ใช้วิธี‘เฉพาะเจาะจง’! กปภ.แพร่ร่างTOR ประมูลงานจ้างผลิตน้ำประปา สัญญา 10 ปี 1.2 หมื่นล.

pwa 01 10 23 pic

กปภ.เผยแพร่ร่างประกาศ TOR เปิดประมูลงานจ้างเอกชนผลิตน้ำประปาใน 3 พื้นที่ กำลังผลิต 3.58 แสน ลบ.ม./วัน สัญญา 10 ปี วงเงิน 1.24 หมื่นล้าน ระบุใช้วิธีจัดหาแบบ ‘เฉพาะเจาะจง’ กำหนด 'ราคากลาง' ค่าจ้างผลิตน้ำ 6.98 บาท/ลบ.ม. ขณะที่ 'สร.กปภ.' ส่งหนังสือถึง 'บอร์ด กปภ.' จี้ยุติการจัดจ้างฯ หวั่นอาจทำให้ กปภ.เสียหาย-เอื้อเอกชน

..................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดย กปภ. เขต 2 ได้เผยแพร่ร่างประกาศ TOR งานจ้างเอกชนบริหารจัดการผลิตน้ำประปาและบำรุงรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำขาดแคลนในพื้นที่ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาปทุมธานี การประปาส่วนภูมิภาคสาขารังสิต (ชั้นพิเศษ) การประปาส่วนภูมิภาคสาขาคลองหลวง กรอบวงเงิน 12,491.89 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในเบื้องต้น กปภ. เขต 2 จะเชิญเอกชนที่สนใจเข้ามาการชี้แจงเกี่ยวกับร่างประกาศ TOR ในช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนจะประกาศ TOR และเปิดให้เอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ต่อไป

สำหรับร่างประกาศ TOR ฉบับนี้ กำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีผลงานหรือมีประสบการณ์ในการผลิตน้ำประปาและ/หรือบริหารจัดการระบบผลิตน้ำประปาให้กับองค์กรของรัฐหรือเอกชนที่เชื่อถือได้ในปริมาณขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1.07 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วัน และผู้ยื่นข้อเสนอต้องแสดงรายละเอียดและความสามารถในการบริหารจัดการผลิตน้ำประปาและบำรุงรักษาในปริมาณที่ กปภ. กำหนด เป็นต้น

ส่วนหลักเกณฑ์ในการพิจารณานั้น กปภ.จะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์ด้านราคา โดยจะพิจารณาจากค่าจ้างผลิตน้ำประปาต่อ ลบ.ม.เป็นเกณฑ์ โดยราคากลางในการจัดจ้างฯครั้งนี้จะอยู่ที่ 6.98 บาท/ ลบ.ม. (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ขณะที่เอกชนที่ชนะการคัดเลือกมีหน้าที่บริหารจัดการผลิตน้ำประปาและบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยปริมาณน้ำประปาขั้นต่ำที่ผลิตได้ต้องไม่น้อยกว่า 3.58 แสน ลบ.ม./วัน

ร่างประกาศ TOR ยังระบุว่า ในกรณีเอกชนที่ชนะการประมูล หรือ ‘ผู้รับจ้าง’ ไม่สามารถผลิตน้ำประปาตามปริมาณน้ำประปาขั้นต่ำที่กำหนด จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ กปภ. อย่างไรก็ดี ในส่วนราคาค่าน้ำประปานั้น กปภ.จะมีการปรับราคาค่าจ้างผลิตน้ำประปาทุกวันที่ 1 ม.ค.ของแต่ละปี ตามสูตที่กำหนดไว้ โดยจะปรับเพิ่มค่าจ้างผลิตน้ำตามอัตราเงินเฟ้อ (CPI) และจะเริ่มปรับขึ้นค่าจ้างผลิตน้ำครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ในกรณีที่ กปภ.ต้องการให้ผลิตน้ำประปาเกินกว่าปริมาณขั้นต่ำ ค่าจ้างผลิตน้ำประปาสำหรับปริมาณน้ำประปาส่วนที่เกิน จะลดลงจากค่าผลิตน้ำประปาในปีนั้น 0.44 บาท/ลบ.ม.

ผู้สื่อข่าวรายงาน ปัจจุบัน กปภ. และ บริษัท ประปาปทุมธานีฯ มีสัญญาซื้อขายน้ำประปาในโครงการประปาปทุมธานี-รังสิตฯ จำนวน 2 ฉบับ รวมวันละไม่เกิน 358,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยสัญญาฯดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 ต.ค.2566 ขณะที่อัตราค่าน้ำที่ กปภ. รับซื้อจาก บริษัท ประปาปทุมธานีฯ ตามสัญญาฯ ขณะนี้อยู่ที่ 13.7 บาท/ลบ.ม.

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้ กปภ.ได้ประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (เพิ่มเติมระหว่างปี) โดยในแผนฯดังกล่าวมีการระบุว่า ในส่วนของงานจ้างเอกชนบริหารจัดการผลิตน้ำประปาและบำรุงรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำขาดแคลนในพื้นที่ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาปทุมธานี การประปาส่วนภูมิภาคสาขารังสิต (ชั้นพิเศษ) การประปาส่วนภูมิภาคสาขาคลองหลวง กรอบวงเงิน 12,491.89 ล้านบาท จะใช้วิธีการจัดหาแบบ ‘เฉพาะเจาะจง’

pwa 01 10 23 1 (ที่มา : กปภ.)

ขณะเดียวกัน ในร่างประกาศ TOR ฉบับดังกล่าว ได้ระบุความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของงานฯ ว่า ด้วย กปภ.และบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด เป็นคู่สัญญากันตามสัญญาให้สิทธิดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ฉบับลงวันที่ 31 ส.ค.2538 และสัญญาซื้อขายน้ำประปาเพื่อใช้ในพื้นที่สำนักงานประปารังสิต ฉบับลงวันที่ 15 ก.ย.2549 โดยระยะเวลาของสัญญาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 ต.ค.2566

และบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด ได้ใช้สิทธิขอเช่าระบบผลิตน้ำประปาจาก กปภ. อีก 10 ปี โดยเจรจากับ กปภ. ตามสัญญาทั้งสองฉบับ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2566 คณะกรรมการ (บอร์ด) กปภ.ได้มีมติเห็นชอบผลการเจราจาตามที่ กปภ. ได้เจราจากับบริษัท ประปาทุมธานี จำกัด และให้ กปภ. ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการให้บริการแก่ประชาชนและแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาในพื้นที่ กปภ.สาขาปทุมธานี กปภ.สาขารังสิต(ชั้นพิเศษ) และ กปภ.สาขาคลองหลวง กปภ.จึงดำเนินการจัดจ้าง ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560

pwa 01 10 23 4

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (สร.กปภ.) ได้ทำหนังสือถึงประธานและคณะกรรมการ กปภ. โดยเรียกร้องให้ยุติแผนการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนบริหารจัดการผลิตน้ำประปาและบำรุงรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำขาดแคลนในพื้นที่ กปภ.สาขาปทุมธานี กปภ. สาขารังสิต (ชั้นพิเศษ) และกปภ. สาขาคลองหลวง เนื่องจากใช้งบสูงและมีลักษณะการดำเนินการที่เร่งรีบ

“จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ สร.กปภ. ตั้งประเด็นข้อสงสัยว่า ได้มีการกระทำในลักษณะเป็นกลุ่มหรือขบวนการ ที่อาจทำให้ กปภ. เกิดความเสียหายและขาดโอกาสในการดำเนินการตามพันธกิจหลักตาม พ.ร.บ. การประปาส่วนภูมิภาภ พ.ศ.2522 ซึ่งที่ผ่านมาการประปาส่วนภูมิภาคนั้น ต้องแบกรับการขาดทุนจากการดำเนินการของเอกชนมาโดยตลอด ต้องรับซื้อน้ำขั้นต่ำโดยต้องแบกภาระเรื่องน้ำสูญเสียเอง

ราคาน้ำที่รับซื้อก็ปรับขึ้นทุกปีตามค่าดัชนีผู้บริโภค (CPI) แต่การประปาส่วนภูมิภาคไม่อาจปรับขึ้นค่าน้ำได้ เมื่อได้ทรัพย์สินมาเป็นของ กปภ. แล้ว แทนที่จะพยายามดำเนินการเอง โดยพนักงานของ กปภ. บริหารจัดการเรื่องน้ำสูญเสียเพื่อลดต้นทุน แต่กลับมีการเตรียมแผนให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการในระยะยาว ใช้งบประมาณนับหมื่นล้าน อันอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ซึ่งอาจกระทบและเกิดความเสียหายต่อการเข้าดำเนินการเองของ กปภ.

สร.กปภ.ขอให้ยุติแผนการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนบริหารจัดการผลิตน้ำประปาและบำรุงรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำขาดแคลนในพื้นที่ กปรก.สาขาปทุมธานี ,กปภ.สาขารังสิต(ชั้นพิเศษ) ,กปภ. สาขาคลองหลวง ที่ใช้งบประมาณที่สูงมาก และมีลักษณะการดำเนินการที่เร่งรีบ ทั้งที่ กปภ. ได้เตรียมความพร้อมในการเข้าดำเนินการเองโดยพนักงานของ กปภ. ตามพันธกิจหลักขององค์กรแล้ว ซึ่งหากเกิดความเสียหายต่อ กปภ. ขอให้ผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งทางแพ่ง และทางอาญา โดย สร.กปภ.ขอให้องค์กรอิสระตรวจสอบในเรื่องนี้ต่อไป

อาศัยความตามมาตรา 40 (4) แห่ง พระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 สร.กปภ. ขอให้ท่านและผู้เกี่ยวข้องโปรดพิจารณาโดยรอบดอบ ไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดขององค์กร ประเทศชาติและประชาชน” หนังสือของ สร.กปภ. ที่ สร.กปภ. 2566/180 ลงวันที่ 26 ก.ย.2566 ลงนามโดยนายธงชัย ไวยบุญญา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การประปาส่วนภูมิภาค ระบุ

pwa 01 10 23 2