เอกสารอูเบอร์ไฟล์ระบุว่าอูเบอร์ได้ทำข้อตกลงกับนายเซนินซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาดูมา เพื่อให้ช่วยเหลืออูเบอร์ทั้งในกระบวนการนิติบัญญัติและช่วยเหลือในด้านกฎระเบียบต่างๆ โดยมีการอ้างถึงคำพูดของนายเบนจามิน เว็ก-พรอสเซอร์ ที่ปรึกษาของบริษัทอูเบอร์ตอนหนึ่งว่านายเซนินนั้นได้รับการจ่ายเงินเพื่ออย่างเหมาะสมเพื่อตอบแทนการสนับสนุนของเขา
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอประเด็นความไม่โปร่งใสของบริษัทขนส่งเอกชนชื่อดังอย่างอูเบอร์ ซึ่งมีการตรวจสอบพบว่าอาจจะกลายเป็นเส้นทางการเงินให้กับกลุ่มโอลิการ์ชหรือกลุ่มมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลในประเทศรัสเซีย
โดยรายงานจากสำนักข่าวสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ หรือ ICIJ ได้ระบุว่า ค่ำคืนหนึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2559 มีการพบปะกันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่ในด้านเทคโนโลยีและกลุ่มนักการเมืองของประเทศรัสเซีย ณ สนามกอล์ฟมอสโก ซิตี้ กอล์ฟ คลับ ที่ตั้งอยู่ ณ ริมแม่น้ำมอสควา เพื่อจะรับประทานอาหารร่วมกัน
โดยที่ไปที่มาของการจัดมื้ออาหารสุดหรูดังกล่าวนั้นพบว่ามาจากนายทราวิส คาลานิค นักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกาและเป็นเจ้าของบริษัทอูเบอร์ ซึ่งเขามีความต้องการเป็นอย่างยิ่งที่จะขยายกิจการอูเบอร์เข้าไปในประเทศรัสเซีย, ซึ่งบรรยากาศในระหว่างมื้ออาหารนั้น ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทอูเบอร์ได้มีการพูดกับผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับทั้งเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า,เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอื่นๆ
“พระเจ้ารักชาวรัสเซีย,ประเทศที่ทั้งการดำเนินธุรกิจหรือว่าจะเป็นเรื่องการเมืองอะไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ดำเนินการได้สะดวกเป็นอย่างยิ่ง”นายมาร์ค แม็คแกนน์ ผู้บริหารบริษัทอูเบอร์ประจำภูมิภาคยุโรปได้ส่งอีเมลไปยังผู้บริหารบริษัทอีกสองคนไม่นานก่อนที่จะมีการนัดหมายเพื่อรับประทานมื้อค่ำดังกล่าว
ทั้งนี้ที่ผ่านมาในประเทศประชาธิปไตยตะวันตก อูเบอร์ต้องเผชิญกับข้อพิพาทและความท้าทายด้านกฎหมายต่างๆมากมายกับรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทางผู้บริหารของบริษัทนั้นมีความต้องการจะขยายกิจการมายังรัสเซีย ซึ่ง ณ เวลานั้นถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความน่าสนใจ แต่ทว่าตลาดที่รัสเซียนั้นก็มีลักษณะที่กดขี่มากที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน
โดยข้อมูลจากเอกสารที่เรียกกันว่า ‘อูเบอร์ไฟล์’ ซึ่งเป็นเอกสารบันทึกภายในของบริษัทอูเบอร์นั้น ทางสำนักข่าวการ์เดียนของอังกฤษได้เป็นผู้รวบรวม ทำข่าว รวมไปถึงแชร์เอกสารดังกล่าวมายัง ICIJ และอีก 42 พันธมิตรสื่อมวลชน ซึ่งเอกสารที่ว่านี้แสดงให้เห็นภาพของผู้บริหารบริษัทบางคนนั้นมีความเกี่ยวพันทางการเมืองโยงไปถึงมหาเศรษฐีในรัสเซีย โดยมหาเศรษฐีเหล่านี้ก็เป็นผู้ที่มีสัมพันธ์อันดีกับอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐฯและอังกฤษ และเป็นผู้ที่ทำให้อูเบอร์ได้สัญญามูลค่ามหาศาลมาก
