บริษัท Max Corporate Services ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกจัดจ้างจากรัฐบาลท้องถิ่นรัฐอุตตราขัณฑ์และบริษัทแห่งนี้ก็มีการจ้างช่วงต่อให้กับห้องแล็บอีก 2 แห่ง ที่ปรากฏข้อมูลไปแล้วเบื้องต้น (Lalchandani Labs,Nalwa Labs) แต่อย่างไรก็ตาม ห้องแล็บทั้ง 2 แห่งดังกล่าวนั้นไม่ใช่ห้องปฏิบัติการณ์ที่มีความเหมาะสมและไม่เคยได้รับการเห็นชอบจาก ICMR แต่อย่างใดในช่วงเวลาก่อนหน้านี้
.......................
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ในสัปดาห์นี้ข้อเสนอข้อครหาความไม่โปร่งใสการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศอินเดีย เพื่อให้สอดรับกับการรายงานข่าวการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย
โดยสำนักข่าวฮินดูสถานไทม์ได้รายงานข่าวข้อครหาการตรวจโควิดปลอมระบุว่าเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่าห้องแล็บจำนวน 2 แห่งที่ถูกกล่าวหาว่าได้ดำเนินการให้บัตรผ่านปลอมระหว่างช่วงเทศกาลกุมภเมลา ซึ่งจัดในเมืองหริทวาระ รัฐอุตตราขัณฑ์ เมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นั้นได้อยู่ในรายชื่อของห้องแล็บที่ได้รับการอนุมัติจากสภาวิจัยทางการแพทย์อินเดีย (ICMR) ให้ดำเนินการตรวจหาผู้ป่วยโควิด-19
ซึ่งประเด็นข้อครหาการตรวจโควิดปลอมในเทศกาลกุมภาเมลาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน เม.ย.ไม่นานหลังจากที่ประชาชนรายหนึ่งในเมืองฟาริดคอต รัฐปัญจาบได้ร้องเรียนมาว่าทางการได้แจ้งให้เขาทราบว่าเขาได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งๆที่ประชาชนรายดังกล่าวนั้นยังไม่เคยเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 มาก่อนเลย
ซึ่งจากการร้องเรียนดังกล่าวนั้นก็ทำให้เกิดการสอบสวนและนำไปสู่การเปิดโปงว่ามีเหตุการณ์การตรวจหาโควิดปลอมด้วยชุดตรวจแบบแอนติเจนเป็นจำนวนเกือบแสนกรณี
สำนักข่าวฮินดูสถานไทม์รายงานต่อไปว่าประเด็นเรื่องการตรวจโควิดปลอมทั้งหมดนั้นมีส่วนพัวพันกับบริษัทซึ่งทำห้องแล็บเอกชนจำนวน 3 แห่งด้วยกันได้แก่ 1. Lalchandani Labs ในกรุงนิวเดลี 2. Nalwa Labs ในเมืองฮิซาร์ และ 3.Max Corporate Services ในเมืองโนอิดา
โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทเอกชนทั้ง 3 แห่งนั้น ต่างก็ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและโรคระบาดของประเทศอินเดีย แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการดำเนินคดี ทั้ง 3 บริษัทก็ได้ไปให้การต่อศาลสูงคนละช่วงเวลาโดยได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
ในปัจจุบันนั้นยังคงมีการสอบสวนเกี่ยวกับการกระทำความผิดของบริษัทและห้องแล็บทั้ง 3 แห่ง โดยผู้ที่ทำหน้าที่สอบสวนมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ,ฝ่ายบริหารท้องที่และฝ่ายบริหารงานเทศกาลกุมภมาลา
โดยบริษัท Max Corporate Services ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกจัดจ้างจากรัฐบาลท้องถิ่นรัฐอุตตราขัณฑ์และบริษัทแห่งนี้ก็มีการจ้างช่วงต่อให้กับห้องแล็บอีก 2 แห่ง ที่ปรากฏข้อมูลไปแล้วเบื้องต้น (Lalchandani Labs,Nalwa Labs) แต่อย่างไรก็ตาม ห้องแล็บทั้ง 2 แห่งดังกล่าวนั้นไม่ใช่ห้องปฏิบัติการณ์ที่มีความเหมาะสมและไม่เคยได้รับการเห็นชอบจาก ICMR แต่อย่างใดในช่วงเวลาก่อนหน้านี้
