8 เดือนไม่เพิกถอน! ‘กรมที่ดิน’รังวัดเขตที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ใหม่-รฟท.ติดเรื่องค่าใช้จ่าย

kd 13 01 24 pic new new

‘กรมที่ดิน’ ชี้ขอบเขตที่ดินรถไฟฯ ‘เขากระโดง’ 5 พันไร่ ไม่ชัดเจน ต้องรังวัดใหม่ ขณะที่ ‘รฟท.’ แจ้งไม่มีงบรังวัดฯ ขอให้ทำหนังสือแจ้งค่าใช้จ่ายมาเป็น ‘ลายลักษณ์อักษร’ พบผ่านไป 8 เดือน ไม่ปรากฎว่ามีการเพิกถอน ‘โฉนด-เอกสารสิทธิที่ดิน’

.........................................

จากกรณีอธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่ง ที่ 1195-1196/2566 เรื่อง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ลงวันที่ 12 พ.ค.2566 เพื่อดำเนินการกับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 5,083 ไร่เศษ ซึ่งเป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566

ต่อมาในเดือน ก.ย.2566 สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทยอยส่งหนังสือ เรื่อง การเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ไปยังบุคคลที่ครอบครองเอกสารสิทธิในดินที่ออกทับที่ดินของ รฟท. บริเวณแยกเข้ากระโดง ซึ่งมีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่เข้าข่ายต้องถูกสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ จำนวน 995 ฉบับ แต่ได้เปิดโอกาสให้บุคคลที่ครอบครองเอกสารสิทธิ์ที่จะถูกเพิกถอน ทำหนังสือคัดค้านการเพิกถอนมายังประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ ภายใน 30 วัน

อย่างไรก็ดี ในช่วงกลางเดือน ต.ค.2566 ทีมทนายตระกูลชิดชอบ และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้รับความเดือนร้อนจากการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง ได้ยื่นหนังสือยังประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195-1196/2566 เพื่อคัดค้านการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าว นั้น (อ่านประกอบ : เปิดหนังสือทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ อ้าง 9 ข้อเท็จจริง ค้าน‘คกก.สอบสวน’เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’)

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมระหว่างสำนักงานมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัด กรมที่ดิน และคณะกรรมการสอบสวนมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมาย กรณีตรวจสอบแนวเขตที่ดินร่วมกับกรมที่ดินและแนวทางปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค ที่มีนายสรสีห์ วิเชียรเจริญ ผู้ตรวจราชการกรมที่ดินเขต 13 เป็นประธาน โดยมีผู้แทนจาก รฟท. จำนวน 15 คน เข้าร่วมประชุมฯด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมฯครั้งนี้ นายสรสีห์ ในฐานะประธานฯ แจ้งที่ประชุมสรุปความได้ว่า ในการลงพื้นที่บริเวณแยกเขากระโดง เพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่ให้ชัดเจนนั้น จะต้องปฏิบัติตามระเบียบทางกรมที่ดินว่าด้วยการรับคำขอรังวัด การมัดรังวัด และการเรียกค่าใช้จ่ายในการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ.2547 ข้อ 8 กล่าวคือ การรังวัดฯตามคำสั่งศาลนั้น ให้เจ้าของพื้นที่แจ้งความประสงค์ที่จะรังวัดพื้นที่ และกรมที่ดินจะต้องลงพื้นที่ด้วย ไม่เช่นนั้นจะโดนข้อหาบุกรุก

ขณะที่ผู้แทนของ รฟท. ได้แจ้งว่า จากหนังสือเชิญประชุมในครั้งนี้ระบุว่า เป็นการเชิญผู้แทนของ รฟท. ลงพื้นที่เพื่อชี้จุดรังวัดร่วมเพื่อหาขอบเขตที่ดินร่วมกันระหว่าง รฟท. และกรมที่ดิน โดยหนังสือเชิญประชุมฯไม่ได้แจ้งถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการรังวัดฯ และในเบื้องต้น รฟท. ยังไม่ได้มีงบประมาณในการรังวัดที่ดินในส่วนของกระบวนการรังวัดที่จะต้องมีค่าใช้จ่าย ดังนั้น ขอให้กรมที่ดินแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อที่ รฟท. จะได้ไปตั้งงบประมาณต่อไป

นอกจากนี้ นายสรสีห์ ยังแจ้งที่ประชุมว่า เนื่องจากขอบเขตที่ดินของ รฟท. ที่ ต.อิสาณ และ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ยังมีความไม่ชัดเจน จึงอยากให้ รฟท. ยื่นคำขอการตรวจสอบแนวเขตที่ดินของ รฟท. ในที่ดินบริเวณเขากระโดง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองหน้า 32 เพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนจัดทำรายงานสอบสวนให้แล้วเสร็จตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่ประมวลกฎหมายที่ดินและระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดต่อไป

kd 13 01 24 1 (คำพิพากษาศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 หน้า 32)

อย่างไรก็ดี ผู้แทนจาก รฟท. ย้ำว่า เมื่อศาลฯได้พิพากษาแล้วว่าที่ดินบริเวณเขากระโดงเป็นของ รฟท. จึงอยากให้กรมที่ดินช่วยพิจารณาในเรื่องค่าใช้จ่าย และหากหลีกเสี่ยงไม่ได้จริงๆ อยากให้กรมที่ดินทำจดหมายแจ้งไปที่ รฟท. ว่าต้องดำเนินการต่ออย่างไรต่อไป ทั้งนี้ รฟท.ไม่มีนโยบายรื้อถอนหรือขับไล่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในขอบเขตพื้นที่เขากระโดงแต่อย่างใด โดย รฟท. มีคณะกรรมการบริหารทรัพย์สินที่จะดูแลต่อในเรื่องนี้อยู่แล้ว

“ทางการรถไฟฯ มีข้อมูลพร้อมที่จะลงสนาม แต่ติดเรื่องค่าใช้จ่าย ประธานในที่ประชุม (นายสรสีห์) จึงได้มติตกลงร่วมกัน คือ ทางกรมที่ดินจะแจ้งรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ทางการรถไฟฯ ต้องชำระก่อนการลงพื้นที่สำรวจต่อไป” สรุปรายงานการประชุมร่วมกับสำนักงานมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัด กรมที่ดิน และคณะกรรมการสอบสวนมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมาย กรณีตรวจสอบแนวเขตที่ดินร่วมกับกรมที่ดินและแนวทางปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2567 ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุ

@ผ่านไป 8 เดือนยังไม่เพิกถอน-กม.กำหนดต้องทำใน 165 วัน

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า นับตั้งแต่อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่ง ที่ 1195-1196/2566 เรื่อง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ลงวันที่ 12 พ.ค.2566 เพื่อดำเนินการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินรถไฟฯ เขากระโดง ที่เข้าข่ายฯจำนวน 995 ฉบับ แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ (13 ม.ค.2567) หรือผ่านมา 8 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่า กรมที่ดินได้เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินแปลงใดไปแล้วบ้าง

รายงานข่าวแจ้งว่า มาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน บัญญัติว่า “เมื่อความปรากฏว่าได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ใดโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้อธิบดีหรือรองอธิบดีมอบหมายมีอำนาจหน้าที่สั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้

ก่อนที่จะดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีอำนาจเรียกโฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ เอกสารที่ได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม เอกสารที่ได้จดแจ้งรายการทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องพิจารณา พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบให้โอกาสคัดค้าน ถ้าไม่คัดค้านภายในกำหนดสามสิบวัน (30) นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ให้ถือว่าไม่มีการคัดค้าน

คณะกรรมการสอบสวนการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างน้อยต้องมีเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและตัวแทนคณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่เป็นกรรมการ