อย่างไรก็ตามโอลิการ์ชรัสเซียที่ว่ามานี้ก็อยู่ภายใต้มาตรการการคว่ำบาตรของทางฝั่งตะวันตกแล้ว ซึ่งนี่ก็อาจจะส่งผลต่อบริษัทอูเบอร์ในเรื่องการทำธุรกิจในอนาคตในประเทศรัสเซีย เพราะว่าการหาช่องทางเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแบบเมื่อก่อนแล้ว
โดยจากกรณีดังกล่าว ทางบริษัทอูเบอร์ได้มีการชี้แจงต่อ ICIJ และพันธมิตรสื่อยืนยันว่า ไม่มีใครในบริษัทอูเบอร์นั้นมีความสัมพันธ์กับกลุ่มโอลิการ์ชแต่อย่างใด
“ผู้บริหารบริษัทคนปัจจุบันของเราขอปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆก็ตามเกี่ยวกับบุคลากรของบริษัทในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่มีความเชื่อมโยงกับระบอบการปกครองของนายปูติน โดยภายใต้การบริหารของบริษัทอูเบอร์ ณ เวลานี้นั้นมีความคิดว่าปูติน(นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย) นั้นน่ารังเกียจและขอปฏิเสธความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ทั้งกับเขารวมไปถึงกับคนที่ใกล้ชิด”นางจิล เฮเซลเบเกอร์ โฆษกบริษัทอูเบอร์กล่าว
@ทำให้หมีเชื่อง
อย่างไรก็ตาม ในบันทึกภายในของบริษัท พบว่ามีเอกสารฉบับหนึ่งที่มีหัวข้อระบุว่า “การทำให้หมีเชื่อง” ซึ่งรายละเอียดในบันทึกนั้นระบุถึงการที่บริษัทอูเบอร์ได้ทำข้อตกลงกับพันธมิตรของนายปูตินจำนวนหลายคน ได้แก่การทำข้อตกลงกับธนาคาร Sberbank ของนายเฮอร์แมน เกรฟ (Herman Gref) และต่อมาก็มีการทำข้อตกลงกับบริษัท LetterOne Holdings ซึ่งมีเจ้าของคือนายมิคาอิล ฟรีดแมน (Mikhail Fridman) ผู้จงรักภักดีต่อนายปูติน และนายปโยตร์ เอเว่น (Petr Aven) และทำสัญญากับบริษัท USM ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งอีกแห่งที่มีเจ้าของคือนายอาลิเชอร์ อุสมานอฟ (Alisher Usmanov) มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยติดอันดับหกของประเทศรัสเซีย
โดยหลังจากที่มีการเซ็นสัญญากับธนาคาร Sberbank ในเดือน ก.ย. 2558 นายเกรฟก็ได้มีการแนะนำบริษัทอูเบอร์ให้กับนายกเทศมนตรีกรุงมอสโก,ส่วนธนาคาร Sberbank เองก็ได้มีการโปรโมตอูเบอร์ผ่านแพลตฟอร์มธนาคารบนโทรศัพท์มือถือและยังได้ดำเนินโครงการสนับสนุนในด้านการเงินสำหรับยานพาหนะให้กับผู้ขับรถอูเบอร์
ข้อมูลจากอีเมลได้ระบุต่อไปว่าลูกค้าของธนาคาร Sberbank นั้นยังได้แต้มผู้ใช้บริการหรือ loyalty points เมื่อใช้บริการทริปอูเบอร์ในทุกๆครั้ง ซึ่งเพียงแค่ในช่วงปี 2558 พบข้อมูลว่าอูเบอร์นั้นมีคนขับใหม่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 20,000 รายในรัสเซีย และยิ่งไปกว่านั้นอูเบอร์ยังได้มีการผูกบัตรเครดิตร่วมกับธนาคาร Sberbank เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการรวมไปถึงเสนอโปรแกรมให้กับธนาคาร Sberbank เพื่อที่จะทำให้การชำระเงินให้กับลูกจ้างของธนาคารนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
@สหภาพคนขับรถแท็กซี่ของรัสเซีย
