คดีที่ 2!ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘สมเกียรติ วอนเพียร’ คราวนี้จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จกรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.กาญจนบุรี ปี 2562 ไม่แจ้งที่ดิน 1 แปลง เงินกู้ยืม 2 รายการ 5 ล้าน ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป องค์คณะเสียงข้างมาก จําคุก 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท อายุมาก เห็นควรปรานีให้รอลงโทษ ก่อนหน้าโดน ยื่นเท็จกรณีพ้นตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลสำรองสมัยสอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า นายสมเกียรติ วอนเพียร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดกาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ก่อนย้ายไปสังกัดสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และเป็นผู้สมัคร สส.กาญจนบุรีในการเลือกตั้งปี 2566 ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่ง สส. ปี 2562 ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมาก จําคุก 3 เดือน และปรับ 9,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพหลังจากไต่สวนพยานผู้ร้องแล้วเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจําคุก 2 เดือน และปรับ 6,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยรับโทษจําคุกมาก่อนและมีอายุมากแล้ว เห็นสมควรปรานีให้รอการลงโทษจําคุกไว้มีกําหนด 1 ปี
นายสมเกียรติไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 3 รายการ ได้แก่
1. ที่ดินโฉนดเลขที่ 15814 ตําบลวังขนาย อําเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่ 6 ไร่ 5 ตารางวา มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์
2. หนี้กู้ยืมจากนายฐิติวัฒน์ หลักแหลม จํานวนเงิน 4,000,000 บาท
3. หนี้กู้ยืมจากนางสาวมณฑา ยูงศิริกาญจน์ จํานวนเงิน 1,000,000 บาท
@ ก่อนหน้าคดีแรก ปกปิดทรัพย์สิน 30 รายการ จําคุก 4 เดือน ปรับ 1 หมื่น ให้รอลงโทษ
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า คดีนี้นับเป็นคดีที่สอง ก่อนหน้านี้ วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 นายสมเกียรติ วอนเพียร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการป.ป.ช.) ผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลสำรอง (วาระที่สอง) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นควรให้ลงโทษ จําคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี นายสมเกียรติไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวม 30 รายการ มูลค่า 52,190,332.23 บาท อ้างว่าไม่มีเจตนา หลงลืม ตกหล่น ศาลเห็นว่าทรัพย์สินที่ไม่ยื่นฯมีมูลค่าสูง ฟังไม่ขึ้น (คดีหมายเลขแดงที่ อม 16/2568 ) (ข่าวเกี่ยวข้อง: ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 4 เดือน ‘สมเกียรติ’อดีต สส.กาญจนบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้รอลงโทษ) สำหรับคำพิพากษาคดีล่าสุดมีรายละเอียดดังนี้
@เปิดคำพิพากษาละเอียด-ไม่แจ้งทรัพย์สิน-หนี้เงินกู้รวม 3 รายการ
คดีหมายเลขดําที่ อม.25/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม.20/2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง วันที่ 27 เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช 2568 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายสมเกียรติ วอนเพียร ผู้ถูกกล่าวหาเรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคําร้องและแก้คําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหาเป็นบุคคลคนเดียวกับผู้ถูกกล่าวหาใน คดีหมายเลขแดงที่ อม.16/2568 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167 และนับโทษคดีนี้ต่อจากโทษจําคุกของผู้ถูกกล่าวหาในคดีหมายเลขแดงที่อม.16/2568 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับผู้ถูกกล่าวหาในคดีที่ผู้ร้อง ขอให้นับโทษต่อ ระหว่างพิจารณา ผู้ถูกกล่าวหาขอถอนคําให้การเดิม และให้การใหม่เป็นรับสารภาพ
พิเคราะห์คําร้องประกอบเอกสารท้ายคําร้อง พยานหลักฐานที่คู่ความยอมรับกันและที่ผู้ร้องนําเข้าไต่สวนแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 และได้ปฏิญาณตนต่อที่ประชุม สภาผู้แทนราษฎรก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ตามประกาศคณะกรรมการการ เลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และบันทึกการประชุม สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 (สมัยประชุมสามัญประจําปีครั้งที่หนึ่ง) เอกสารหมาย ร.5 ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เนื่องจากลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามหนังสือสํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลาออก เอกสารหมาย ร.6 ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่ บรรลุนิติภาวะ เมื่อเข้ารับตําแหน่งและพ้นจากตําแหน่งต่อผู้ร้อง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มาตรา 28 (3) มาตรา 102 (1) และมาตรา 105 กรณีเข้ารับตําแหน่งดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ตามเอกสารหมาย ร.7 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 3 รายการ ได้แก่
1. ที่ดินโฉนดเลขที่ 15814 ตําบลวังขนาย อําเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่ 6 ไร่ 5 ตารางวา มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามสําเนาโฉนดที่ดินเอกสารหมาย ร.8
2. หนี้ผู้ถูกกล่าวหากู้ยืมจากนายฐิติวัฒน์ หลักแหลม จํานวนเงิน 4,000,000 บาท ตามสําเนาหนังสือสัญญาจํานองที่ดินเอกสารหมาย ร.9
