‘สร.รฟท.’ ยื่นหนังสือ ‘บก.ปปป.’ ร้องทุกข์กล่าวโทษ ‘อธิบดีกรมที่ดิน-คกก.สอบสวน’ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ฯ-ใช้ดุลพินิจไม่ชอบ ปมไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
..................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) นำโดยนายสราวุธ สราญวงศ์ ประธาน สร.รฟท. และพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้บังคับการกองบังคับการกองปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กับคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195-1196/2566 ลงวันที่ 12 พ.ค.2566 รวม 12 คน
ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่ง ซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ดำเนินการป้องกัน หรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่งตามคำพิพากษาของศาลนั้น เพื่อให้เกิดความเสียหายกับที่ดินของ ร.ฟ.ท. โดยไม่ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินรถไฟบริเวณเขากระโดง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ที่ออกโดยคลาดเคลื่อน หรือ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
สำหรับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษฯ มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า “...จากข้อเท็จจริงดังที่กล่าวมาข้างต้น การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ดังนั้น “ที่ดินรถไฟ” จึงถือเป็นที่ดินของรัฐประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ที่ได้มาตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟแลทางหลวง พระพุทธศักราช ๒๔๖๔ อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ตามมาตรา 2 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497
กรมที่ดินโดยอธิบดีกรมที่ดิน จึงมีหน้าที่ในการดูแลรักษา คุ้มครอง และป้องกันที่ดินรถไฟดังกล่าว ตามอำนาจหน้าที่ ที่ได้กำหนดไว้ในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมที่ดินกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2557 ข้อ 2 ให้กรมที่ดินมีภารกิจเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิที่ดินของบุคคลและจัดการที่ดินของรัฐ และข้อ 18 สำนักจัดการที่ดินของรัฐมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ ...(2) ดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หรือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ดังนั้น ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท.0536.2(2)/22162 ลงวันที่ 21 ต.ค.2567 เรื่อง การเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่อธิบดีกรมที่ดิน มีหนังสือแจ้งถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องแจ้งผลพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195– 1196/2566 ลงวันที่ 12 พ.ค.2566 โดยรายงานสรุปผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน
มีผลสรุปว่า....คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้ร่วมพิจารณาและมีมติยืนยันความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนฯ โดยเห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินจนกว่า จะได้มีพยานหลักฐานที่สามารถใช้พิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติได้ รวมถึงเอกสารหลักฐานทางกฎหมายที่สามารถพิสูจน์กรรมสิทธิ์ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ยกเว้นในบริเวณที่มีพยานหลักฐานยืนยันว่า มีการเข้าใช้ประโยชน์โดยมีการสร้างทางรถไฟซึ่งจะต้องไม่เกินข้างละ 20 วา หรือ 40 เมตร โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะต้องเป็นผู้นำพิสูจน์เข้าทำประโยชน์ ด้วยมติเป็นเอกฉันท์ ไม่มีคณะกรรมการสอบสวนท่านใดมีความเห็นแย้ง
โดยเฉพาะความเห็นในส่วนของอธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ที่ 1) เมื่อพิจารณาผลการสอบสวนฯ ประกอบกับความเห็นของคณะกรรมการสอบสวน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษที่ 2 ถึง ที่ 12) ซึ่งเห็นว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่สามารถนำพยานหลักฐานมาแสดงได้ให้เป็นที่ยุติว่าเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งขอบเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนปรากฏว่า การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในท้องที่ตำบลเสม็ด และตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนและวิธีการที่กฎหมายกำหนด
ดังนั้น จึงยังไม่มีพยานหลักฐานปรากฏชัดแจ้งเพียงพอให้รับฟังได้ว่า ได้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ไปโดยคลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่อธิบดีกรมที่ดิน หรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบหมายจะใช้พิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไข ตามในข้อ 12 แห่งกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการสอบสวน และการพิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหรือการจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนโดยคาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย พ.ศ 2553 จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้