แน่นอนว่าการเป็นพันธมิตรกันระหว่างอูเบอร์และธนาคาร Sberbank ส่งผลทำให้กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ในรัสเซียไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยกลุ่มสหภาพคนขับแท็กซี่ได้มีการเขียนจดหมายไปถึงนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซียในช่วงเวลานั้น ซึ่งในเนื่องหาก็ระบุว่าการเป็นพันธมิตรกันดังกล่าวนี้จะส่งผลทำให้กระบวนการแข่งขันกันในทางธุรกิจเกิดความอ่อนแอ,ทำให้ค่าจ้างคนขับรถแท็กซี่ลดลงเนื่องจากมีการตัดราคา และยังเป็นการละเมิดกฎหมายรถแท็กซี่ นอกจากนี้ในจดหมายยังได้กล่าวหาด้วยว่าอูเบอร์นั้นมีพฤติกรรมการให้สินบนและเลี่ยงภาษี
“ถือเป็นเรื่องปกติหรือไม่ ที่ว่าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียนั้นจะเข้าไปมีส่วนในการโฆษณาให้กับธุรกิจบริการซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นอันตรายสำหรับประชาชน ทำไมธนาคาร Sberbank ถึงได้มีการเสนอข้อเสนอคิดเป็นมูลค่าสูง มีความซับซ้อน เสนอข้อตกลงด้านเงินกู้พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆให้กับทางอูเบอร์” จดหมายของสหภาพระบุ
ข้อมูลอีเมลหลายฉบับได้ระบุด้วยว่าความสัมพันธ์ของอูเบอร์และธนาคาร Sberbank นั้นแท้จริงแล้วเริ่มต้นมาจากบุคคลชื่อว่านายเดวิด ปลูฟฟ์ อดีตที่ปรึกษาทำเนียบขาว โดยนายปลูฟฟ์นั้นได้ไปพบปะกับนายเกรฟ ในช่วงที่เขาบินไปรัสเซียในปี 2558 ซึ่งในช่วงเวลานั้นธนาคาร Sberbank ได้ถูกคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯและรัฐบาลของสหภาพยุโรปหรือว่าอียูแล้ว โทษฐานที่รัสเซียนั้นได้เข้าไปบุกยึดครองไครเมียในปี 2557
โดยทั้งนายปลูฟฟ์และนายเกรฟก็ไม่ได้ตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของอูเบอร์ในรัสเซียแต่อย่างใด
ขณะที่นางเฮเซลเบเกอร์กล่าวว่า ณ เวลานี้อูเบอร์นั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์กับนายเกรฟหรือว่าธนาคาร Sberbank แล้ว ส่วนการลงทุนในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ไมได้เป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯแต่อย่างใด
อีเมลระบุต่อไปว่าสำหรับการหารือเพื่อทำข้อตกลงกับบริษัท LetterOne นั้นเริ่มต้นขึ้นในปลายปี 2558 จนไปถึงช่วงปลาย ม.ค.2559 โดยมีการพบปะกันระหว่างนายทราวิส คาลานิค เจ้าของบริษัทอูเบอร์ กับนายอเล็กซี่ เรซนิโควิช หุ้นส่วนผู้จัดการ บริษัท LetterOne Technology ณ ที่ประชุม World Economic Forum เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งบริษัท LetterOne Technology ที่ว่านี้ก็เป็นหนึ่งในเครือของบริษัท LetterOne Holdings ซึ่งเนื้อหาที่สรุปได้หลังจากการประชุมระบุว่า “ดูเหมือนว่าเราใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว”
ทางด้านของนางเดวอน สเปอร์เจียน โฆษกส่วนตัวของนายคาลานิค กล่าวว่านายคาลานิคนั้นมีความต้องการจะขยายกิจการของบริษัทอูเบอร์เข้าไปในรัสเซีย ผ่านการหารือและการเดินทางไปยังรัสเซียเพียงไม่กี่ครั้ง โดยได้มีการสอบถามนายคาลานิคถึงบทบาทของนายคาลานิคเกี่ยวกับประเด็นทางด้านกฎหมาย,นโยบาย,ทีมงานผู้พัฒนาธุรกิจ และการอนุมัติทางด้านกลยุทธ์และแผนการในการดำเนินงานต่างๆ
