เอกสารแพนโดร่าระบุต่อไปด้วยว่านายตู้นั้นเป็นผู้ซึ่งรับผลประโยชน์จากบริษัทแห่งหนึ่งจากบริษัทที่ชื่อว่า Bright Ruby Resources (BRR) โดยมีโครงข่ายการถือครองบริษัทต่างๆถึง 6 ชั้นด้วยกัน ซึ่งหลังจากในช่วงปี 2552 ในช่วงเวลาที่นายตู้ถูกสอบสวนจากทางการจีนในกรณีการติดสินบนกับบริษัท Rio Tinto เขาก็ได้เริ่มโครงข่ายกองทุนทรัสต์ และบริษัทนอกอาณาเขตของเขา
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ในสัปดาห์นี้ขอเสนอประเด็นข่าวความไม่โปร่งใสอันเกี่ยวกับเอกสารแพนโดร่าที่ประเทศออสเตรเลีย
โดยสำนักข่าวออสเตรเลียไฟแนนเชียลรีวิวและสำนักข่าวเอบีซีประเทศออสเตรเลียได้รายงานข่าวว่ามหาเศรษฐีของประเทศจีนซึ่งเคยรับสารภาพว่าในได้มีการจ่ายเงินสินบนเพื่อแลกกับการเข้าถึงแร่เหล็กในประเทศออสเตรเลียนั้นยังคงมีการค้าขายกับเอกชนในออสเตรเลีย และยังคงดำเนินดำเนินกิจการการค้าต่อไป แม้ว่าประเด็นเรื่องสินบนจะถูกเปิดโปงแล้วในช่วงปี 2553 ก็ตาม
ซึ่งนักธุรกิจชาวจีนคนดังกล่าวนั้นได้แก่นายตู้ ชวงหวา (Du Shuanghua) โดยข้อมูลของเอกสารแพนโดร่าระบุว่านายตู้นั้นได้มีการใช้บริษัทนอกอาณาเขตดำเนินกิจการค้ากับบริษัททำเหมืองแร่เหล็กออสเตรเลียจำนวนหลายแห่งรวมไปถึงบริษัท Rio Tinto และบริษัท BHP Billiton
ในข้อมูลเอกสารแพนโดร่าระบุต่อไปด้วยว่าบริษัท Rio Tinto ได้มีกิจการการค้ากับนายตู้คิดเป็นมูลค่ากว่า 275 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (6,761,700,000 บาท) ผ่านบริษัทตัวแทนแห่งหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ และดำเนินธุรกิจด้วยกันมาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ประเด็นสินบนถูกเปิดโปงต่อสาธารณะในปี 2553
ขณะที่บริษัทของประเทศออสเตรเลียอีกแห่งซึ่งรวมไปถึงบริษัท BHP Billiton และบริษัทอื่นๆที่มีเจ้าของก็คือนายซานจีฟ กุปต้า (Sanjeev Gupta) ที่กำลังถูกสอบสวนในข้อหาฉ้อโกงที่ประเทศอังกฤษนั้น ก็ถูกรายงานว่าได้ค้าขายนายตู้เช่นเดียวกัน
เอกสารแพนโดร่าระบุต่อไปด้วยว่านายตู้นั้นเป็นผู้ซึ่งรับผลประโยชน์จากบริษัทแห่งหนึ่งจากบริษัทที่ชื่อว่า Bright Ruby Resources (BRR) โดยมีโครงข่ายการถือครองบริษัทต่างๆถึง 6 ชั้นด้วยกัน ซึ่งหลังจากในช่วงปี 2552 ในช่วงเวลาที่นายตู้ถูกสอบสวนจากทางการจีนในกรณีการติดสินบนกับบริษัท Rio Tinto เขาก็ได้เริ่มโครงข่ายกองทุนทรัสต์ และบริษัทนอกอาณาเขตของเขา
และนายตู้ยังสามารถหาเงินได้เป็นจำนวนมหาศาลจากการที่เขามีทั้งเส้นสายทางการเมืองและการจ่ายสินบนในเขตอำนาจอธิปไตยต่างๆซึ่งรวมถึงทั้งที่ประเทศสิงคโปร์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าของออสเตรเลียยังได้แสดงความกังวลว่ากรณีที่นายตู้นั้นมีความสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาตร์ในประเด็นเรื่องคู่ค้าของออสเตรเลีย
