เผือกร้อน‘สุริยะ-รฟท.’ฟ้อง‘ศาลยุติธรรม’เพิกถอนโฉนด‘รายแปลง’ ปิดฉากมหากาพย์‘เขากระโดง’!

kd 01 12 24 pic

“….จึงเป็นหน้าที่ของ รฟท. ที่จะต้องพิสูจน์สิทธิในที่ดินของตัวเองต่อศาลยุติธรรม คือ ฟ้องเจ้าของที่ดินแต่ละแปลง รวมทั้งแปลงที่ดินที่มีชื่อนักการเมืองด้วย ซึ่งการฟ้องคดีของ รฟท. นั้น สามารถนำเอาพยานหลักฐานในคดีก่อนที่เคยมีคำพิพากษาแล้ว รวมทั้งคำพิพากษาศาลฎีกาไปเป็นพยานต่อศาล ซึ่งคาดว่าคำพิพากษาน่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน…”

.........................................

มหากาพย์ทวงคืนที่ดินรถไฟฯ ‘เขากระโดง’ จ.บุรีรัมย์ ที่ดำเนินมาไม่น้อยกว่า 50 ปี

ยังคงมี ‘ภาคต่อ’

เมื่อ ‘กรมที่ดิน’ มีคำสั่ง ‘ไม่เพิกถอน’ เอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 995 ฉบับ โดยให้เหตุผลว่า รฟท.ไม่มี ‘พยานหลักฐาน’ ที่ยืนยันการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ของที่ดิน รฟท. บริเวณแยกเขากระโดง

นั่นก็คือ ‘แผนที่’ ตาม พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินแลอสังหริมทรัพย์อย่างอื่นเพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟหลวงจัดการสร้างประกาศลงวันที่ 7 พ.ย.2464 (อ่านประกอบ : ไม่เชื่อ'แผนที่'ตามคำพิพากษา! ฉบับเต็ม‘คกก.สอบสวน’ยก 4 เหตุผล ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’)

“คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้ร่วมกันพิจารณา และมีมติยืนยันความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนฯ โดยเห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน

จนกว่าจะได้มีพยานหลักฐานที่สามารถใช้พิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติได้ รวมถึงเอกสารหลักฐานทางกฎหมายที่สามารถพิสูจน์กรรมสิทธิ์ที่ดินของ รฟท. ยกเว้นในบริเวณที่มีพยานหลักฐานยืนยันว่า มีการเข้าใช้ประโยชน์ โดยมีการสร้างทางรถไฟ ซึ่งจะต้องไม่เกินข้างละ 20 วา หรือ 40 เมตร

โดย รฟท.จะต้องเป็นผู้นำพิสูจน์การเข้าทำประโยชน์ ด้วยมติเป็นเอกฉันท์ ไม่มีคณะกรรมการสอบสวนฯ ท่านใดมีความเห็นแย้ง” หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0516.2(2)/22162 เรื่อง การเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 21 ต.ค.2567 ลงนามโดย พรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ถึงผู้ว่าฯรฟท.ระบุ

ก่อนที่ในเวลาต่อมา วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯ รฟท. ได้ทำหนังสือ ที่ รฟ1/2780/2567 อุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิ์ในที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของ รฟท. บริเวณแยกเขากระโดง ต่อกรมที่ดิน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาอุทธรณ์ฯ (อ่านประกอบ : 'วีริศ' ส่งหนังสือถึง 'อธิบดีกรมที่ดิน' เพิกถอนมติคกก.สอบสวน 'เขากระโดง')

srt 01 12 24 1

@ทวงคืนที่ดิน‘เขากระโดง’ส่อเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

“ตอนนี้เราอุทธรณ์ มันก็อยู่ในขั้นตอนของกรมที่ดินจะต้องตอบกลับภายใน 30 วัน และอีก 30 วัน ปลัดกระทรวงมหาดไทยจะต้องทำหนังสือตอบกลับมา ถ้าคำตอบยังไม่เพิกถอนอีก รฟท. มีหน้าที่ต้องฟ้องศาลปกครองในขั้นตอนต่อไป” วีริศ กล่าว (อ่านประกอบ : ‘สุริยะ-รฟท.’รอผลอุทธรณ์กรมที่ดิน‘เขากระโดง’-‘วีริศ’ชี้ต้องรอบคอบ หวั่นโดน 157)