รายงานข่าวปัญหาการตรวจโควิดในเทศกาลกุมภเมลา (อ้างอิงวิดีโอจาก Entrant)
ซึ่งตามหลักการแล้วห้องปฏิบัติการที่จะดำเนินการตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้นั้นจะต้องมีความยินยอมและการอนุมัติจาก ICMR ก่อน โดยทาง ICMR จะเป็นผู้ที่ให้ล็อกอินและรหัสสำหรับห้องแล็บที่ได้รับการอนุมัติแล้ว เพราะจะได้เข้าถึงข้อมูลส่วนกลางในระดับชาติได้ โดยผลการตรวจโควิดทั้งหมดนั้นจะถูกบังคับให้อัปโหลดเข้าสู่ส่วนกลางในทุกกรณี เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวนั้นจะมีผลทำให้หน่วยงานซึ่งดูแลด้านสาธารณสุขในระดับท้องถิ่นสามารถตัดสินใจออกมาตราการควบคุมได้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงการติดตามโรคและการแยกตัวผู้ที่ติดเชื้อต่อไป
“ICMR ไม่ใช่หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลและการควบคุมห้องปฏิบัติการของบริษัทเอกชน ทาง ICMR เป็นแค่ผู้ให้อนุญาตสำหรับห้องแล็บที่ดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้นอยู่กับตามประเภทของอุปกรณ์และสถานที่ซึ่งใช้ในการตรวจ พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจว่าห้องแล็บเอกชนเหล่านี้จะนำเอาผลตรวจโควิดเข้าสู่ในระบบ อย่างไรก็ตาม หน้าที่อื่นๆนอกเหนือจากนั้น ทาง ICMR ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้มีส่วนเข้าไปควบคุมว่าห้องแล็บเหล่านี้จะดำเนินการอย่างไร”เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งระบุ
อนึ่งการอนุมัติห้องแล็บของ ICMR เพื่อจะให้เป็นห้องแล็บสำหรับการตรวจหาผู้คิดเชื้อโควิด-19 นั้น จะต้องมีใบรับรองจากทางคณะกรรมการรับรองแห่งชาติสําหรับห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบ (NABL) ซึ่งเป็นคณะกรรมการของสภาคุณภาพของอินเดียประกอบกันด้วย
แต่ก็มีรายงานออกมาว่าทาง NABL นั้นยังไม่ได้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับห้องแล็บที่ถูกกล่าวหาในเทศกาลกุมภมาลาเลย โดยใบรับรองของห้องแล็บ Dr Lalchandani นั้นจะหมดอายุในเดือน ก.ค. 2566 ส่วนห้องแล็บ Nalwa Labs ซึ่งมีใบอนุญาตที่หมดอายุไปตั้งแต่เดือน ส.ค. 2563 ไปแล้ว ก็พบว่ามีการต่อใบอนุญาตไปอีกหนึ่งปี ซึ่งจะมีผลสิ้นสุดในช่วงสิ้นเดือนนี้
สำนักข่าวฮินดูสถานไทม์จึงได้พยายามติดต่อไปยังนายเอ็น เวนกาเตสวารัน (Venkateswaran) ไปเป็นจำนวนหลายครั้งเพื่อให้ชี้แจงเรื่องห้องแล็บเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด
ส่วนนายโมฮิท ลัคกันดานี (Mohit Lalchandani) ผู้อำนวยการและประธานบริหารบริษัทห้องแล็บ Dr Lalchandani ก็ได้กล่าวยืนยันว่ามีการตรวจหาเชื้อโควิดจำนวนกว่า 12,000-100,000 ครั้ง นั้นเป็นเรื่องจริง
“เราได้มีการเซ็นสัญญาเอ็มโอยูกับบริษัท Max Corporate Services และบริษัทเราก็ได้มีการวางบุคลากรไปยังจุดตรวจต่างๆตั้งแต่วันที่ 1 -28 เม.ย. เราไม่ได้มีสัญญาโดยตรงใดๆกับทางรัฐบาลรัฐอุตตราขัณฑ์ ซึ่งการทำหน้าที่ที่ผ่านมานั้นเราก็ได้มีการจัดวางบุคลากรไว้อย่างเพียงพอแล้ว เราได้มีการส่งใบเสร็จ ทั้งค่าชุดตรวจ ค่าเต็นท์ และส่งรายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับหน่วยงานสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมาประจำยังจุดตรวจให้กับหน่วยงานที่ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว”นายลัคกันดานีกล่าว