นางสเปอร์เจียนกล่าวต่อไปว่านายคาลานิคนั้นไม่ได้รับรู้หรือทราบเลยว่าจะมีใครในรัสเซียที่จะไปดำเนินการแทนในนามของบริษัทอูเบอร์ซึ่งจะไปละเมิดต่อกฎหมายของทางรัสเซียหรือว่าสหรัฐอเมริกา
อนึ่งนายคาลานิคลาออกจากประธานผู้บริหารบริษัทอูเบอร์ในปี 2560 แต่ยังคงเป็นบอร์ดบริหารบริษัทไปจนถึงสิ้นปี 2562
สำหรับความพยายามของผู้บริหารบริษัทอูเบอร์ที่ต้องการจะสานสัมพันธ์กับกลุ่มบริษัท LetterOne ดังกล่าวนี้นั้นก็ส่งผลทำให้ในเดือน ก.พ. 2559 บริษัทของโอลิการ์ชรัสเซียก็ได้มีการซื้อหุ้นมูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7,322.4 ล้านบาท) ซึ่งการซื้อหุ้นดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์
โดยส่วนหนึ่งของข้อตกลงนั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับแต่ว่ามีรายงานว่าอูเบอร์ได้มีการเสนอใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,830.6 ล้านบาท) ให้กับบริษัทนักลงทุนจากรัสเซีย เพื่อเป็นสิ่งยืนยันว่าบริษัทนั้นมีสิทธิในการซื้อหุ้นอูเบอร์ ซึ่งทางด้านของนายมาร์ค แมคแกนน์ ล็อบบี้ยิสต์ระดับอาวุโสของอูเบอร์ได้กล่าวว่าการเสนอใบสำคัญฯนี้ทำขึ้นเพื่อที่จะช่วยเหลืออูเบอร์ให้ผ่านพ้นประเด็นทางการเมืองในประเทศรัสเซียไปได้
นายแมคแกนน์ยังได้เขียนกำกับด้วยว่า “พวกเขาจะทำหน้าที่อันหนักหนาในแต่ละวันในฐานะตัวแทนของเราในสภาดูมาและในฐานะทีมงานบริหารงานของประธานาธิบดีรัสเซีย”
ข้อมูลจากเอกสารแสดงให้เห็นอีกว่าผู้บริหารของ LetterOne นั้นมีบทบาทในทางที่เป็นคุณอย่างมากในการเชื่อมต่อระหว่างอูเบอร์กับผู้ทรงอิทธิพลในรัสเซีย ยกตัวอย่างเช่นคนกลุ่มนี้นั้นได้เชื่อมต่อระหว่างอูเบอร์กับนายวลาดิเมียร์ เซนิน รองรองประธานธนาคารอัลฟ่า ซึ่งในบันทึกของบริษัทอูเบอร์ระบุว่าบุคคลนี้นั้นเป็นผู้มีส่วนในการร่างกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับอูเบอร์ ลงไปในกฎหมายว่าด้วยรถแท็กซี่ของทางรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายนี้ก็ไม่ได้กลายเป็นกฎหมายจริงๆ
ในข้อมูลเอกสารอูเบอร์ไฟล์ระบุว่าอูเบอร์ได้ทำข้อตกลงกับนายเซนินซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาดูมา เพื่อให้ช่วยเหลืออูเบอร์ทั้งในกระบวนการนิติบัญญัติและช่วยเหลือในด้านกฎระเบียบต่างๆ โดยมีการอ้างถึงคำพูดของนายเบนจามิน เว็ก-พรอสเซอร์ ที่ปรึกษาของบริษัทอูเบอร์ตอนหนึ่งว่านายเซนินนั้นได้รับการจ่ายเงินเพื่ออย่างเหมาะสมเพื่อตอบแทนการสนับสนุนของเขา ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้นั้น ทางด้านของนางเฮเซลเบเกอร์ก็ได้ยืนยันเองว่านายเซนินนั้นได้รับเงินไปกว่า 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10,983,600 บาท) เพื่อเป็นค่าจ้างในกิจกรรมที่เกี่ยวกับทางรัฐบาล