ดังนั้น หากในท้ายที่สุด กรมที่ดินยังคงยืนยันคำสั่ง ‘ไม่เพิกถอน’ เอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินของการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดง เนื้อที่กว่า 5,000 ไร่เศษ กระบวนการทวงคืนที่ดิน ‘เขากระโดง’ จ.บุรีรัมย์ อาจต้องกลับไปเริ่มต้น ‘นับหนึ่ง’ อีกครั้งที่ ‘ศาลปกครอง’ และก็ไม่ได้หมายความว่าที่ดิน ‘เขากระโดง’ จะกลับคืนมาเป็นของ รฟท. แต่อย่างใด

นั่นเพราะในการฟ้องคดี ‘เขากระโดง’ ต่อศาลปกครองรอบที่แล้ว (คดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566) ซึ่ง รฟท. (ผู้ฟ้องคดี) มีคำขอให้ศาลมีคำสั่งให้กรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2) เพิกถอนคำสั่งออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ ‘เจ้าพนักงานกรมที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์’ ออกทับที่ดิน รฟท. บริเวณแยกเขากระโดงด้วย

แต่ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาสรุปได้ว่า ให้อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งแต่งตั้ง ‘คณะกรรมการสอบสวนฯ’ เพื่อดำเนินการกับที่ดินบริเวณแยกเขากระโดงเท่านั้น (อ่านประกอบ : ย้อนคำวินิจฉัย'ศาลปค.' คดีถอนโฉนด'เขากระโดง'-ก่อน‘กรมที่ดิน’โยน‘รฟท.’ฟ้องขับไล่'รายแปลง')

โดยศาลปกครองกลางไม่ได้มีคำพิพากษาให้ ‘กรมที่ดิน’ ต้องดำเนินการ ‘เพิกถอน’ เอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามที่ รฟท.ได้มีคำร้องขอไปแต่อย่างใด เพียงแต่ศาลฯได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางและวิธีการดำเนินการให้เป็นเป็นตามคำพิพากษา ไว้ว่า

“ให้ผู้ฟ้องคดี (รฟท.) ร่วมกับคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของผู้ฟ้องคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขแดงที่ 842-876/2560 และที่ 8027/2561

และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 3 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 เพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนจัดทำรายงานการสอบสวนให้แล้วเสร็จตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่ประมวลกฎหมายที่ดินกฎและระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดต่อไป” (อ่านประกอบ : ฉบับเต็ม! พลิกคำพิพากษา‘ศาล ปค.’สั่ง‘กรมที่ดิน ‘ตั้ง‘คกก.สอบสวน’ถอนโฉนด‘เขากระโดง’)

kd 01 12 24 1 (ที่มา : คำพิพากษาศาลปกครองรอบที่แล้ว คดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566)

@‘กรมที่ดิน’เคยมีคำสั่งไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’

กระทั่งต่อมา กรมที่ดิน ได้ทำหนังสือถึง รฟท. ลงวันที่ 21 ต.ค.2567 แจ้งว่า ‘คณะกรรมการสอบสวนฯ’ มีคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของ รฟท. บริเวณแยกเขาโดง พร้อมระบุว่า “หาก รฟท.เห็นว่ามีสิทธิในที่ดินดีกว่าก็เป็นเรื่องที่ผู้มีสิทธิในที่ดิน จะต้องไปดำเนินการเพื่อพิสูจน์สิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางศาลต่อไป”

เช่นเดียวกับเมื่อปี 2555 ที่ ‘กรมที่ดิน’ มีคำสั่ง ‘ไม่เพิกถอน’ โฉนดที่ดินเลขที่ 3466 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ของ บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด และโฉนดที่ดินเลขที่ 8564 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ของ กรุณา ชิดชอบ (ขณะนั้น) มาแล้ว (อ่านประกอบ : พลิกแฟ้มป.ป.ช.! สั่งถอนโฉนดตระกูล ‘ชิดชอบ’ ทับที่ดินรถไฟ ‘เขากระโดง’)