“ตามที่ทราบกันก็คือมีการปรับสมดุลด้านอำนาจเกิดขึ้นในประเทศจีนระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐของประเทศจีน ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์กำลังรวบอำนาจขึ้นมา ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าพรรคคอมนิวนิสต์จีนและประเทศจีนจะมีความกล้าตัดสินใจอันอ่อนไหวมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญยิ่งก็คือจะต้องรู้ว่าใครเป็นใคร และใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเครือข่ายการลงทุนที่ว่ามานี้ โดยเฉพาะในกรณีเพื่อแก้ไขข้อพิพาทด้านสัญญาการค้า”นายจอห์น การ์ริค อาจารย์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยชาร์ลส์ ดาร์วินกล่าว
@ใครคือนายตู้ ชวงหวา
นายตู้ ชวงหวา เป็นชาวเมืองรื่อจ้าว ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเล โดยเขาได้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตเหล็กชื่อว่า Rizhao Steel Holding ซึ่งบริษัทนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน โดยครั้งหนึ่งนายตู้เคยถูกจัดอันดับความมั่งคั่งจากบริษัทวิจัยความมั่งคั่ง Hurun Rich List ให้อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นกว่า 3.5 หมื่นล้านหยวน (183,936,052,720 บาท)
ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนั้นทำให้นายตู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการสภาประชาชนประจำเมืองเหิงสุ่ย,และในเวลาต่อมาก็มีตำแหน่งในสภาประชาชนที่มณฑลหูเป่ยในช่วงระหว่างปี 2546-2551 และในช่วงเวลาที่นายตู้ประสบความสำเร็จนั้นเขายังได้ผูกมิตรทางธุรกิจกับครอบครัวของนายหู จิ่นเทา อดีตประธานาธิบดีจีน
โครงสร้างการทำธุรกิจบริษัทของนายตู้ ชวงหวา
@มหาเศรษฐีผู้พัวพันกับการให้สินบน
อย่างไรก็ตาม ย้อนไปในช่วงไม่กี่ปีหลังจากปี 2543 ในช่วงเวลานั้นตลาดแร่เหล็กถูกครอบงำโดยกลุ่มผู้ขายเพียงไม่กี่ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือบริษัทสัญชาติอังกฤษ ออสเตรเลียชื่อว่า Rio Tinto และบริษัท BHP ที่ครอบงำตลาดในประเทศจีน
และในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัท Rizhao Steel ของนายตู้ก็ไม่ได้มีใบอนุญาตให้นำเข้าแร่เหล็ก แต่ปรากฏว่าบริษัทนี้ก็สามารถจะเข้าถึงแร่เหล็กได้ในอัตราที่สูง และหลังจากนั้นจึงได้มีการสืบสวนกันจนทราบว่าการเข้าถึงแร่เหล็กดังกล่าวนั้นมีกรณีของการให้สินบนกันเกิดขึ้น
โดยในช่วงปี 2553 ลูกจ้าง 4 คนของบริษัท Rio Tinto ได้ถูกตั้งข้อหาว่ารับเงินจากบริษัทเหล็กกล้าจีนเป็นเงินจำนวนนับล้านดอลลาร์และมีการขโมยข้อมูลเอกสารความลับของทางราชการ
ขณะที่ในการพิจารณาคดีแบบลับที่ประเทศจีน นายตู้ดถูกสอบสวนในฐานะเป็นพยานและเขาได้ยอมรับว่ามีการให้เงินกว่า 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (304,649,982 บาท) ซึ่งเป็นเงินสินบนส่งไปถึงผู้บริหารบริษัท Rio Tinto หลายราย รวมถึงนายหวางหย่ง (Wang Yong) แต่อย่างไรก็ตามนายหวางก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ซึ่งในการให้การครั้งหนึ่ง นายตู้ได้เคยกล่าวว่า “ถ้าหากไม่มีความช่วยเหลือของนายหวางหย่ง บริษัทเขาไม่มีทางเติบโตได้ถึงขนาดนี้”
โดยผลการพิจารณาคดี ในที่สุดแล้วก็มีการจำคุกผู้บริหารของบริษัทสัญชาติออสเตรเลียรายหนึ่ง ซึ่งก็คือนายสเติร์นฮู (Stern Hu) คิดเป็นเวลาทั้งสิ้น 14 ปี
แต่อย่างไรก็ตาม นายตู้ ชวนหัวนั้นกลับหลุดรอดจากการดำเนินคดีไม่ว่าจะเป็นจากที่ไหนก็ตาม โดยนายปีเตอร์ ไค นักวิจัยจากสถาบันโลวี่ (Lowy Institute) กล่าวว่ากรณีการที่นายตู้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีไปได้นั้นเป็นสิ่งที่มักเห็นในซีรีส์กฎหมายจากรายการโทรทัศน์ในอเมริกา โดยนายตู้นั้นได้ตกลงที่จะกลายเป็นพยานปากสำคัญ ซึ่งกรณีนี้นั้นให้เขาได้รับการคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง
นายไคกล่าวต่อไปว่าหลังจากกรณีสินบนของนักธุรกิจระดับสูงที่ว่ามานั้น ประเทศสิงคโปร์ก็ได้กลายเป็นสถานที่อันน่าดึงดูดมากขึ้น สำหรับการเป็นฮับหรือว่าจุดรวมของการค้าแร่เหล็กในระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังมีสิทธิประโยชน์ในด้านภาษีบางประการสำหรับกรณีการก่อตั้งบริษัทในประเทศสิงคโปร์
รายงานข่าวเอกสารแพนโดร่าในต่างประเทศ (อ้างอิงวิดีโอจากสำนักข่าวเอบีซี)
@สัญญาลับที่ดำเนินต่อไปกับบริษัท Rio Tinto
โดยหลังจากที่ยอมรับว่าตัวเขาเป็นผู้ให้สินบน นายตู้ ชวงหวา ก็ได้พยายามที่จะหลบเลี่ยงและหลีกหนีจากความสนใจของสาธารณชนมาโดยตลอด
แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลจากเอกสารแพนโดร่าอันประกอบไปด้วยจดหมายหลายฉบับนั้นระบุชัดเจนว่าบริษัท Rio Tinto ยังคงมีการทำธุรกิจกับบริษัทเหล็กกล้าของนายตู้ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Bright Ruby Resources (BRR)
โดยบริษัท Bright Ruby Resources (BRR) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์นั้นถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงเดือน ธ.ค.2552 หรือก็คือไม่กี่เดือนหลังจากที่นายตู้ได้กองทุนทรัสต์นอกอาณาเขตเป็นแห่งแรกที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จินในชื่อกองทุนว่า Dragon Nobel และมีการแต่งตั้งให้ Credit Suisse Trust เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนทรัสต์นี้
ซึ่งกองทุนทรัสต์ Dragon Nobel ก็เป็นอีกหนึ่งในหลายกองทุนทรัสต์ที่ถูกก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีจีนด้วยจุดประสงค์ว่าให้เป็นผู้ที่ถือทรัพย์สินให้ และยังเป็นผู้ถือครองหุ้นทั้งในบริษัทขนส่งและบริษัทเหล็กกล้าหลายแห่ง
ส่วนกรณีบริษัท BRR ก็ถูกก่อตั้งให้ถือครองทรัพย์สิน และบริษัทนี้ก็เป็นผู้ที่ดำเนินธุรกิจกับบริษัท Rio Tinto