เครือข่ายโอลิการ์ชรัสเซียโยงใยไปถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ส่วนทางด้านของนายเฟรเซอร์ โรบินสัน หัวหน้าฝ่ายธุรกิจของอูเบอร์ในยุโรป,ตะวันออกกลางและในแอฟริกาก็ได้บอกกับเพื่อนร่วมงานตอนหนึ่งว่าฝ่ายกฎหมายของอูเบอร์นั้นค่อนข้างจะกังวลว่าการจ่ายเงินจ้างนายเซนินซึ่งอยู่นอกเหนือจากการทำใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นฯนั้นอาจจะไปละเมิดต่อกฎหมายของสหรัฐฯ ที่ต่อต้านการติดสินบนเจ้าหน้าที่ต่างชาติได้เช่นกัน
ขณะที่นางเฮเซลเบเกอร์ได้กล่าวว่าปัจจุบันนั้นอูเบอร์ไม่ได้มีการทำธุรกิจและจะไม่ทำธุรกิจกับนายเซนินแล้ว
กลับมาที่นายแมคแกนน์ เขาได้ตอบคำถามของ ICIJ ตอนหนึ่งโดยยืนยันว่าตัวเขาไม่ได้สนับสนุนให้มีการจ่ายเงินกับนายเซนิน
“ผมค่อนข้างจะกังวลกับกรณีที่บริษัท LetterOne นั้นยืนกรานว่าให้เราจ่ายเงินกับหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของธนาคารอัลฟา” นายแมคเกนน์กล่าว
ส่วนแถลงการณ์ของบริษัท LetterOne ระบุว่าทั้งบริษัทและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนั้นไม่เคยมีการล็อบบี้บริษัทอูเบอร์ และบทบาทของนายเซนินนั้นทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและความรับผิดชอบของบริษัทอูเบอร์โดยสิ้นเชิง
นายปโยตร์ เอเว่น เจ้าของร่วมบริษัท LetterOne ก็ได้กล่าวกับสำนักข่าวเดอร์การ์เดียนทางโทรศัพท์ว่าเขาไม่มีส่วนในใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นฯ หรือกิจกรรมการล็อบบี้แต่อย่างใดและยืนยันว่าเขาอยู่นอกเหนือการเมืองโดยสิ้นเชิง เช่นเดียวกับนายฟริดแมนที่กล่าวว่าเขาไม่มีส่วนในการลงทุนบริษัทอูเบอร์หรือกิจกรรมล็อบบี้ใดๆก็ตาม
ข้อมูลในปี 2557 ที่ระบุถึงกลุ่มอาชีพต่างๆที่บริษัทอูเบอร์ได้เข้าไปล็อบบี้ผ่านการให้ถือหุ้นของบริษัท
ในบันทึกได้ระบุต่อไปว่าทั้งนายฟริดแมน,นายอเว่น และนายเกรฟที่ให้การสนับสนุนบริษัทอูเบอร์นั้น ทั้งหมดต่างก็มีสัมพันธ์ใกล้ชิดไปถึงนายปูตินด้วยเช่นกัน
มีรายงานซึ่งมาจากอีเมลของนายแมคเกนน์อีกฉบับระบุว่าผู้บริหารของบริษัท LetterOne ยังได้เคยตกลงที่จะช่วยเหลือกิจการของบริษัทอูเบอร์ในประเทศเบลารุส ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซีย โดยมีรายงานว่าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของเบลารุสนั้นเคยมีแผนการที่จะเพิกถอนใบอนุญาตผู้ขับขี่รถอูเบอร์ และเตรียมที่จะเรียกเอกสารสำแดงภาษีทั้งหมดของผู้ขับรถอูเบอร์ อย่างไรก็ตาม นายอเว่นก็ได้วางแผนที่จะเข้ามีแทรกแซงและส่งประเด็นเหล่านี้ขึ้นไปถึงรองนายกรัฐมนตรีในกรุงมินสค์ เมืองหลวงเบลารุส
และแน่นอนว่านายอเว่นก็ปฏิเสธในรายละเอียดที่ระบุว่าเขาได้มีการไปแทรกแซงกิจการในประเทศเบลารุส
อนึ่งมีรายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่างบริษัท LetterOne กับบริษัทอูเบอร์นั้นแท้จริงแล้วส่วนหนึ่งมาจากการจัดการของลอร์ดปีเตอร์ แมนเดลสัน อดีตรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรหลายสมัย และนายเว็ก-พรอสเซอร์ อดีตอดีตผู้อํานวยการฝ่ายสื่อสารของนายกรัฐมนตรีโทนี่ แบลร์
