‘ชูวิทย์’ ยื่น ‘คมนาคม’ สอบ 4 ปมยุค ‘ศักดิ์สยาม’ เลขาฯครม.แนะสายสีส้มให้รอ รบ.หน้า

เขียนวันที่

วันอังคาร ที่ 07 มีนาคม 2566 เวลา 18:52 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

1830 views

Liang070366 Cover6

‘ชูวิทย์’ บุก ‘คมนาคม’ อีก ยื่น ‘อธิรัฐ’ สอบ 4 ปมคยุคศักดิ์สยาม ทั้งสายสีส้ม-ตั้งนอมินีรับงาน-เลขาฯก้าวก่ายเกินหน้าที่-ดำเนินคดีผู้ว่าฯรถไฟ ก่อนรับลูกตั้งกรรมการสอบรายประเด็น ด้านเลขาฯครม.แนะโยนไปให้รัฐบาลชุดหน้าอนุมัติรถไฟฟ้าสายสีส้ม

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 มีนาคม 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เดินทางมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อร้องเรียนกรณีมีการทุจริตคอร์รัปชั่นในกระทรวง มีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการ รมว.คมนาคม เป็นผู้รับมอบหนังสือร้องเรียน

นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ในหนังสือที่ยื่นให้นายอธิรัฐมีสาระสำคัญ ดังนี้

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรค 2 กรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตัคชั่น อย่างแท้จริงและเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) (รายละเอียดท่านคงทราบเป็นอย่างดีแล้วนั้น)

สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวข้างต้นและจากการแถลงข่าวของข้าพเจ้า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เกี่ยวกับพฤติกรรมของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่บริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางโดยไม่สุจริต ไม่เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน จึงขอร้องเรียนต่อนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยอาศัยสิทธิหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 50, 51 และ 53 ขอให้ตรวจสอบในกรณีดังนี้

@สอบทุจริตสายสีส้ม-ผู้ว่ารฟม.ผิดจริยธรรม

ประเด็นที่ 1 ขอดำเนินการหยุดยั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงินลงทุน 235,320 ล้านบาท เพราะมีข้อสงสัยในประเด็นของการทุจริตส่อไปในทางกระทำความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ตามพ.ร.บ. ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กับความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.ป. ปปช.มาตรา 172 ทำให้ภาครัฐต้องแบกรับภาระที่แพงขึ้นประมาณ 68,612 ล้านบาท ซึ่งต้องใช้ภาษีของพี่น้องประชาชนมาชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของรัฐและเป็นความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศชาติ

และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายภคพงศ์ ศิริกัรทรมาศ ผู้ว่าการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่ามีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย ฝ่าฝืนวินัย และผิดศีลธรรม กรณีเป็นชู้กับหญิงอื่น ชื่ออักษรนามสมมุติ ป. ที่ไม่ใช่คู่สมรสของตนเองหรือยกย่องหญิงอื่นในฐานะภรรยาหรือไม่ อีกทั้งขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินของ ผู้ว่ารฟม. ว่ามีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติหรือไม่

@2 บริษัทนอมินี ‘ศักดิ์สยาม’ รับงาน-คู่เทียบทิพย์

ประเด็นที่ 2 กรณีห้างหุ้นส่วนบุรีเจริญคอนสตัคชั่น ชนะการประมูลในกระทรวงคมนาคม ระหว่างปี 2563-2566 จำนวนนับ 100 โครงการ น่าเชื่อว่าอาจเป็นการประมูลงานอย่างไม่สุจริต ไม่โปร่งใส เพราะนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตัคชั่น อาจเข้าข่ายใช้อำนาจกระทำการใดแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการประมูลงาน

หรืออาจมีพฤติกรรมร่วมกระทำผิดฮั๊วประมูลตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 จึงขอให้ตรวจสอบว่ามีการกระทำดังกล่าวหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าบจ.บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับงานสัมปทานรถไฟทางคู่ กับ บมจ.ช.การช่าง และ บมจ.ชิโน-ไทย และบริษัทอื่นๆอีกหลายบริษัทซึ่งล้วนแล้วเป็นนายทุนผู้บริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย เข้ามาเป็นคู่เทียบให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตัคชั่นมาโดยตลอด มีการประมูลโดยใช้วิธี bidding

ซึ่งตามหลักการ bidding หากเป็นการแข่งขันสู้ราคากันอย่างเป็นธรรมโดยสุจริตจะไม่มีทางที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตัคชั่นจะเป็นผู้ชนะเพียงรายเดียวมากถึง 45 ครั้ง และมีราคาต่ำกว่าราคากลาง โดยประมาณเพียงแค่ 1% เท่านั้น นอกจากนี้บริษัทคู่เทียบกับผู้ชนะการประมูลที่ได้งานจากกระทรวงคมนาคม จะมีราคาต่างกันเพียงหลัก 1,000 หรือ 10,000 บาทเท่านั้น และยังพบว่ากลุ่มบริษัทที่บริจาคเงินให้กับพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นคู่เทียบได้รับงานจากกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยยะสำคัญด้วย