ในข้อมูลเอกสารสัญญาและบันทึกการจ่ายเงินซึ่งถูกเปิดโปงผ่านเอกสารแพนโดน่า เปเปอร์ส รายงานว่ามีบริษัทย่อยของบริษัท Rio Tinto แห่งหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ได้ทำข้อตกลงกับบริษัท BRR ในปี 2556 และยังได้มีการส่งแร่เหล็กคิดเป็นมูลค่ากว่า 13.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (333,569,475 บาท) ไปยังท่าเรือประเทศจีน ในปี 2559 ทั้งท่าเรือที่เมืองรื่อจ้าว,ชิงเต่า และหลานชาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทเหล็กกล้าของนายตู้ตั้งอยู่
เอกสารแพนโดร่ายังได้ระบุอีกว่าบริษัทย่อยของ Rio Tinto ซึ่งตั้งอยู่ในนครเพิร์ธที่ชื่อว่า Robe River Ore Sales Pty Ltd ยังเป็นบริษัทที่ทำการค้ามากที่สุดกับบริษัท BRR ของนายตู้
โดยในช่วงเดือน ส.ค. 2557 มีการโอนจ่ายเงินจำนวนกว่า 24 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (593,012,400 บาท) เข้าไปยังบัญชีธนาคารเอเอ็นแซด (ANZ) และผู้ที่รับการจ่ายเงินก็คือบริษัท Rizhao Steel Holding
และยังมีเอกสารอื่นๆระบุว่าทั้งบริษัท Rio Tinto และบริษัท BRR ได้มีกิจการการค้าต่อกันเรื่อยมานับตั้งแต่ปี 2557-2561 โดยคิดเป็นมูลค่าการค้ากว่า 275 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (6,794,933,750 บาท)
ซึ่งทางสำนักข่าวเอบีซีก็ได้ส่งคำถามถามไปยังบริษัท Rio Tinto ว่าทราบหรือไม่ว่าบริษัทได้ดำเนินการค้ากับนายตู้ ชวงหวา และบริษัทที่เกี่ยวข้องหลังจากที่เกิดกรณีอื้อฉาวเรื่องสินบนแล้ว แต่ปรากฏว่าทางบริษัทปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
รูปภาพนายตู้ ชวงหวาในหนังสือเดินทาง
@บริษัทซึ่งเป็นที่อื้อฉาวอีก 2 แห่ง
มีรายงานว่ามีบริษัททำเหมืองแร่เหล็กในออสเตรเลียอื่นๆอีก 2 แห่ง ได้แก่บริษัท BHP Billiton และบริษัท Arrium group ได้ดำเนินการค้าขายกับบริษัท BRR ด้วยเช่นกัน แม้จะรับทราบดีว่านายตู้ได้ยอมรับในกรณีสินบนอันจะนำมาซึ่งความเสี่ยงของชื่อเสียงของบริษัททั้ง 2 แห่งดังกล่าว
โดยมีข้อมูลว่าบริษัท BHP Billiton Marketing AG ซึ่งเป็นบริษัทสาขาประเทศสิงคโปร์ของบริษัท BHP ได้เซ็นสัญญาในช่วงปลายปี 2557 คิดเป็นมูลค่าสัญญากว่า 51 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1,260,151,350 บาท) เพื่อขายเหล็กกล้าให้กับบริษัท BRR ในช่วงปีถัดมาหลังจากนั้น
ขณะที่บริษัท BHP Billiton Mitsui Coal Pty Ltd ก็ได้รับเงินจำนวนกว่า 41 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1,013,062,850 บาท) หลังจากที่มีการขนส่งถ่านหินไปยังท่าเรือในเมืองรื่อจ้าวและเมืองอื่นๆ
ส่วนบริษัท Arrium Mining อันมีเจ้าของได้แก่นายซานจีฟ กุปตา ก็พบว่าได้ค้าขายแร่เหล็กกับบริษัทของนายตู้ผ่านบริษัทย่อยที่เกี่ยวข้องกับ Arrium Mining ที่ชื่อว่าบริษัท OneSteel Manufacturing Pty Ltd
อย่างไรก็ตามบริษัทค้าเหล็กในเครือของนายกุปตาที่ชื่อว่า GFG Alliance ณ เวลานี้กำลังถูกตรวจสอบโดยสำนักงานการฉ้อฉลร้ายแรงของอังกฤษ (SFO) ของประเทศอังกฤษ