โดยอูเบอร์ไฟล์ระบุว่าบริษัทที่ให้คำปรึกษาทางยุทธศาสตร์ที่ชื่อว่า Global Counsel นั้นเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่ทรงอิทธิพลในรัสเซียและเชื่อมโยงกับทำเนียบประธานาธิบดีเครมลิน ขณะที่นายเว็ก-พรอสเซอร์เองก็เป็นผู้ที่ติดต่อโดยตรงกับนายอเว่นจากบริษัท LetterOne เพื่อสอบถามว่าจะจัดให้มีการพบปะกันระหว่างทีมงานจากบริษัทอูเบอร์กับทีมที่ปรึกษาประธานาธิบดีปูตินได้หรือไม่ ซึ่งในปี 2559 ทางบริษัท Globel Counsel ก็ได้รับสัญญาคิดเป็นมูลค่า 87,000 ดอลลาร์ฯ (3,185,244 บาท)ต่อเดือนเพื่อให้ดำเนินกิจการดังกล่าวนี้
ทั้งนี้ในช่วงประมาณสองถึงสามเดือนแรกของปี 2559 นั้นพบว่าค่าจ้างประมาณหนึ่งในสี่ของบริษัทนั้นพบว่าเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมในประเทศรัสเซีย
ขณะที่โฆษกบริษัท Global Counsel ระบุว่าอูเบอร์ได้แต่งตั้งให้บริษัทนี้ดำเนินกิจการเฉพาะการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ในต่างประเทศของบริษัทเท่านั้น โดยบริษัท Global Counsel ได้ดำเนินธุรกิจโดยปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของอียูและสหราชอาณาจักรเสมอมา
ข่าวการควบรวมกิจการบริษัทอูเบอร์และYANDEX ในรัสเซีย (อ้างอิงวิดีโอจาก CNBC )
ส่วนกรณีบริษัท USM นั้น ในเอกสารอูเบอร์ไฟล์ระบุว่าอูเบอร์ได้มีการเสนอใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นแก่บริษัท USM ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีเจ้าของร่วมคือนายอาลิเชอร์ อุสมานอฟ โอลิการ์ชรัสเซียสัญชาติอุซเบกิสถาน โดยมูลค่าของใบสำคัญฯนี้อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (73,224,000 บาท)
อย่างไรก็ตามโฆษกของบริษัท USM ได้กล่าวว่าไม่มีประเด็นทางการเมืองเกี่ยวกับเรื่องนี้และกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระที่จะบ่งชี้ว่าการเข้ามาถือหุ้นนั้นจะกลายเป็นการล็อบบี้ทางการเมืองให้กับบริษัทอูเบอร์ได้
“คุณอุสมานอฟไม่เคยเจอกับตัวแทนของบริษัทอูเบอร์แต่อย่างใด” โฆษกบริษัท USM กล่าว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอูเบอร์จะพยายามที่จะเข้าไปดำเนินกิจการ แต่ก็ปรากฎว่าบริษัทร่วมทุนของอูเบอร์ที่ดำเนินกิจการในรัสเซียนั้นกลับไม่ประสบความสำเร็จนัก
ทำให้ในปี 2560 อูเบอร์ได้มีการตกลงจะควบรวมกิจการกับบริษัทอินเทอร์เน็ตในรัสเซียที่ชื่อว่า Yandex ซึ่งให้บริการเรียกรถเหมือนกัน ด้วยข้อตกลงควบรวมกิจการอยู่ที่ 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (135,464.4 ล้านบาท) และหลังจากนั้นอูเบอร์ก็ได้มีการขายหุ้นของบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ
และในช่วงปีนี้หลังจากเหตุการณ์การรุกรานยูเครน ทางบริษัทอูเบอร์ก็ได้อ้างว่าได้ตัดความสัมพันธ์ทางการเงินทุกอย่างกับรัสเซียไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
เรียบเรียงจาก:https://www.icij.org/investigations/uber-files/uber-deals-russia-putin-allies/
- ส่องคดีทุจริตโลก: สตง.อังกฤษสอบนโยบาย 'บอริส จอห์นสัน' ส่อย้อมแมวสร้าง รพ. 40 แห่ง
- ส่องคดีทุจริตโลก:เผยเส้นทางฟอสเฟตซีเรีย สู่โรงงานปุ๋ยยุโรป ส่งรายได้เข้าโอลิการ์ชรัสเซีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: จนท.องค์การเภสัชอินเดียรับสินบน แลกอนุมัติยกเลิกทดลองอินซูลินระยะ 3