3. หนี้ผู้ถูกกล่าวหากู้ยืมจากนางสาวมณฑา ยูงศิริกาญจน์ จํานวนเงิน 1,000,000 บาท ตามสําเนาหนังสือสัญญาจํานองที่ดินเอกสารหมาย ร.10
@ หากป่วยจริงไม่ใช่เหตุทำให้หลงลืมยื่นแสดงทรัพย์สิน
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้อง พร้อมหลักฐานที่พิสูจน์ความมีอยู่ จริงของทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งจัดทํารายละเอียดของเอกสารประกอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นด้วย และให้รวมถึงทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของ บุคคลอื่น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมด้วย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 105 วรรคหนึ่ง ได้ความตามทางไต่สวนว่า ผู้ถูกกล่าวหามีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 15814 และเป็นผู้ดําเนินการจดทะเบียน จํานองที่ดินแปลงดังกล่าว เพื่อเป็นประกันหนี้กู้ยืมจากนางสาวมณฑา ยูงศิริกาญจน์ จํานวน 1,000,000 บาท โดยให้ถือสัญญาจํานองเป็นหลักฐานการกู้ยืมซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้ถือสัญญาจํานองไว้หนึ่งฉบับ
ส่วนหนี้ที่ผู้ถูกกล่าวหากู้ยืมจากนายฐิติวัฒน์ หลักแหลม ในวันที่เข้ารับตําแหน่งยังคงมี ภาระหนี้ จํานวน 4,000,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาได้ถือสัญญาจํานองซึ่งให้ถือเป็นหลักฐานการกู้ยืม ไว้หนึ่งฉบับเช่นกัน อันเป็นทรัพย์สินและหนี้สินที่มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่สํานักงานที่ดิน เป็นชื่อของผู้ถูกกล่าวหาโดยตรง ง่ายแก่การที่ผู้ถูกกล่าวหาจะตรวจสอบหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินและหนี้กู้ยืมได้จากสัญญาจํานองที่อยู่ในความยึดถือของผู้ถูกกล่าวหาหรือที่สํานักงานที่ดิน และทราบได้ถึงการมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว ประกอบกับได้ความว่ามีการผ่อนชําระหนี้กู้ยืมทั้ง 2 รายการเรื่อยมา
แม้ผู้ถูกกล่าวหามีอาการป่วยด้วยโรคเลือดออกในสมอง ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 แต่ก็ได้ความตามใบรับรองแพทย์เอกสารหมาย ร.15 หน้า 899 ว่า ผู้ถูกกล่าวหา เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลธนบุรี เมื่อวันที่ 4 ถึง 6 มีนาคม 2562 แรกรับมีอาการซึม โต้ตอบ ช้า ต่อมาอาการค่อย ๆ ดีขึ้น โดยการรักษาแบบประคับประคองไม่ได้ผ่าตัด ซึ่งเป็นระยะเวลาก่อนที่ ผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องนานถึง 4 เดือน ระหว่างนั้นผู้ถูกกล่าวหากชนะ การเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และยังสามารถปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ได้ และหากอาการป่วยของผู้ถูกกล่าวหาเป็นเหตุขัดข้องทําให้ผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถรวบรวมตรวจสอบรายละเอียดทรัพย์สินและหนี้สินได้ถูกต้องครบถ้วน ผู้ถูกกล่าวหาก็น่าจะขอขยายระยะเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ข้อ 13 เอกสารหมาย ร.4 แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้อ้างเหตุดังกล่าวเพื่อขอขยายระยะเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ทําให้ไม่น่าเชื่อว่าอาการป่วยดังกล่าวจะเป็นเหตุให้หลงลืมแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามคําร้อง
และถึงแม้บุตรของผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ครอบครองทําประโยชน์ในที่ดินที่จํานองและเป็นผู้ผ่อนชําระหนี้ให้แก่นางสาวมณฑาตามที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างในชั้นตรวจสอบทรัพย์สินก็ตาม กรณีดังกล่าวก็หาใช่เหตุอันเป็นอุปสรรคขัดขวางการตรวจสอบรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวได้จากสัญญาจํานองซึ่งเป็นหลักฐานการกู้ยืมที่ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้จํานองยึดถือไว้ ย่อมทําให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบได้ถึงการมีอยู่ของหนี้กู้ยืมจากนางสาวมณฑาซึ่งมีที่ดินดังกล่าวจํานองเป็นประกัน ข้ออ้างดังกล่าวของผู้ถูกกล่าวหาในชั้นตรวจสอบทรัพย์สินไม่อาจรับฟังได้ พยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนเมื่อรับฟังประกอบคําให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาแล้วมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ขณะยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ผู้ถูกกล่าวหารู้ถึงการมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินทั้ง 3 รายการตามคําร้อง แต่ไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทั้ง 3 รายการดังกล่าว อันเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ หนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 และมีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม
@ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป-จําคุก 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท อายุมาก ปราณีให้รอลงโทษคุก
พิพากษาว่า นายสมเกียรติ วอนเพียร ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมาก จําคุก 3 เดือน และปรับ 9,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพหลังจากไต่สวนพยานผู้ร้องแล้วเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจําคุก 2 เดือน และปรับ 6,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยรับโทษจําคุกมาก่อน และมีอายุมากแล้ว เห็นสมควรปรานีให้รอการลงโทษจําคุกไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ยกคําขอนับโทษต่อ
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่ ปี 2568