อย่างไรก็ตาม ‘กรมที่ดิน’ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง รฟท. โดยขอให้ รฟท. ไปดำเนินการฟ้องขับไล่และขอเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 3466 และโฉนดที่ดินเลขที่ 8564 ต่อ ‘ศาลยุติธรรม’ แต่ รฟท. กลับไม่มีการดำเนินการตามข้อเสนอของกรมที่ดินแต่อย่างใด (อ่านประกอบ : เก็บเรื่อง 9 ปี! 3 ผู้ว่าฯรฟท.ไม่สั่งฟ้องศาลถอนโฉนดที่ดิน'เขากระโดง'โยง'ชิดชอบ')

จนกระทั่งในเดือน ธ.ค.2564 รฟท. ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ รมว.คมนาคม จาก ‘พรรคภูมิใจไทย’ และมี นิรุฒ มณีพันธ์ เป็นผู้ว่าฯ ได้ยื่นฟ้องกรมที่ดินต่อ 'ศาลปกครองกลาง' โดยขอให้ศาลฯมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินรถไฟฯบริเวณแยกเขากระโดงทั้งหมด

“เรื่องนี้ มีการพูดคุยกันมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไป ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช. ก็มีมติ แต่เป็นที่สังเกตว่า มติของ ป.ป.ช. ไม่เคยสั่งให้การรถไฟฯไปฟ้องประชาชน และเมื่อ ป.ป.ช. เห็นว่าที่ดินแปลงนี้ไม่ชอบ ก็สั่งให้กรมที่ดินไปเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ออกโดยมิชอบ ส่วนจะเพิกถอนหรือไม่ อย่างไร นั้น ก็ต้องไปถามกรมที่ดินว่า มีเหตุผลกลใดอย่างไร...

ถ้ากรมที่ดินเพิกถอน (เอกสารสิทธิในที่ดิน) บุคคลเหล่านั้น จะตกอยู่ในฐานะผู้บุกรุก การรถไฟฯจึงจะเข้าไปดำเนินการ ตั้งแต่การพูดคุยกับเขา และเข้าไปดำเนินการที่ทุกฝ่าย Win-Win

เพราะการรถไฟฯไม่มีหน้าที่ไประรานประชาชน เราอยู่คู่กับประชาชน เราไม่ได้อยู่ตรงข้ามกับประชาชน” นิรุฒ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2565 (อ่านประกอบ : คำชี้แจง ‘ผู้ว่าฯรฟท.’ กรณีเพิกถอนโฉนด ‘เขากระโดง’-‘ในยุคผม...ผมไม่ฟ้องประชาชน’)

@‘รฟท.’ต้องฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก‘เขากระโดง’รายแปลง

ดังนั้น ทางออกในการทวงคืนที่ดิน ‘เขากระโดง’ กลับคืนมาเป็นของ รฟท. อย่างเป็นรูปธรรมและเร็วกว่าวิธีการอื่นๆนั้น รฟท. จะหลักเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเดินหน้าฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก ‘รายแปลง’ ทั้ง 995 ฉบับ ต่อ ‘ศาลยุติธรรม’ และหากอ้างอิงจากคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนๆ ที่วินิจฉัยว่าที่ดินเขากระโดงเป็นของ รฟท.แล้ว ก็คาดว่าคำพิพากษาจะออกมาในแนวทางเดียวกัน

“ถ้ามีการดำเนินการทางศาลยุติธรรม โดยดำเนินการฟ้องแต่ละแปลง แล้วศาลฯมีคำพิพากษาให้เพิกถอน จะเข้ามาตรา 61 วรรคแปด แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และกรมที่ดินจะต้องเพิกถอนตามคำพิพากษาของศาล ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ รฟท. ที่จะต้องพิสูจน์สิทธิในที่ดินของตัวเองต่อศาลยุติธรรม