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารเครือยักษ์ใหญ่รัฐบอลติก เอี่ยวฟอกเงินหมื่น ล.โอลิการ์ชรัสเซีย
- ส่องคดีทุจริตโลก: ปลด รมต.สธ.เวียดนาม เซ่นปมขายชุดตรวจโควิดแพง 45% เอกชนฟันกำไร 709 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:นักธุรกิจจีนเอี่ยวคดีสินบน อดีตที่ปรึกษาฮุนเซน ถือหุ้นสโมสรเบอร์มิงแฮม
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดเส้นทางการเงินคดีให้สินบนนายพลจีน สู่คฤหาสน์พันล้าน ณ แวนคูเวอร์
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงข้อพิรุธธุรกรรม เชื่อมโยงทอง 3 ตันประเทศกินี ส่อถูกฟอกในอังกฤษ
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อมแมวจรวด,โดรน-กินส่วนต่างวิทยุ 3 พันล. ต้นเหตุรัสเซียติดหล่มในยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดข้อพิรุธเอกชนไร้ประสบการณ์ ชนะสัญญาชุด PPE รบ.ออสเตรเลีย หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ย้อนรอยสินบนเรือดำน้ำมาเลเซีย พัน ล.! ฝรั่งเศสสั่งสอบ บ.ต่อเรือรบ
- ส่องคดีทุจริตโลก: 'รมต.สเปน'โดนสอบ ใช้ช่องพิเศษอนุมัติสัญญาโควิดเอื้อ บ.พวกพ้อง
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมคอรัปชั่นในกองทัพรัสเซีย-งบปี 65 รวม 2 ล้าน ล.ไม่รู้ไปไหนบ้าง
- ส่องคดีทุจริตโลก:เผยเครือข่ายขโมยเงินสนับสนุนอาหารอียู 694 ล. นำไปซื้อแฟลต-กระเป๋าหรู
- ส่องคดีทุจริตโลก:'ไมโครซอฟท์'ถูกอดีตลูกจ้างแฉ-พนง.รวมหัว บ.คู่ค้า,จนท.รัฐ ทุจริตหลาย ปท.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เผยเครือข่าย บ.เปลือกนอกหนุนเผด็จการซีเรีย-หลบมาตรการคว่ำบาตรตะวันตก
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปง บ.กฎหมายยักษ์ใหญ่ รับงานช่วยโอลิการ์ชรัสเซียรอดมาตรการคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปง 'ดูไบ' แหล่งกบดานเศรษฐีหนีคดี หลังโลกตามอายัดเงินจากรัสเซีย
- ส่องคดีทุจริตโลก:'อีริคสัน' ส่อเอี่ยวจ่ายเงินให้กลุ่ม ISIS แลกทำธุรกิจใน 'โมซุล'
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดเครือข่ายธนาคารดันสเก เอสโตเนีย ไฉนเป็นเส้นทางฟอกเงิน 5.1 หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: 'อังกฤษ' ยกเลิกวีซ่านักลงทุน หวั่นเปิดช่องฟอกเงิน โต้ 'วิกฤติยูเครน'
- ส่องคดีทุจริตโลก: อายุน้อยร้อย ล.-เมื่อเด็กเป็นเจ้าของ บ.ในลักเซมเบิร์กเกือบ 300 แห่ง
- ส่องคดีทุจริตโลก:'อังกฤษ'ยึดทรัพย์ทุจริต'อาเซอร์ไบจาน' แสน ล.โยงฟอกเงินผ่าน'เอสโตเนีย'
- ส่องคดีทุจริตโลก:'คูเวต'เร่งสอบ ปมจัดซื้อเครื่องบินไต้ฝุ่น 2.9 แสน ล.แพง
- ส่องคดีทุจริตโลก: 'อัยการเบอร์ลิน'สอบผู้บริหารพรรคกรีนส์-รมต.อนุมัติโบนัสโควิดไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก:รบ.อิสราเอล จ่อตั้ง กก.สอบปมสินบนเรือดำน้ำเยอรมนี หลังเรื่องแดงปี 59
- ส่องคดีทุจริตโลก:'เพนตากอน'ถลุงงบหลายแสน ล.ไร้ประสิทธิภาพ-เอื้อปย.เอกชนช่วงสงครามอัฟกาฯ
- ส่องคดีทุจริตโลก: 'อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก' ปธน.เบลารุส บุคคลคอร์รัปชันแห่งปี 64