โดยเอกสารการซื้อขายอันเป็นความลับนั้นมีการเซ็นขึ้นในช่วงเดือน พ.ค 2558 ระหว่าบริษัท BRR และบริษัท OneSteel Manufacturing Pty Ltd ก่อนช่วงที่นายกุปตาจะเข้าซื้อกิจการในปี 2560
และต่อมาในช่วงปี 2561 ก็มีการออกตราสารเครดิต ระบุมูลค่าการซื้อคิดเป็นจำนวนกว่า 14 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (345,923,900 บาท) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการที่จะซื้อแร่เหล็กจากบริษัท OneSteel
ซึ่งจากกรณีดังกล่าว โฆษกของบริษัท GFG Alliance ได้ยืนยันกับสำนักข่าวเอบีซีว่าบริษัท OneSteel Manufacturing ไม่ได้ทำการค้ากับบริษัท Bright Ruby Resources หรือ BRR แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุว่าบริษัท Arrium Group นั้นได้ทำการค้ากับบริษัท BRR หรือไม่
และทางบริษัท BHP นายตู้ ชวงหวา,บริษัท BRR,บริษัท Rizhao Steel Holdings ทั้งหมดก็ไม่ได้มีการตอบคำถามของสำนักข่าวเอบีซีเช่นเดียวกัน
อ่านประกอบ :
- ส่องคดีทุจริตโลก:สหรัฐฯสอบ บ.มอร์แกน สแตนลีย์ เอี่ยวช่วยอดีต รมต.เวเนซุเอลาฟอกเงินน้ำมัน
- ส่องคดีทุจริตโลก:'บ.อเมซอน'ส่อเอี่ยวให้สินบนในอินเดีย หลังพบค่าธรรมเนียม กม.นับหมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดบทวิเคราะห์ บ.บริติชอเมริกันโทแบคโค ส่อจ่ายเงินผิด กม.ในแอฟริกา
- ส่องคดีทุจริตโลก: สหรัฐฯสอบ บ.ขายระบบจรวดมิสไซล์เอี่ยวราชวงศ์กาตาร์ทำผิด กม.สินบน
- ส่องคดีทุจริตโลก: ฟิลิปปินส์ ซื้อเวชภัณฑ์โควิด 5.6 พัน ล.จาก บ.นักโทษหนีคดี 'ไต้หวัน'
- ส่องคดีทุจริตโลก: บ.เปลือกสิงคโปร์ ออกใบแจ้งหนี้พันล. ส่งวัคซีนโควาซินให้บราซิล
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปม'สภาวิจัยอินเดีย'ออกใบรับรอง 2 ห้องแล็บเอี่ยวตรวจโควิดเท็จ
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมรัฐวิสาหกิจบรูไนทำสัญญาพลังงานเอี่ยว บ.เอกชนหนุนเผด็จการเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก:รมช.สธ.อังกฤษเปลี่ยนมือถือใหม่ ก่อนถูกสอบสัญญาโควิด 3 พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:'เดวิด คาเมรอน' ส่อเอี่ยวล็อบบี้ รบ.อังกฤษทำสัญญา บ.พันธุกรรม 40 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปม บ.ยักษ์ใหญ่ขายเครื่องมือแพทย์แพง สู่ข้อครหาสินบน รพ.จีน
- ส่องคดีทุจริตโลก: 'บราซิล'จัดซื้อวัคซีนโควาซิน หมื่นล.ส่อโยง บ.คนกลางปริศนาที่ดูไบ
- ส่องคดีทุจริตโลก:'ออสเตรเลีย'อ้างความมั่นคงเครือจักรภพ ปิดข้อมูลสัญญาแอสตร้าฯหมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธ'บราซิล'สั่งระงับสัญญาวัคซีนโควาซินหมื่น ล.หลังถูกรัฐสภาสอบสวน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย ขรก.ญี่ปุ่นฆ่าตัวตายโยงปมเมีย'ชินโซ อาเบะ'ซื้อที่ราคาถูก