ผู้บริหารบริษัท Dr Lalchandani กล่าวต่อไปด้วยว่าจนถึงบัดนี้ บริษัทของเขาก็ยังไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างใดๆเลยจากทางบริษัท Max Corporate Services สำหรับการจัดตั้งศูนย์ตรวจโควิดดังกล่าว
บริษัท Max Corporate Services
ขณะที่ทางด้านของนายเจพีส นัลวา ผู้อำนวยการห้องแล็บเอกชน บริษัท Nalwa ได้กล่าวว่า “เราก็ได้มีการเซ็นเอ็มโอยูกับบริษัท Max Corporate Services เช่นกัน แต่บริษัทแห่งนี้ก็ไม่ได้มีการติดต่อกับทางเรามาเลยนับแต่นั้นเป็นต้นมา เราไม่เคยได้ส่งใครไปประจำยังจุดตรวจและเราก็เห็นเค้าลางของปัญหาแล้วว่ามีคนส่งข้อความมายังบริษัทบอกว่าเขาได้รับข้อความเกี่ยวกับผลตรวจโควิด แต่ว่าตัวเขานั้นไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองเมืองหริทวาระแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากตอนนั้น นวเตซ บุตรชายของผมก็ได้เขียนจดหมายขอยกเลิกเอ็มโอยูทันที”
ทั้งนี้เมื่อสอบถามเกี่ยวกับหมายเลขของห้องแล็บว่าไปอยู่ในรายงานการตรวจโควิดได้อย่างไร นายนัลวากล่าวเขาไม่ทราบในเรื่องของรายละเอียดเทคโนโลยีและไม่ทราบว่าสิ่งเหล่านี้เกิดได้อย่างไร เท่าที่เขาทราบก็คือว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองหริทวาระจะเป็นผู้ที่สร้างรหัส SRF
อนึ่งรหัส SRF นั้นย่อมาจากคำว่า รหัสการอ้างอิงตัวอย่าง โดยรหัสที่ว่านั้นจะเกิดขึ้นจากผู้ที่สะสมตัวอย่างการตรวจเป็นคนที่สร้างรหัส โดยบุคคลนั้นจะเป็นผู้ที่เลือกห้องแล็บที่อยู่ในรายชื่ออนุมัติของ ICMR ให้ดำเนินการตรวจโควิด
อย่างไรก็ตาม จากการให้ข้อมูลของเจ้าของห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยา ซึ่งดำเนินการตรวจหาโควิดด้วยวิธีการแบบอาร์ที-พีซีอาร์จำนวนอย่างน้อย 2 ราย เล่าว่าเมื่อมีการเลือกห้องแล็บแล้วหมายเลขรหัส SRF จะถูกแสดงบนจอแสดงผล ซึ่งผลตรวจจะไม่สามารถแสดงขึ้นมาได้เลยถ้าหากไม่มีการล็อกอินเข้าไปกรอกข้อมูล
ขณะที่ทางด้านของรัฐบาลรัฐอุตตราขัณฑ์ โดยนายสุโพธ ยูนิยาล (Subodh Uniyal) โฆษกของคณะรัฐมนตรีท้องถิ่นกล่าวว่า ณ เวลานี้มีการสอบสวนแล้วโดยทีมสอบสวนพิเศษของเจ้าหนาที่ตำรวจแห่งเมืองหริทวาระ และจะมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นถ้าหากพบข้อผิดปกติใดๆก็ตาม
ขณะที่บริษัท Max Corporate Services ที่ ณ เวลานี้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทก็กำลังหลบหนีการจับกุมอยู่นั้น ทางด้านของสำนักข่าวก็ได้พยายามที่จะติดต่อสอบถามกับที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทนี้อยู่หลายครั้งเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย
อ่านประกอบ :
ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมรัฐวิสาหกิจบรูไนทำสัญญาพลังงานเอี่ยว บ.เอกชนหนุนเผด็จการเมียนมา
ส่องคดีทุจริตโลก:รมช.สธ.อังกฤษเปลี่ยนมือถือใหม่ ก่อนถูกสอบสัญญาโควิด 3 พัน ล.
ส่องคดีทุจริตโลก:'เดวิด คาเมรอน' ส่อเอี่ยวล็อบบี้ รบ.อังกฤษทำสัญญา บ.พันธุกรรม 40 ล.
ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปม บ.ยักษ์ใหญ่ขายเครื่องมือแพทย์แพง สู่ข้อครหาสินบน รพ.จีน
ส่องคดีทุจริตโลก: 'บราซิล'จัดซื้อวัคซีนโควาซิน หมื่นล.ส่อโยง บ.คนกลางปริศนาที่ดูไบ
ส่องคดีทุจริตโลก:'ออสเตรเลีย'อ้างความมั่นคงเครือจักรภพ ปิดข้อมูลสัญญาแอสตร้าฯหมื่น ล.
ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธ'บราซิล'สั่งระงับสัญญาวัคซีนโควาซินหมื่น ล.หลังถูกรัฐสภาสอบสวน
ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย ขรก.ญี่ปุ่นฆ่าตัวตายโยงปมเมีย'ชินโซ อาเบะ'ซื้อที่ราคาถูก
ส่องคดีทุจริตโลก: 2 บ.เทคโนฯแคนาดาเอี่ยวจัดหาระบบล้วงข้อมูลมือถือให้เผด็จการเมียนมา
ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.รัฐปัญจาบจัดซื้อชุดโควิดแพงกว่าตลาด-สธ.ขอให้ข้อมูลในชั้นศาล
ส่องคดีทุจริตโลก : สธ.เยอรมนี เจอข้อครหา 'ศูนย์ทดสอบทิพย์' ยักยอกเงินค่าตรวจเชื้อโควิด
ส่องคดีทุจริตโลก:รบ.ฮังการีทำสัญญาซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม 5.7พัน ล.ผ่าน บ.ทุนจดทะเบียน 3 แสน
ส่องคดีทุจริตโลก: บ.มาเลเซียเสนอตัวแจกวัคซีนซิโนแวค พัวพันข้อครหา 'บริจาคทิพย์'
ส่องคดีทุจริตโลก:กองทุนนิวซีแลนด์ถือหุ้น 2 พัน ล. 24 เอกชนเอี่ยวเผด็จการทหารเมียนมา
ส่องคดีทุจริตโลก: ภรรยาคนสนิท 'ฮุน เซน' เข้าถือครอง บ.อังกฤษ เอี่ยวธุรกรรมต้องสงสัย
ส่องคดีทุจริตโลก: รบ.อังกฤษยืนยันไม่เปิดเผยสัญญาวีไอพีโควิด มูลค่า 7.3 หมื่น ล.
ส่องคดีทุจริตโลก: ส.ส.สหรัฐฯสอบเอกชนใช้คอนเนคชั่น 'ทีมทรัมป์' แลกสัญญาผลิตวัคซีนหมื่น ล.
ส่องคดีทุจริตโลก:'ออสเตรเลีย'จ้างเอกชนทำโครงการแจกวัคซีนโควิด ไม่เปิดรายละเอียด
ส่องคดีทุจริตโลก: บ.ราฟาลจ้างคนกลางอินเดียทำโมเดล 30 ล.หลังเซ็นสัญญาเครื่องบินรบ
ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมเอกชนอินเดียจ่ายเงินทหารเมียนมาแลกสัญญาหมื่น ล.ท่าเรือย่างกุ้ง
ส่องคดีทุจริตโลก : ย้อนรอยสินบนแอร์บัส ก่อนสายการบินศรีลังกาฟ้องค่าเสียหาย 3.1 หมื่นล.
ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดเส้นทางค้าไม้จาก'เมียนมา'ไป 'ยุโรป' สู่ท่อน้ำเลี้ยง รบ.ทหาร
ส่องคดีทุจริตโลก: บ.ไฟเซอร์ถูกกล่าวหาทำสัญญาขูดรีด ปท.ยากจนแลกส่งวัคซีนโควิด
ส่องคดีทุจริตโลก: เพนตากอนเสียค่าโง่เครื่องบินลำเลียง 1.6 หมื่น ล.ใช้งานไม่ได้
ส่องคดีทุจริตโลก: อดีตเพื่อนบ้าน รมต.สธ.อังกฤษได้สัญญาหลอดแก้วโควิด 1.2 พัน ล.
ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการอิตาลีสอบคนกลางจัดซื้อชุด PPE จีน รับคอมมิสชันนับ พัน ล.
ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมกองทัพเมียนมาใช้เครื่องสายการบินทำภารกิจหลัง รปห.
ส่องคดีทุจริตโลก: บริษัทลอนดอนเอี่ยวออกพาสปอร์ตไซปรัสให้ผู้ต้องหา 1MDB
ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดปมเอกชนจ่ายสินบนหลายล้านแลกสัญญา ทบ.สหรัฐฯฟื้นฟูประเทศอิรัก
ส่องคดีทุจริตโลก:เมื่อวัคซีนต้านโควิดผิด กม.ระบาดในตลาดมืดประเทศฟิลิปปินส์
ส่องคดีทุจริตโลก:เมื่อผู้บริจาคพรรค รบ.อังกฤษ เอี่ยวปมยักยอกรัฐวิสาหกิจน้ำมันรัสเซีย
ส่องคดีทุจริตโลก:ผู้บริหาร บ.ซิโนแวคเคยพัวพันคดีสินบน ก่อนพัฒนาวัคซีนโควิด
ส่องคดีทุจริตโลก: 'ณาอีร์ โบลโซนารู' ปธน.บราซิล บุคคลทุจริตแห่งปี 63
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/