แต่อย่างไรก็ดี หากการรถไฟแห่งประเทศไทยเห็นว่ามีสิทธิในที่ดินดีกว่าก็เป็นเรื่องที่ผู้มีสิทธิในที่ดิน จะต้องไปดำเนินการเพื่อพิสูจน์สิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางศาลต่อไป
จากเหตุผลของคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน อ้างว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถนำแผนที่แนบท้าย พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟหลวง ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2464 มาแสดงต่อคณะกรรมการสอบสวนได้ เป็นเหตุผลในการไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดิน ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล
และมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็น เนื่องจากอาณาเขตอันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ปรากฏอยู่ในคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยละเอียดแล้ว
การที่คณะกรรมการสอบสวนได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถนำพยานหลักฐานมาแสดงให้เป็นที่ยุติว่าเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยรวมถึงตำแหน่งที่ตั้งขอบเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงพิจารณาไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินนั้น เป็นการวินิจฉัยและใช้ดุลพินิจที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงตามที่ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และหน่วยงานอื่นๆได้วินิจฉัยไว้แล้ว เป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ
ในส่วนความเห็นของคณะกรรมการสอบสวน ตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษที่ 2 ถึง ที่ 12) ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195-1196/2566 ลงวันที่ 12 พ.ค.2566 อ้างว่า ได้พิจารณาจากพยานหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเอกสารชุดเดียวกับที่ศาลยุติธรรมได้ใช้พิจารณาจนคดีถึงที่สุดแล้ว แต่คณะกรรมการสอบสวนฯ (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษที่ 2 ถึง ที่ 12) มีความเห็นในลักษณะขัดแย้งกับข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาของศาลดังกล่าวข้างต้น
จากเหตุผลของคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน อ้างว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถนำแผนที่แนบท้าย พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟหลวง ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2464 มาแสดงต่อคณะกรรมการสอบสวนได้ เป็นเหตุผลในการไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดิน ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล
และมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็น เนื่องจากอาณาเขตอันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ปรากฏอยู่ในคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยละเอียดแล้ว
การที่คณะกรรมการสอบสวน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษที่ 2 ถึง ที่ 12) ได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถนำพยานหลักฐานมาแสดงให้เป็นที่ยุติว่าเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งขอบเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงพิจารณาไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินนั้น เป็นการวินิจฉัยและใช้ดุลพินิจที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงตามที่ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และหน่วยงานอื่นๆได้วินิจฉัยไว้แล้ว เป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ
ทั้งข้อสังเกตของศาลปกครอง ที่ให้ผู้ฟ้องคดี คือการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของผู้ฟ้องคดีจำนวน 5,083 ไร่ ตามคำพิพากษาศาลฎีกา โดยเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้แทนของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ร่วมกันลงตรวจสอบพื้นที่ และได้ทำการปักหมุดตามแบบ ร.ว.9 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของพิกัดแผนที่นั้น ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น
ปรากฏว่าอธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษที่ 1) มีหนังสือที่ มท.0536.2(2)/22162 ลงวันที่ 21 ต.ค.2567 ถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งคำสั่งยุติเรื่องการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ออกมาโดยไม่รอการตรวจสอบหาแนวเขตที่ดินให้เสร็จสิ้น
ในขณะที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ได้ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 ต.ค.2567 ขอให้ดำเนินการตรวจพิกัดตำแหน่งหมุดที่ดินตามแผนที่ และการรถไฟแห่งประเทศไทยมีหนังสือ ที่ รฟ.1/3221/2567 ลงวันที่ 25 ธ.ค.2567 ยืนยันรายการปรับปรุงข้อมูลค่าพิกัดตำแหน่งหมุดที่ดินบริเวณทางแยกเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ถือเป็นการขัดแย้งของข้อมูล กับผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวนฯ อันเป็นการยืนยันถึงพฤติการณ์ และมีเจตนาที่จะปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่งตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย
แต่ดำเนินการโดยมีเจตนา ป้องกัน หรือขัดขวางมิให้มีการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่งตามคำพิพากษาของศาลแต่อย่างใด เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนฯ มีอำนาจหน้าที่เรียกเอกสารสิทธิในที่ดิน ที่ออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาพิจารณาเพิกถอนพร้อมทั้งแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อให้โอกาสคัดค้าน เมื่อดำเนินการพิจารณาแล้วเสร็จ และส่งให้อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดีมอบหมายพิจารณาดำเนินการไปตามนั้น
แต่มีพฤติการณ์ไม่ดำเนินการตามหน้าที่ และขั้นตอนระเบียบ คำสั่งดังกล่าว ซึ่งผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ที่ 1 ถึงที่ 12 ทั้งหมด ทราบดีอยู่แล้วว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ไม่ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิบริเวณที่ดินรถไฟเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่ออกโดยคลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่อย่างใด ทั้งที่ปรากฏในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รวมทั้งคำพิพากษาของศาล ที่ได้ถึงที่สุดแล้ว
โดยผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ที่ 1 ถึงที่ 12 มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 และคำพิพากษาของศาลดังกล่าว เพื่อทำหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินและรักษาไว้ซึ่งประโยชน์ของรัฐ (การรถไฟแห่งประเทศไทย) แต่ไม่ดำเนินการโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ด้วยเหตุและผลดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์จะขอร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ อธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษที่ 1) ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ มีหน้าที่ดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ตามมาตรา 8 “บรรดาที่ดินทั้งหลายอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินนั้น ถ้าไม่มีกฎหมายกําหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้อธิบดีมีอํานาจหน้าที่ดูแลรักษาและดําเนินการคุ้มครองป้องกัน.....” แต่ไม่ดำเนินการตามหน้าที่ กับคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ที่ 2 ถึง 12)
ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่งตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ป้องกัน หรือขัดขวางมิให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งนั้น โดยไม่ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิบริเวณที่ดินรถไฟเขากระโดง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ที่ออกโดยคลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 165 อันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และกระบวนการยุติธรรม
ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 165 เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือ คำสั่งตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ป้องกัน หรือขัดขวางมิให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งนั้น โดยทุจริตที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่ข้าพเจ้าในฐานะพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย และตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ข้าพเจ้าจึงมาร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย จนถึงที่สุด ขอท่านได้โปรดดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดี กับผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษทั้งหมด ตามกฎหมาย ต่อไป” หนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษของ สร.รฟท. ลงนามโดยนายสราวุธ สราญวงศ์ ประธาน สร.รฟท. ระบุ
นายสราวุธ กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า ในการเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษฯในวันนี้ (30 ม.ค.) ผู้แทนของ สร.รฟท. ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนของ บก.ปปป. เพิ่มเติม โดยขั้นตอนหลังจากนี้ บก.ปปป. จะใช้เวลาพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ ป.ป.ช. พิจารณาว่า ป.ป.ช. จะรับเรื่องนี้ไว้ดำเนินการเอง หรือจะส่งเรื่องกลับมาให้ บก.ปปป. ดำเนินการ
อ่านประกอบ :
รฟท.ร่างคำฟ้องยื่นศาลปค. ‘เขากระโดง’ชี้คำสั่งคกก.มาตรา 61 ไม่ชอบ
‘สุริยะ’ ยังไม่ตอบ ‘เขากระโดง’ จะฟ้องรายแปลงหรือไม่ - น้อมรับศาลไม่เพิ่มผู้บริหารแผน ‘บินไทย’
ฉบับเต็ม! เปิดหนังสือแจ้งผลอุทธรณ์ฯ ‘มท.’ชี้‘กรมที่ดิน’ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ชอบแล้ว
‘อนุทิน’ เผยผลอุทธรณ์ ‘เขากระโดง’ ยืนตามมติเดิม ไม่เพิกถอน
ชาวบ้าน 35 ราย กลับลำ เบรกเซ็นสัญญาเช่าที่ดิน‘เขากระโดง’อ้างแพง-‘รฟท.’เร่ง‘บังคับคดี’
‘กรมที่ดิน’โต้‘รฟท.’อ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ‘เขากระโดง’ 5 พันไร่ ขยายความเกิน‘คำพิพากษา’
‘สุริยะ’ย้ำ‘เขากระโดง’ที่ดินรถไฟฯ พร้อมให้ชาวบ้านเช่าราคาถูก-‘อนุทิน’รอฟังคำสั่ง‘ศาลปค.’
เทียบชัดๆ! คำพิพากษา‘ศาลฎีกา’ VS ความเห็น‘คกก.สอบสวน’ ชี้แนวเขตที่ดินรถไฟฯ‘เขากระโดง’
เผือกร้อน‘สุริยะ-รฟท.’ฟ้อง‘ศาลยุติธรรม’เพิกถอนโฉนด‘รายแปลง’ ปิดฉากมหากาพย์‘เขากระโดง’!
‘สุริยะ-รฟท.’ รอผลอุทธรณ์กรมที่ดิน ‘เขากระโดง’ - ‘วีริศ’ชี้ต้องรอบคอบ หวั่นโดน 157
บังคับคดีแล้ว! โชว์เอกสาร‘ศุภวัฒน์’คืนที่ดิน‘เขากระโดง’ 24 ไร่-ชดใช้‘รฟท.’ 4.8 ล้าน
มท.1ชี้ออกสัญญาเช่า 'เขากระโดง' พิสูจน์สิทธิก่อน-'กรมที่ดิน'ย้ำรถไฟฯไม่มีแผนที่ท้าย'พ.ร.ฎ.'
ฉบับเต็ม!หนังสืออุทธรณ์‘รฟท.’(จบ) ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ละเลยต่อหน้าที่ ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
ฉบับเต็ม! หนังสืออุทธรณ์‘รฟท’(2) ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ใช้ดุลพินิจมิชอบ ไม่ถอนโฉนด‘เขากระโดง’
ฉบับเต็ม! หนังสืออุทธรณ์‘รฟท’(1) ที่ดิน‘เขากระโดง’เป็นของ‘รถไฟฯ’-ไม่ต้องพิสูจน์สิทธิ์อีก
'วีริศ' ส่งหนังสือถึง 'อธิบดีกรมที่ดิน' เพิกถอนมติคกก.สอบสวน 'เขากระโดง'
สอบเขากระโดงล่ม! กมธ.ที่ดินเผย องค์ประชุมไม่ครบก่อนขอมติ
‘เลขาฯกฤษฎีกา’ ชี้ต้องยึดคำพิพากษาเป็นหลัก ‘เขากระโดง’ ‘รฟท.-กรมที่ดิน’ แค่สื่อสารไม่ตรงกัน
‘กรมที่ดิน’ แจง ‘ที่ดินเขากระโดง’ ‘รถไฟ’ไร้เอกสารหลักฐานยืนยัน
‘รถไฟ’ ยื่นศาลปค.อธิบดีทำไม่ครบที่ดิน‘เขากระโดง’-‘อนุทิน’ยันไม่มีช่วยใคร
ย้อนคำวินิจฉัย'ศาลปค.' คดีถอนโฉนด'เขากระโดง'-ก่อน‘กรมที่ดิน’โยน‘รฟท.’ฟ้องขับไล่'รายแปลง'
ไม่ขัดแย้งคำพิพากษา!‘กรมที่ดิน’แจงไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’-แนะ‘รฟท.’ฟ้องขับไล่‘รายแปลง’
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจฯ จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง มาเป็นของ รฟท.