คือ ฟ้องเจ้าของที่ดินแต่ละแปลง รวมทั้งแปลงที่ดินที่มีชื่อนักการเมืองด้วย ซึ่งการฟ้องคดีของ รฟท. นั้น สามารถนำเอาพยานหลักฐานในคดีก่อนที่เคยมีคำพิพากษาแล้ว รวมทั้งคำพิพากษาศาลฎีกาไปเป็นพยานต่อศาล ซึ่งคาดว่าคำพิพากษาน่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน” แหล่งข่าวจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่ดิน กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา

แหล่งข่าวย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมาได้มีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา ,คำวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันและปรบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ,คำพิพากษาของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ,คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คำพิพากษาศาลฎีกา และคำพิพากษาศาลปกครอง

แต่กลับไม่สามารถดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินของการรถไฟฯ อันเป็นที่ดินของหลวงได้อย่างเบ็ดเสร็จและรวดเร็ว เพราะ รฟท.ไม่ยอมฟ้องคดีพิสูจน์สิทธิของตัวเองกับเจ้าของที่ดินแต่ละแปลง เพราะมีโฉนดที่ดินของนักการเมืองใหญ่อยู่บริเวณตรงนั้น

@เคสยึดคืนที่เขากระโดงจาก‘ศุภวัฒน์’ใช้เวลา 11 ปี

อย่างไรก็ดี แม้ว่าการฟ้องขับไล่ ‘ผู้บุกรุก’ ที่ดินรถไฟฯบริเวณเขากระโดง ‘รายแปลง’ ต่อศาลยุติธรรม นั้น อาจต้องใช้ระยะเวลาเวลาพอสมควร แต่เป็นวิธีการที่จะทำให้ รฟท. ได้ที่ดินเขากระโดงกลับคืนมา เช่นเดียวกับกรณีที่ ศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ซึ่งบุกรุกครอบคลองที่ดินเขากระโดง แต่สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษาให้ ศุภวัฒน์ ต้องคืนที่ดินฯโดงให้กับ รฟท. หลังจากใช้เวลา 11 ปี

โดยคดีนี้ เมื่อปี 2555 ศุภวัฒน์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง รฟท. เป็นจำเลย กรณี รฟท.คัดค้านการรังวัดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ข.) เลขที่ 200 หมู่ 9 (ปัจจุบันหมู่ที่ 13) ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 24 ไร่เศษ และขอออกโฉนดที่ดิน โดยที่ดินดังกล่าว ศุภวัฒน์ ซื้อต่อมาจาก ชัย ชิดชอบ เมื่อปี 2554

ก.ย.2558 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ (ศาลชั้นต้น) มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 1791/2555 คดีหมายเลขแดงที่ 626/2556 ลงวันวันที่ 24 ก.ย.2558 (คดีที่ดิน ขับไล่ ละเมิด) สรุปว่า ที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง เป็นของ รฟท. โดยโจทก์ (ศุภวัฒน์) ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดินของ รฟท. เป็นการละเมิด ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างฯและชดใช้สินไหมฯแก่ รฟท.

ก.ค.2559 ศาลอุทธรณ์ภาค (3) มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 308/2559 คดีหมายเลขแดงที่ 1791/2559 (คดีที่ดิน ขับไล่ ละเมิด) ลงวันที่ 24 ก.ค.2559 เห็นพ้องกับศาลชั้นต้น สรุปได้ว่า ที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง เป็นของ รฟท. และเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่า ค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์ (ศุภวัฒน์) ต้องชำระนั้น ไม่ได้สูงเกินไป

พ.ย.2561 ศาลฎีกา มีคำพิพากษา ที่ 8027/2561 (คดีที่ดิน ขับไล่ ละเมิด) ลงวันที่ 22 พ.ย.2561 สรุปความได้ว่า ที่ดินบริเวณแยกเขากระโดงเป็นของ รฟท. การที่โจทก์ (ศุภวัฒน์) ซื้อที่ดินพิพาทจาก ชัย ชิดชอบ ไม่ได้ทำให้โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทในอันที่จะขอออกโฉนดที่ดินได้ และให้โจทก์จ่ายค่าเสียหายให้ รฟท.