การสอบสวนตามวรรคสองต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ และส่งให้อธิบดีหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในกำหนดหกสิบวัน (60) นับแต่วันที่ได้มีคำสั่งให้ทำการสอบสวน ในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้คณะกรรมการสอบสวนรายงานเหตุที่ทำให้การสอบสวนไม่แล้วเสร็จต่ออธิบดีหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายเพื่อขอขยายระยะเวลาการสอบสวน โดยให้อธิบดีหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายสั่งขยายระยะเวลาดำเนินการได้ตามความจำเป็นแต่ไม่เกินหกสิบวัน (60)

ให้อธิบดีหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวัน (15) นับแต่ได้รับรายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนตามวรรคสี่ เมื่ออธิบดีหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายพิจารณาประการใดแล้ว ก็ให้ดำเนินการไปตามนั้น

การดำเนินการเพิกถอนแก้ไขตามความในมาตรานี้ ถ้าไม่ได้โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์มาให้ถือว่าโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นสูญหาย ให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเพื่อดำเนินการต่อไป

ถ้ามีการคลาดเคลื่อนเนื่องจากเขียนหรือพิมพ์ข้อความผิดพลาดโดยมีหลักฐานชัดแจ้งและผู้มีส่วนได้เสียยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจหน้าที่แก้ไขให้ถูกต้องได้

ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไขอย่างใดแล้ว ให้เจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นตามวิธีการที่อธิบดีกำหนด

การตั้งคณะกรรมการสอบสวน การสอบสวน การแจ้งผู้มีส่วนได้เสียเพื่อให้โอกาสคัดค้าน และการพิจารณาเพิกถอนแก้ไข ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง”

อ่านประกอบ :

เปิดหนังสือทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ อ้าง 9 ข้อเท็จจริง ค้าน‘คกก.สอบสวน’เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’

แผนที่เขตรถไฟฯมีพิรุธ! ทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ยกต่อสู้ ปมถอนโฉนดเขากระโดง-ชี้ศก.บุรีรัมย์ชะงัก

ไม่เกี่ยวถอนโฉนดเขากระโดง!‘ชยาวุธ’เปิดใจลาออกอธิบดีที่ดินดูแลภรรยาป่วย

เปิดตำแหน่งโฉนด’ตระกูล‘ชิดชอบ’ทับที่รถไฟฯ‘เขากระโดง’-‘ฝ่าย กม.’แจงซื้อโดยสุจริต

จ่อโดนเพิกถอน! ชัดๆเปิด‘โฉนด-น.ส.3’ตระกูล’ชิดชอบ’ 20 แปลง 288 ไร่ ทับที่ดิน‘เขากระโดง’

ก่อน‘ชยาวุธ’ทิ้งเก้าอี้อธิบดี! พบ‘คกก.สอบสวน’แจ้งเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’รุกที่หลวง 2 แปลง

'อนุทิน'ปัดการเมืองกดดัน 'อธิบดีกรมที่ดิน'ยื่นลาออก อย่าโยงปมพิพาท‘เขากระโดง’

การบ้าน‘อนุทิน’นั่ง‘มท.1’! แก้โจทย์สายสีเขียว-เพิกถอนโฉนดเขากระโดง-ต่อสัญญาซื้อน้ำ‘กปภ.’

ลุยเพิกถอนโฉนด 5 พันไร่!‘กรมที่ดิน’ไม่อุทธรณ์คดี‘เขากระโดง’-แจ้งศาลฯตั้ง‘คกก.สอบสวน’แล้ว

‘รฟท.’ยื่นอุทธรณ์คดี‘เขากระโดง’ปมเรียกค่าเสียหาย 707 ล้าน-รอ‘ศาลปค.’แจ้งท่าที‘กรมที่ดิน’

เส้นตาย 30 เม.ย.! ‘รฟท.’จับตา‘กรมที่ดิน’ยื่นอุทธรณ์คดีเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 772 แปลง