Liang070366 0.7

Liang070366 0.8

Liang070366 0.9

@ดำเนินคดี ผู้ว่ารฟท. ละเว้น ‘เขากระโดง’

ประเด็นที่ 3 ขอให้ดำเนินคดีกับนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กรณีที่ดินบริเวณ “เขากระโดง” ซึ่งไม่ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ไม่ทำงานโดยยึดหลักความถูกต้องไม่โปร่งใส ไม่เอาใจใส่ผลประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ เลือกปฏิบัติต่อประชาชนในการทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่ารฟท. ทั้งที่มีความรู้ความเข้าใจกฎหมายและพฤติการณ์แห่งคดีมาเป็นอย่างดี ยิ่งต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักนิติธรรมและเสมอภาค สุจริตโปร่งใส ยิ่งกว่าบุคคลทั่วไป

แต่การกระทำของผู้ว่าการรถไฟฯ กลับสร้างความเคลือบแคลงสงสัย และก่อให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจต่อประชาชน เพราะละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ที่ส่อไปในทางช่วยเหลือ ปกป้องผู้กระทำความผิดผู้ครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยในพื้นที่บริเวณ(เขากระโดง) ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ โดยเฉพาะการไม่ประสานงานกรมที่ดินให้ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินจำนวน 5,083 ไร่ ให้ตกเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ด้วยเหตุดังกล่าวจึงขอให้รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมดำเนินคดีกับนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฟท.ทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัยโดยเด็ดขาด

@ดำเนินคดี ’สุขสมรวย’แทรกแซง-ใช้อำนาจเกินหน้าที่

ประเด็นที่ 4 ขอให้ตรวจสอบนางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีใช้อำนาจแทรกแซงการทำงานเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ สืบเนื่องจากกรณีลงนามตามหนังสือที่ คค. 0100/948 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2566 สั่งการให้อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เร่งรัดและบริหารสัญญาให้เป็นไปตามแผนการดำเนินการ ระเบียบ กฎหมาย ฯ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายหรือไม่ หากกระทำผิดขอให้ดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไปโดยเร็ว

Liang070366 0.6
หนังสือคำสั่งที่นายชูวิทย์อ้างว่า เลขานุการรมว.คมนาคม ใช้อำนาจเกินขอบเขต

@อธิรัฐรับลูกตั้ง กรรมการสอบรายประเด็น

ด้านนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะรักษาการ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จะเร่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งต้องยอมรับว่ากรณีรถไฟฟ้าสายสีส้มพอทราบเรื่องมาบ้าง แต่อีก 3 เรื่องที่ยื่นมานั้น เพิ่งทราบ

ทั้งนี้ การตรวจสอบจะเสร็จใน 15 วัน ตามที่นายชูวิทย์ต้องการหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงก่อน แต่พยายามจะทำให้เร็วที่สุดเพื่อให้ทุกเรื่องมีคำตอบกับสังคมและเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย โดยเบื้องต้นคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นนั้น คงต้องแยกเป็นเรื่อง เช่น กรณีสีส้ม เป็นเรื่องกฎหมาย จะไม่เกี่ยวกับจริยธรรมตัวบุคคลซึ่งเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2566 ตนได้เรียกผู้เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มาชี้แจงข้อมูลแล้ว ซึ่งรับทราบ เรื่องที่มีการฟ้องร้อง 4 คดี ขณะนี้ยกฟ้องแล้ว 1 คดี เหลืออีก 3 ซึ่งตรงนี้ ต้องดูรายละเอียดว่า เป็นอย่างไรหากจะดำเนินการต่อไป กรณีการฟ้องร้องยังมีอยู่ไม่สิ้นสุด จะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างไร หรือจะต้องรอคำสั่งศาลให้จบก่อน

“กรณีสีส้ม ต้องบอกว่า อยู่ที่การตรวจสอบ ไม่ได้มีการสั่งชะลอ เพราะมีระเบียบ กฎหมายให้ปฎิบัติตามหาก ทุกอย่างหากชี้แจงมีคำตอบสู่สังคมได้ ก็เดินต่อได้ แต่หากไม่เคลียร์ เช่น อาจต้องรอคำสั่งศาลก่อน ก็ต้องรอ จะไปต่อได้ไง รวมถึงการเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เมื่อใด ตนยังตอบ ไม่ได้ ยอมรับว่าหนักใจ ที่มีกรณีเหล่านี้ในช่วงท้ายรัฐบาลและกำลังจะเลือกตั้ง แต่หากสามารถทำให้สังคมสบายใจขึ้น ทำให้ประชาชนที่สงสัยเกิดความกระจ่างตนยินดีที่จะทำดำเนินการให้เกิดความถูกต้อง เคลียร์และมีคำตอบทุกเรื่องให้มากที่สุด

