เอื้องบบุรีรัมย์-เอี่ยวผู้รับเหมา! พรรคร่วมฝ่ายค้าน ลุยยื่นคำร้องถอดถอน 'ศักดิ์สยาม' 

ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลุยยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านปธ.สภาฯ วินิจฉัยความเป็น รมต. , ส.ส.  'ศักดิ์สยาม ชิดชอบ'  สิ้นสุดลง พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ปมจัดงบซ่อมถนนบุรีรัมย์สูงกว่าจังหวัดอื่น แถมผู้รับเหมาได้งานยังมีความใกล้ชิดโอนหุ้นไปแล้วแต่ยังใช้อยู่ที่เดียวกัน มีเอกสารหลักฐาน 14 เรื่อง

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 ที่อาคารรัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย, นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ยื่นคำร้องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งคำร้องไปยังประธานศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ส.ส.สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เหตุมีการกระทำที่ละเมิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่าด้วยวิธีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งในคำร้องมีเอกสารหลักฐานทั้งหมด 14 เรื่อง โดยหวังการยื่นครั้งนี้จะมีผล เพราะพยานหลักฐานที่ชี้ชัดว่าอาจเข้าข่ายกระทำผิดจริง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ตั้งแต่ปี 2564 และพบว่ามีความเกี่ยวข้องต่อการพิจารณางบประมาณในส่วนของกรมทางหลวง , กรมทางหลวงชนบท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า การจัดสรรงบซ่อมถนนไปยังพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ นั้นสูงกว่าจังหวัดอื่นๆที่ของบซ่อมถนน เช่น จังหวัดอื่นได้งบ ซ่อม 20 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ 40ล้านบาท

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบยังพบว่ามีบริษัทรับเหมาก่อสร้างทีได้งานในจังหวัดบุรีรัมย์ ยังมีความเกี่ยวพันธุ์กับนายศักดิ์สยาม ทั้งเคยเป็นเจ้าของบริษัท แม้ต่อมาก่อนที่นายศักดิ์สยามจะได้รับตำแหน่ง รมว.คมนาคม เพียง 23 วัน ได้โอนหุ้นไปแล้ว แต่พบว่าที่อยู่ของบริษัทดังกล่าว ยังเคยเป็นที่อยู่เดียวกันกับนายศักดิ์สยาม ซึ่งถือว่าเป็นความเกี่ยวโยงกัน

“ตั้งแต่ปี 2563 นั้น บริษัทรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับงานจากกระทรวงคมนาคม 563 ล้านบาท , และปี 2564 ได้รับงบ 657 ล้านบาท และปี 2565 ได้รับงบ 527 ล้านบาท  ซึ่งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 มีข้อห้ามให้ ส.ส. กรรมาธิการ มีสวนในทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้ได้งบประมาณไปดำเนินการ โดยตามกฎหมายกำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณาโดยเร็ว” พ.ต.อ.ทวี ระบุ

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เรื่องนี้ทำในฐานะเป็นฝ่ายตรวจสอบ ไม่ได้อาฆาตมาดร้าย หรือเล่นเกมการเมือง หวังผลประโยชน์ในพื้นที่ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เพราะฝ่ายค้าน เห็นว่าการกระทำของนายศักดิ์สยามเข้าข่ายมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ จึงยื่นให้ศาลตรวจสอบวินิจฉัย ส่วนจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ โดยกรอบเวลาศาลรัฐธรรมนูญจะต้องวินิจฉัยภายใน 15 วัน 

ส่วนการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 นพ.ชลน่าน ระบุว่า น่าจะมีข้อตกลงตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอมา คือเริ่มได้ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ดังนั้น ฝ่ายค้านก็จะเริ่มตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ไม่กังวลเรื่ององค์ประชุมล่ม และไม่กังวลว่ารัฐบาลจะแก้เกมคืนด้วยการใช้องค์ประชุม เพราะจะเข้าข่ายฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่จงใจหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของฝ่ายค้าน