- ส่องคดีทุจริตโลก: 2 บ.เทคโนฯแคนาดาเอี่ยวจัดหาระบบล้วงข้อมูลมือถือให้เผด็จการเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.รัฐปัญจาบจัดซื้อชุดโควิดแพงกว่าตลาด-สธ.ขอให้ข้อมูลในชั้นศาล
- ส่องคดีทุจริตโลก : สธ.เยอรมนี เจอข้อครหา 'ศูนย์ทดสอบทิพย์' ยักยอกเงินค่าตรวจเชื้อโควิด
- ส่องคดีทุจริตโลก:รบ.ฮังการีทำสัญญาซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม 5.7พัน ล.ผ่าน บ.ทุนจดทะเบียน 3 แสน
- ส่องคดีทุจริตโลก: บ.มาเลเซียเสนอตัวแจกวัคซีนซิโนแวค พัวพันข้อครหา 'บริจาคทิพย์'
- ส่องคดีทุจริตโลก:กองทุนนิวซีแลนด์ถือหุ้น 2 พัน ล. 24 เอกชนเอี่ยวเผด็จการทหารเมียนมา
- ส่องคดีทุจริตโลก: ภรรยาคนสนิท 'ฮุน เซน' เข้าถือครอง บ.อังกฤษ เอี่ยวธุรกรรมต้องสงสัย
- ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.อังกฤษยืนยันไม่เปิดเผยสัญญาวีไอพีโควิด มูลค่า 7.3 หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ส.ส.สหรัฐฯสอบเอกชนใช้คอนเนคชั่น 'ทีมทรัมป์' แลกสัญญาผลิตวัคซีนหมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:'ออสเตรเลีย'จ้างเอกชนทำโครงการแจกวัคซีนโควิด ไม่เปิดรายละเอียด
- ส่องคดีทุจริตโลก: บ.ราฟาลจ้างคนกลางอินเดียทำโมเดล 30 ล.หลังเซ็นสัญญาเครื่องบินรบ
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมเอกชนอินเดียจ่ายเงินทหารเมียนมาแลกสัญญาหมื่น ล.ท่าเรือย่างกุ้ง
- ส่องคดีทุจริตโลก : ย้อนรอยสินบนแอร์บัส ก่อนสายการบินศรีลังกาฟ้องค่าเสียหาย 3.1 หมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดเส้นทางค้าไม้จาก'เมียนมา'ไป 'ยุโรป' สู่ท่อน้ำเลี้ยง รบ.ทหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก: บ.ไฟเซอร์ถูกกล่าวหาทำสัญญาขูดรีด ปท.ยากจนแลกส่งวัคซีนโควิด
- ส่องคดีทุจริตโลก: เพนตากอนเสียค่าโง่เครื่องบินลำเลียง 1.6 หมื่น ล.ใช้งานไม่ได้
- ส่องคดีทุจริตโลก: อดีตเพื่อนบ้าน รมต.สธ.อังกฤษได้สัญญาหลอดแก้วโควิด 1.2 พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการอิตาลีสอบคนกลางจัดซื้อชุด PPE จีน รับคอมมิสชันนับ พัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมกองทัพเมียนมาใช้เครื่องสายการบินทำภารกิจหลัง รปห.
- ส่องคดีทุจริตโลก: บริษัทลอนดอนเอี่ยวออกพาสปอร์ตไซปรัสให้ผู้ต้องหา 1MDB
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมเอกชนจ่ายสินบนหลายล้านแลกสัญญา ทบ.สหรัฐฯฟื้นฟูประเทศอิรัก
- ส่องคดีทุจริตโลก:เมื่อวัคซีนต้านโควิดผิด กม.ระบาดในตลาดมืดประเทศฟิลิปปินส์
- ส่องคดีทุจริตโลก:เมื่อผู้บริจาคพรรค รบ.อังกฤษ เอี่ยวปมยักยอกรัฐวิสาหกิจน้ำมันรัสเซีย
- ส่องคดีทุจริตโลก:ผู้บริหาร บ.ซิโนแวคเคยพัวพันคดีสินบน ก่อนพัฒนาวัคซีนโควิด
- ส่องคดีทุจริตโลก: 'ณาอีร์ โบลโซนารู' ปธน.บราซิล บุคคลทุจริตแห่งปี 63
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/