ต่อมา เดือน ธ.ค.2566 ศุภวัฒน์ ได้ส่งมอบที่ดินพิพาทบริเวณแยกเขากระโดง เนื้อที่ 24 ไร่เศษ คืนให้แก่ รฟท. แล้ว พร้อมทั้งชำระหนี้ให้กับ รฟท. ครบทั้งหมดแล้ว เป็นเงินทั้งสิ้น 4,873,174 บาท (อ่านประกอบ : บังคับคดีแล้ว! โชว์เอกสาร‘ศุภวัฒน์’คืนที่ดิน‘เขากระโดง’ 24 ไร่-ชดใช้‘รฟท.’ 4.8 ล้าน)

จากนี้จึงต้องติดตามกันต่อไปว่า รฟท. ที่มี ‘วีริศ อัมระปาล’ เป็น ‘ผู้ว่าการฯ’ และมี ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รมว.คมนาคม จาก ‘พรรคเพื่อไทย’ เป็นกำกับดูแลนั้น จะเดินหน้าฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดิน ‘เขากระโดง’ เป็น ‘รายแปลง’ ต่อศาลยุติธรรม ตามข้อเสนอของ ‘กรมที่ดิน’ หรือไม่ อย่างไร

โดยเฉพาะที่ดินบริเวณ 'แยกเขากระโดง' แห่งนี้ มีที่ดินที่ถือครองโดยคนในตระกูล ‘ชิดชอบ’ ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง ‘พรรคภูมิใจไทย’ อย่างน้อย 12 แปลง เนื้อที่ 179 ไร่ และที่ดินดังกล่าวเป็นที่ตั้งของทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้าน

เรียกได้ว่างานนี้เป็นเผือกร้อนที่อยู่ในมือ ‘สุริยะ-รฟท.’ ก็คงไม่ผิดนัก?

อ่านประกอบ :

‘สุริยะ-รฟท.’ รอผลอุทธรณ์กรมที่ดิน ‘เขากระโดง’ - ‘วีริศ’ชี้ต้องรอบคอบ หวั่นโดน 157

บังคับคดีแล้ว! โชว์เอกสาร‘ศุภวัฒน์’คืนที่ดิน‘เขากระโดง’ 24 ไร่-ชดใช้‘รฟท.’ 4.8 ล้าน

มท.1ชี้ออกสัญญาเช่า 'เขากระโดง' พิสูจน์สิทธิก่อน-'กรมที่ดิน'ย้ำรถไฟฯไม่มีแผนที่ท้าย'พ.ร.ฎ.'

ฉบับเต็ม!หนังสืออุทธรณ์‘รฟท.’(จบ) ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ละเลยต่อหน้าที่ ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’

ฉบับเต็ม! หนังสืออุทธรณ์‘รฟท’(2) ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ใช้ดุลพินิจมิชอบ ไม่ถอนโฉนด‘เขากระโดง’

ฉบับเต็ม! หนังสืออุทธรณ์‘รฟท’(1) ที่ดิน‘เขากระโดง’เป็นของ‘รถไฟฯ’-ไม่ต้องพิสูจน์สิทธิ์อีก

'วีริศ' ส่งหนังสือถึง 'อธิบดีกรมที่ดิน' เพิกถอนมติคกก.สอบสวน 'เขากระโดง'

สอบเขากระโดงล่ม! กมธ.ที่ดินเผย องค์ประชุมไม่ครบก่อนขอมติ

‘เลขาฯกฤษฎีกา’ ชี้ต้องยึดคำพิพากษาเป็นหลัก ‘เขากระโดง’ ‘รฟท.-กรมที่ดิน’ แค่สื่อสารไม่ตรงกัน

‘กรมที่ดิน’ แจง ‘ที่ดินเขากระโดง’ ‘รถไฟ’ไร้เอกสารหลักฐานยืนยัน