โดยบริษัทที่ออสเตรียนั้นพบว่าได้ดำเนินการในโครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ที่รัฐออนแทริโอ เป็นเหตุให้บริษัทนี้ได้รับเงินจากทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นออนแทรีโอเป็นมูลค่ามหาศาล
การดำเนินงานของบริษัท Starbag Se (อ้างอิงวิดีโอจาก STARBAG)
เอกสารที่เปิดโปงเกี่ยวกับสัดส่วนการถือหุ้นของนายเดริปาสกาในบริษัทที่ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวนั้นได้ทำให้นักการเมืองทั้งในออนแทริโอและในที่อื่นๆไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเพราะว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมหาเศรษฐีด้านพลังงานและเหล็กที่ถูกคว่ำบาตรจากรัฐบาลตะวันตกนั้นได้รับผลประโยชน์จากโครงการระบบคมนาคมที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
ทางด้านของนางแมเรียน แจคเคิล โฆษกบริษัท Strabag ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CBC ว่าบริษัทของเธอนั้นทำกิจการเกี่ยวกับรถไฟใต้ดินที่กำลังดำเนินโครงการอยู่ในเมืองโตรอนโต และบริษัท กำลังดำเนินการ เพื่อรับรองว่าการคว่ำบาตรโดยประเทศต่างๆ รวมถึงแคนาดาจะถูกนําไปใช้อย่างเต็มที่
“Strabag กําลังดําเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อแยกตัวเองออกจาก บริษัท การลงทุนจากบริษัท Rasperia ซึ่งมีเจ้าของบางส่วนได้แก่นายเดริปาสกา ซึ่งเป็นเจ้าของหุ้นบางสวนใน บริษัท ก่อสร้างในออสเตรีย” นางแจคเคิลกล่าวและกล่าวต่อไปว่าหนึ่งในตัวอย่างที่บริษัท Strabag ได้ดำเนินการก็มีอาทิเช่น การไม่จ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกคณะกรรมการที่ได้รับการเสนอชื่อโดนบริษัท Rasperia และก็ยังมีการถอนชื่อออก การจัดทำแผนการลงทุนใหม่เพื่อลดการมีส่วนร่วมของ Rasperia
@ปัญหาและจุดบอดในอสังหาริมทรัพย์
แม้ว่าระเบียบใหม่จะได้รับการสนับสนุนจากนักรณรงค์เพื่อความโปร่งใส อย่างไรก็ตามระเบียบใหม่ที่ว่ามานี้ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงการลงทุนที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แต่อย่างใด
นักวิเคราะห์กล่าวว่าอสังหาริมทรัพย์ในแคนาดารวมไปถึงคอนโด,บ้านที่มีราคาสูง ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นเป้าหมายการลงทุนอันยอดนิยมสำหรับนักลงทุนที่มีประวัติอันคลุมเครือ
"รัฐบาลตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับรัฐและพรมแดนต่างๆเพื่อพัฒนาแนวทางระดับชาติในการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่เป็นประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์" เจ้าหน้าที่รัฐบาลรายหนึ่งกล่าว
ในขณะที่นายโคเฮนกล่าวทิ้งท้ายว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของแคนาดานั้นแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาล แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดผลร้ายตามมาด้วยเช่นกันเพราะว่ากลายเป็นกลไกหลักสำหรับการฟอกเงินสำหรับนักการเมืองที่ทุจริตและอาชญากร ซึ่งนี่ก็ควรจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลแคนาดาต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเช่นกัน
เรียบเรียงจาก:www.cbc.ca/news/canada/business-ownership-transparency-atia-1.6859520
- ส่องคดีทุจริตโลก: จากปมสินบนโรลซ์รอยส์โยงกรณีอื้อฉาว จัดซื้อ บ.ฝึก ทอ.อินเดียนับหมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เส้นทางทองคำ แสน ล.จาก 'รัสเซีย' สู่ UAE หลบมาตรการคว่ำบาตรตะวันตก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ยูเอ็นเผย 'สิงคโปร์' ส่งออกชิ้นส่วนให้กองทัพเมียนมา 8 พัน ล. หลัง รปห.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เผยความมั่งคั่งบิ๊ก ทอ.เมียนมา ให้เครือญาติตั้งบริษัทรับงานนับพันล้าน
- ส่องคดีทุจริตโลก:อดีตลูกจ้างฟ้องศาล แฉ บ.แคนาดา จ่ายสินบน แลกสัญญารถเกราะยูเครน พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: บริษัทพลังงานเยอรมนี เอี่ยวส่งเชื้อเพลิง เอื้อกองทัพรัสเซีย บุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก: สกอตแลนด์ทำสัญญาจ้างตุรเคีย ต่อเรือ 9 พัน ล. ท้องถิ่นไม่ได้ประโยชน์
- ส่องคดีทุจริตโลก:เอกสารหลุดเพนตากอน แฉความสัมพันธ์ รัสเซีย- UAE ช่วยหลบมาตรการคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก:เจาะลึกระบบธนาคารใต้ดินจีน เอี่ยวฟอกเงินพันล้านแก๊งยาเสพติดยุโรป
- ส่องคดีทุจริตโลก: อัยการ EU สั่งสอบ งบฟื้นฟูเมืองหลวงบัลแกเรียไม่โปร่งใส เสียหาย ร้อย ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.เซอร์เบีย ส่อใช้งานนักจารกรรมข้อมูลการเงินอิสราเอลโจมตีฝ่ายตรงข้าม
- ส่องคดีทุจริตโลก: เอกชนใกล้ชิดพรรคการเมือง ได้สัญญาส่งอาหารกองทัพลัตเวีย 8 พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการสวิสสั่งฟัน 4 นายธนาคาร เอื้อประโยชน์คนสนิทปูตินฝากเงินนับพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปง 3 เอกชนเยอรมนี นำเข้าไม้สักผิด กม.จากเมียนมานานนับปี
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉ หน.ทหารรับจ้างวากเนอร์ หลบคว่ำบาตรตะวันตก หารายได้ พัน ล.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก: แฉคอร์รัปชั่นวงการก่อสร้างตุรเคีย ต้นเหตุยอดตายแผ่นดินไหว 4.6 หมื่นศพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปม บ.เกลมาโต้ถูกกล่าวหาจ่ายคอมมิชชั่นเอื้อทำสัญญาหลาย รบ.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปง บ.พลังงานยักษ์ใหญ่ตะวันตก ทำธุรกิจหนุนเส้นเงินเผด็จการเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดปมฉาว กห.ยูเครนจัดซื้ออาหารไม่โปร่งใส กระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ
- ส่องคดีทุจริตโลก:ขมวดปมอื้อฉาว ATK สะเทือนพรรคคอมฯเวียดนามอย่างไร หลัง ปธน.ลาออก
- ส่องคดีทุจริตโลก: ตามรอยบุหรี่จีนนับล้านมวนสูญหาย หลังเดินทางออกจากโรงงานในโรมาเนีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชนรับงานบูรณะถนนยูเครนพันล้าน เชื่อมโยงผู้ต้องหาหนีคดี FBI
- ส่องคดีทุจริตโลก: ประมวลข่าวคอร์รัปชันโลกปี 65 จากโอลิการ์ชรัสเซียถึงเอกสารแพนโดรา