นายอธิรัฐ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมครม.วันนี้ได้มีการแจ้งเรื่องให้ตน ปฎิบัติหน้าที่แทนรมว.คมนาคม ซึ่งในห้วงเวลาที่เป็นครม.รักษาการนั้น การนำเสนอโครงการต่างๆ จะต้องเป็นไปตามระเบียบหากไม่ขัดกฎหมายก็นำเสนอไปตาม ซึ่งตนจะหารือกับปลัดกระทรวงคมนาคม และหัวหน้าหน่วยงาน เพื่อเร่งรัดการดำนเนงานในห้วงเวลาที่เหลือของรัฐบาล ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้เร่งรัดงาน ที่ค้างอยู่ให้เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด

@ย้อน 'ศักดิ์สยาม' ชี้แจงช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยามเคยชี้แจงถึงกรณีเขากระโดงและการขายหุ้น หจก.บุรีเจริญในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2565 ว่า เรื่องเขา่กระโดง ตนเป็นเพียงผู้อาศัยในพื้นที่ เพราะทุกอย่างต้องอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ในฐานะ รมว.คมนาคม ได้สั่งการตามหนังสือเลขที่ คค. 0202/กม 689 ลงวันที่ 21 ก.ค.2564 เพื่อให้ รฟท.ดำเนินการแก้ปัญหาที่ดินบริเวณเขากระโดง และให้ติดตามความก้าวหน้า ทำตามกฎหมาย ปฏิบัติด้วยความเท่าเทียม เสมอภาค โปร่งใส

รฟท.เป็นหน่วยงานรัฐ การที่จะให้ไปฟ้องร้องกับประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยชอบซึ่งออกโดยหน่วยงานของรัฐเช่นกัน ถือว่าไม่เป็นธรรมกับประชาชน แต่สิ่งที่ รฟท.ต้องทำ คือ การพิสูจน์สิทธิ์ รฟท.เชื่อว่าการออกเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดินมีความคลาดเคลื่อน จึงขอให้กรมที่ดินพิจารณาตามกรอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนในที่ดิน รฟท. และได้มีคำร้องไปที่ศาลปกครอง เพื่อให้มีกระบวนการวินิจฉัยเรื่องนี้ เมื่อเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม จึงต้องรอคำวินิจฉัยของศาล ต้องพึงระวังเรื่องก้าวล่วงการพิจารณา และสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดอำนาจศาล นายศักดิ์สยามระบุตอนหนึ่ง

ส่วนเรื่องการถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญ ยืนยันว่า เรื่องนี้มีการซื้อขายกันจริงกับ นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของตน ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2561 ได้โอนเงินเสร็จเรียบร้อย มีหลักฐานยืนยันจากธนาคารธนชาต สาขาบุรีรัมย์ รับโอนรวม 3 ครั้ง วงเงิน 119.50 ล้านบาท แบ่งเป็นวันที่ 2 ส.ค.2560 จำนวนน 35 ล้านบาท , วันที่ 5 ก.ย.2560 จำนวน 35 ล้านบาท และวันที่ 5 ม.ค.2561 จำนวน 49.50 ล้านบาท เรื่องนี้มีการซื้อขายจริง มีการเปลี่ยนหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2561 แสดงให้เห็นว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับ หจก.บุรีเจริญ อีกเลย

“ดังนั้นสิ่งที่ผู้ถือหุ้น หรือ หจก.บุรีเจริญ ไปดำเนินธุรกิจ ดำเนินธุรกรรมอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ผมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าสงสัยอะไรก็คงต้องไปสอบถามกับ หจก.บุรีเจริญ" นายศักดิ์สยามกล่าวอีกตอนหนึ่ง

Liang070366 1

อภิปรายไม่ไว้วางใจ : 'ศักดิ์สยาม'งัดหลักฐานเงิน 119 ล.ยันซื้อขายหุ้น หจก.บุรีเจริญฯจริง

@เลขาฯครม.แนะโยนไป รบ.หน้าผ่าทางตันสายสีส้ม

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. ได้แจ้งให้นายอธิรัฐทราบถึงการปฏิบัติหน้าที่รักษาการ รมว.คมนาคมจริง สำหรับประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งในที่ประชุมว่า เนื่องจากเป็นประเด็นที่ยังมีปัญหามาก ประกอบกับคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันใกล้หมดวาระ จึงควรจะส่งต่อให้คณะรัฐมนตรีชุดถัดไป เป็นผู้พิจารณาประเด็นนี้แทนจะดีกว่า ไม่ควรเร่งผลักดันในเวลานี้

Liang070366 1.0