- ศาลสั่งคุกจริง 1 เดือน ‘นพดล’ ส.อบจ.นครนายก ยื่นไม่ครบ/ยื่นบัญชีฯเท็จ-เคยต้องคดีเก่า (21)
- ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน ‘อภิชัย’ นายกทต.ขุนกระทิง จ.ชุมพร ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (20)
- จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ! ศาลสั่งจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.ขามเปี้ย จ.ร้อยเอ็ด – ให้รอลงโทษ (19)
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 4 เดือน ‘สมเกียรติ’อดีต สส.กาญจนบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้รอลงโทษ (18)
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (17)
- ศาลฎีกา จำคุก 1 เดือน ‘ตรีวิเศษ’รองนายก อบจ.มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (16)
- คุก 2 เดือน-รอลงโทษ! นายก อบต.เขากอบ จ.ตรัง ยื่นบัญชีฯเท็จ-ไม่แจ้งเงินให้กู้ยืม 58 ล.(15)
- จำคุก 2 เดือน-ให้รอลงโทษ! ส.อบจ.พิจิตร ยื่นบัญชีฯเท็จ-ใช้ลูกชาย‘นอมินี’ถือหุ้นรับเหมา (14)
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 2 เดือน ‘นาวิน’ ส.อบจ.อุบลฯ จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ – ให้รอลงโทษ (13)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘พรชัย’ นายก อบจ.อุบลฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ นับโทษต่อ 2 คดีทุจริต (12)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน นายก อบต.ดงรัก จ.ศรีสะเกษ ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (11)
- องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ฯแก้โทษให้รอลงอาญา 2 ปี รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ (10
- ศาลฎีกาฯพิพากษานายก อบต.สมสะอาด จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน –รอลงโทษ (9)
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก อบต.นาคำใหญ่ จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน-รอลงโทษ (8)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ รองนายก อบต.บางกุ้ง จ.ตรัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง (7)
- ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘อาแซ มาหะมะ’ นายกเทศฯ ต.ตอหลัง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ (6)
- ศาลฎีกาพิพากษา ‘อนุชิต’ สท.เมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ จําคุก 2 เดือน รอลงโทษ (5)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน นายก อบต.หนองแสงใหญ่ จ.อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(4)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน ‘ขนบ’ นายกอบต.โนนทัน จ.หนองบัวฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(3)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ‘สมพงษ์’รองนายก อบต.ดอนกลาง มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(2)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘ชัชวาลย์ ’รองนายก อบจ.ตาก ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ-รอลงโทษ(1)
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2567 (เผยแพร่ 28 ม.ค.2567-12 ม.ค.2568)
- สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สิน 35 นักการเมืองท้องถิ่นปี 2567
- สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่นปี 2567 มีความผิด 35 ราย คุกจริง 2 คน
- ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองฉาง จ.อุทัยฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายกทต.ธาตุพนม ยื่นบัญชีฯเท็จ
- จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ อ้างป่วย! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายก อบจ.สมุทรสาคร-รอลงโทษ
- จำคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ ‘นันทนิตร’ สท.เมืองศิลา ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.ถ้ำ จ.พังงา ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ‘มะหมัดนีซัม บิลังโหลด’นายกเทศฯ ต.เจ๊ะบิลัง สตูล ยื่นบัญชีเท็จ จำคุก 1 ด.-รอลงโทษ
- ศาลพิพากษา ‘ทรงยศ’ รองนายกเทศฯ ต.นาชะอัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- ‘บุญชัย สีนานันท์’รองนายก อบต.ดอนจิก จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม ‘ไพร พัฒโน’ นายกฯนครหาดใหญ่ ยื่นบัญชีฯเท็จจำคุก 1 เดือน
- ศาลฎีกาพิพากษา ‘ศิริชัย กุลาศรี’ ส.อบจ.มหาสารคาม ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ให้พ้นตำแหน่ง ศาลฎีกาฯ จำคุก 2 เดือน! รองนายก อบต.คลองโคน ยื่นบัญชีเท็จ-รอลงโทษ
- ให้พ้นตำแหน่ง! รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 2 เดือน รอลงโทษ
- ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
- ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
- รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
- รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
- พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
- ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
- จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
- ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
- ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
- คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
- ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
- ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
- ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน