“…บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด รายงานงบกำไรขาดทุนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2561-2563) ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิทุกปี และมีกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี ได้แก่ ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 934.08 ล้านบาท ,ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 955.62 ล้านบาท และปี 2563 มีกำไรสุทธิ 1,000.71 ล้านบาท รวมแล้ว 3 ปี มีกำไรสุทธิ 2,890.41 ล้านบาท…”
................................
จากกรณี การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เตรียมต่อสัญญาให้สิทธิดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในพื้นที่ปทุมธานี-รังสิตให้กับ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด ออกไปจนถึง 14 ต.ค.2586 จากสัญญาปัจจุบันที่จะสิ้นสุด14 ต.ค.2566 โดยไม่เปิดประมูลตามพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562
แต่ทว่าเสียงทักท้วงจาก สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (สร.กปภ.) และกองพัฒนาธุรกิจ ฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร กปภ. ว่า การต่อสัญญาดังกล่าว เป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายเดิม ก่อให้เกิดการผูกขาดโดยเจตนา หลีกเลี่ยงมิให้การเปิดประมูลราคาตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ
และจะทำให้ กปภ.เสียประโยชน์จาก ‘กำไรส่วนต่าง’ ไม่น้อยกว่า 1.44 หมื่นล้านบาท
เนื่องจากราคาน้ำประปาที่ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด จะขายให้กับ กปภ. ตามสัญญาฉบับใหม่ (ฉบับแก้ไข) ในอัตรา 10.30 บาท/ลบ.ม. นั้น
เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนการผลิตน้ำประปาของ กปภ. ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 4.42 บาท/ลบ.ม. พบว่ามีส่วนต่างถึง 5.88 บาท/ลบ.ม. ในขณะที่ประมาณการความต้องการใช้น้ำประปาในพื้นที่ปทุมธานีและรังสิต ตลอดอายุสัญญา 20 ปี อยู่ที่ 3,600 ล้านลบ.ม. (อ่านประกอบ : เปิดร่างสัญญา‘กปภ.’! ยืดเวลาซื้อน้ำประปา 20 ปี หมื่นล. หลังถูกร้องเอื้อเอกชนรายเดียว)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต่อมา สมบูรณ์ สุนันทพงศ์ศักดิ์ ผู้ว่าการ กปภ. ยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า “เรื่องนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย และขอยืนยันว่ายังไม่มีการต่อสัญญาอะไร”
แต่ปรากฏข้อมูลว่า คณะกรรมการ กปภ. ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2564 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้ กปภ. จัดทำร่างสัญญาเพื่อต่ออายุการให้สิทธิดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปากับ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด อีก 20 ปี (อ่านประกอบ : เปิดบันทึก! ทักท้วง ‘กปภ.’ต่อสัญญาซื้อน้ำประปา 20 ปี ชี้เอื้อปย.เอกชนผูกขาดโดยเจตนา)
@'ช.การช่าง'ถือหุ้นทางอ้อมใน 'บ.ประปาปทุมธานี' ผ่าน TTW
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศราตรวจค้นข้อมูลของ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด (PTW) หรือ ‘ประปาปทุม’ จากฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า
บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 29 พ.ค.2538 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านบาท มีกรรมการ 5 ราย ประกอบด้วย นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ,นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ ,น.ส.วลัยณัฐ ตรีวิศวเวทย์ ,นายธนัช ศิริเจริญ และนายสมเกียรติ ปัทมมงคลชัย
สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด ประกอบด้วย บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ถือหุ้นในสัดส่วน 98% และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ถือหุ้นในสัดส่วน 2%
ในขณะที่ TTW ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด นั้น มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 25.98% ,บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ถือหุ้นในสัดส่วน 19.40% และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ถือหุ้นในสัดส่วน 18.47%
(ที่มา : รายงานประจำปี 2563 บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน , ตลท.)
จากข้อมูลรายงานประจำปี 2563 ของ TTW พบว่า บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับ กปภ. ในพื้นที่ปทุมธานี-รังสิต โดยมีรูปแบบสัญญาเป็นแบบ Build-Own-Operate-Transfer (BOOT) อายุุสัญญา 25 ปี โดยเริ่มดำเนินกิจการในปี 2541 เป็นต้นมา
ปัจจุบัน บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด มีกำลังการผลิต จำนวน 488,000 ลบ.ม./วัน โดยมีปริมาณรับซื้อน้ำขั้นต่ำจาก กปภ. จำนวน 358,000 ลบ.ม./วัน
บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด แจ้งงบกำไรขาดทุนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2561-2563) ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิทุกปี ได้แก่ ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 934.08 ล้านบาท ,ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 955.62 ล้านบาท และปี 2563 มีกำไรสุทธิ 1,000.71 ล้านบาท รวมแล้ว 3 ปี มีกำไรสุทธิ 2,890.41 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
ปี 2561 มีรายได้รวม 1,840.23 ล้านบาท มีรายจ่ายรวม 710.50 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 934.08 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้รวม 1,908.21 ล้านบาท มีรายจ่ายรวม 764,93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 955.62 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 1,975.57 ล้านบาท มีรายจ่ายรวม 794.17 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,000.71 ล้านบาท
(ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด นั้น มีกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ปรากฎว่า ผลประกอบการของ กปภ. นั้น พบว่ากำไรสุทธิ มีทั้งปีที่เพิ่มขึ้นและปีที่ลดลง โดยปีงบ 2561 กปภ.มีกำไรสุทธิ 3,744.60 ล้านบาท ปีงบ 2562 มีกำไรสุทธิ 4,471.54 ล้านบาท และปีงบ 2563 มีกำไรสุทธิ 1,389.85 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปีงบ 2561-2563) กปภ. นำส่งเงินเข้ารัฐลดลงทุกปี โดยปีงบ 2561 นำส่งเงินเข้ารัฐ 2,300 ล้านบาท ,ปีงบ 2562 นำส่งเงินเข้ารัฐ 2,196.80 ล้านบาท และปีงบ 2563 นำส่งเงินเข้ารัฐ 1,410.29 ล้านบาท
(ที่มา : รายงานประจำปี 2563 ของการประปาส่วนภูมิภาค)
เหล่านี้เป็นข้อมูลโดยสังเขปของ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด (PTW) หรือ ‘ประปาปทุม’ คู่สัญญาซื้อขายน้ำประปาของ กปภ. ในโครงการเอกชนร่วมทุมปทุมธานี-รังสิต ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 14 ต.ค.2566
ในขณะที่ กปภ. เตรียมจะต่ออายุสัญญารับซื้อน้ำให้กับ บริษัท ประปาปทุมธานี ออกไปอีก 20 ปี!
อ่านประกอบ :
เปิดบันทึก! ทักท้วง ‘กปภ.’ต่อสัญญาซื้อน้ำประปา 20 ปี ชี้เอื้อปย.เอกชนผูกขาดโดยเจตนา
เปิดร่างสัญญา‘กปภ.’! ยืดเวลาซื้อน้ำประปา 20 ปี หมื่นล. หลังถูกร้องเอื้อเอกชนรายเดียว
ร้องประธานกมธ.‘ป.ป.ช.’ สอบ ‘กปภ.’ เล็งต่อสัญญาซื้อน้ำประปา 20 ปี เอื้อเอกชนรายเดียว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/