‘รฟท.’เร่งสรุปท่าทีทวงคืน‘เขากระโดง’-ข้องใจ‘คกก.สอบสวน’ไม่รับ‘แผนที่’ยกสู้คดีในศาลจนชนะ
ไม่เชื่อ'แผนที่'ตามคำพิพากษา! ฉบับเต็ม‘คกก.สอบสวน’ยก 4 เหตุผล ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
โยน‘รฟท.’พิสูจน์สิทธิ์ในศาล! ‘คณะกรรมการสอบสวนฯ’มีมติไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 5 พันไร่
‘สนง.ที่ดินบุรีรัมย์’ส่งหนังสือแจ้ง‘รฟท.’รังวัด‘เขากระโดง’เสร็จแล้ว-พร้อมแนบระวางแผนที่
รังวัดฯเสร็จแล้ว! ‘กรมที่ดิน’จ่อชงข้อมูล‘คณะกรรมการสอบสวน’ชี้ขาดเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
รฟท.ลงพื้นที่นำชี้แนวเขต'เขากระโดง'-'กรมที่ดิน'แจงกม.ขีดเส้นรังวัดฯให้เสร็จภายใน 50 วัน
ย้อนไทม์ไลน์ 1 ปี เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ไม่คืบหน้า-‘กรมที่ดิน’นัด'รฟท.'ชี้เขตรังวัดที่ดิน
8 เดือนไม่เพิกถอน! ‘กรมที่ดิน’รังวัดเขตที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ใหม่-รฟท.ติดเรื่องค่าใช้จ่าย
เปิดหนังสือทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ อ้าง 9 ข้อเท็จจริง ค้าน‘คกก.สอบสวน’เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
แผนที่เขตรถไฟฯมีพิรุธ! ทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ยกต่อสู้ ปมถอนโฉนดเขากระโดง-ชี้ศก.บุรีรัมย์ชะงัก
ไม่เกี่ยวถอนโฉนดเขากระโดง!‘ชยาวุธ’เปิดใจลาออกอธิบดีที่ดินดูแลภรรยาป่วย
เปิดตำแหน่งโฉนด’ตระกูล‘ชิดชอบ’ทับที่รถไฟฯ‘เขากระโดง’-‘ฝ่าย กม.’แจงซื้อโดยสุจริต
จ่อโดนเพิกถอน! ชัดๆเปิด‘โฉนด-น.ส.3’ตระกูล’ชิดชอบ’ 20 แปลง 288 ไร่ ทับที่ดิน‘เขากระโดง’
ก่อน‘ชยาวุธ’ทิ้งเก้าอี้อธิบดี! พบ‘คกก.สอบสวน’แจ้งเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’รุกที่หลวง 2 แปลง
'อนุทิน'ปัดการเมืองกดดัน 'อธิบดีกรมที่ดิน'ยื่นลาออก อย่าโยงปมพิพาท‘เขากระโดง’
การบ้าน‘อนุทิน’นั่ง‘มท.1’! แก้โจทย์สายสีเขียว-เพิกถอนโฉนดเขากระโดง-ต่อสัญญาซื้อน้ำ‘กปภ.’
ลุยเพิกถอนโฉนด 5 พันไร่!‘กรมที่ดิน’ไม่อุทธรณ์คดี‘เขากระโดง’-แจ้งศาลฯตั้ง‘คกก.สอบสวน’แล้ว
‘รฟท.’ยื่นอุทธรณ์คดี‘เขากระโดง’ปมเรียกค่าเสียหาย 707 ล้าน-รอ‘ศาลปค.’แจ้งท่าที‘กรมที่ดิน’
เส้นตาย 30 เม.ย.! ‘รฟท.’จับตา‘กรมที่ดิน’ยื่นอุทธรณ์คดีเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 772 แปลง
ฉบับเต็ม! พลิกคำพิพากษา‘ศาล ปค.’สั่ง‘กรมที่ดิน ‘ตั้ง‘คกก.สอบสวน’ถอนโฉนด‘เขากระโดง’
‘ศาลปค.กลาง’สั่ง‘อธิบดีกรมที่ดิน’ตั้ง‘คกก.สอบสวน’ เพิกถอนโฉนดที่ดิน‘เขากระโดง’ 772 แปลง
ยันไม่ละเลยเพิกเฉย! ‘กรมที่ดิน’ลุ้น‘ศาลปค.กลาง’ตัดสินคดีถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 30 มี.ค.นี้
‘ศาลปค.’นัดตัดสินคดีถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 30 มี.ค.นี้-‘ตุลาการฯ’ชี้‘กรมที่ดิน’ละเลยหน้าที่
'ศาลปค.'นั่งพิจารณานัดแรก คดี'รฟท.'ฟ้อง'กรมที่ดิน'ขอสั่งเพิกถอนโฉนด'เขากระโดง' 5 พันไร่
เปิด 2 คำร้อง! ยื่น ป.ป.ช. เอาผิด-สอบจริยธรรม‘ศักดิ์สยาม’ เอื้อเครือญาติยึด‘เขากระโดง’
ยื่น ป.ป.ช.ฟัน'ศักดิ์สยาม' 3 เรื่อง! 'ทวี'แนะปมเขากระโดง ส่งศาลฎีกาสอบจริยธรรมทันที
ข้อมูลใหม่! โฉนด 12 แปลง 179 ไร่ ออกทับที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ โยงเครือญาติตระกูล‘ชิดชอบ’