เปิดคำพิพากษา ศาลฎีกาฯ ‘นฤชัย ปราบกรี’ รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. ให้พ้นตําแหน่ง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดลชีพ จําคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ให้รอลงโทษ 1 ปี ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้ง 2 ครั้ง-เพิกเฉย พฤติการณ์บ่ายเบี่ยง อ้างป่วย แต่เข้าร่วมประชุม รับเงินเดือนได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ว่า นายนฤชัย ปราบกรี รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด อําเภอละงู จังหวัดสตูล ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด อําเภอละงู จังหวัดสตูล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด นับแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 อันเป็นวันที่ ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามมาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคท้าย กับมีความผิดตามมาตรา 167 ให้ลงโทษจําคุก 2 เดือน และ ปรับ 8,000 บาท องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากเห็นว่า ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี
มีรายละเอียดเรียบเรียงดังนี้
@ เปิดรายละเอียดคำพิพากษา
คดีหมายเลขดําที่ อม. 24 /2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม.28/2567
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
วันที่ 28 เดือน สิงหาคม พุทธศักราช 2567
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง
นายนฤชัย ปราบกรี ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคําร้องและแก้คําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ําผุด อําเภอละงู จังหวัดสตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตําแหน่ง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตามมาตรา 81 กับลงโทษตามมาตรา 167
ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ
พิเคราะห์พยานหลักฐานตามทางไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ประกอบรายงานการไต่สวนของผู้ร้อง และคําแถลงปิดคดีของผู้ร้อง
@ รับตำแหน่ง 14 ธ.ค.2564 เพิ่ง ยื่นบัญชีฯเมื่อ 2 ต.ค. 2566-มีอาการป่วย
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่คู่ความไม่โต้เถียงกันรับฟังเป็นยุติว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ําผุด อําเภอละงู จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 และยังคงดํารงตําแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นรองผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้อง เมื่อเข้ารับตําแหน่งและพ้นจากตําแหน่ง ภายใน 60 วัน นับแต่วันถัดจากวันเข้ารับตําแหน่งและพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 กับประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 ข้อ 4 กรณี 7) องค์การบริหารส่วนตําบล (2) รองนายกองค์การ บริหารส่วนตําบล ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตําแหน่งภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 และผู้ถูกกล่าวหาทราบว่ามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้ถูกกล่าวหาถูกกักกัน และควบคุมตัวเองไว้เพื่อสังเกตอาการ ตั้งแต่วันที่ 11 ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 และอีกครั้งวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 9 มีนาคม 2565 ตามสําเนาคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เอกสารหมาย ค.1 และ ค.2 ตามลําดับ ผู้ถูกกล่าวหาป่วยด้วยอาการภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมกด เบียดเส้นประสาทตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน
วันที่ 2 ตุลาคม 2566 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ตามสําเนาใบรับบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเอกสารหมาย ร.17 ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567
@ ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้ง 2 ครั้ง-เพิกเฉย
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่งรองนายกองค์การ บริหารส่วนตําบลน้ําผุด อําเภอละงู จังหวัดสตูล ตามคําร้องหรือไม่
พยานหลักฐานตามทางไต่สวนได้ความ จากนางสาวชญาภา ละอองมณี พยานผู้ร้องซึ่งขณะเกิดเหตุดํารงตําแหน่งเจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สิน ชํานาญการ สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูล เบิกความว่า พยานเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหากรณีเข้ารับตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด ก่อนหน้านี้สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูลได้ส่งแผ่นพับประชาสัมพันธ์วิธีการยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินโดยแจ้งตําแหน่งของผู้มีหน้าที่จะต้องยื่น ระยะเวลาที่จะต้องยื่น และวิธีการยื่นให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทราบแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ หนี้สินต่อผู้ร้องภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 สํานักงาน ป.ป.ช.ประจําจังหวัดสตูลจึงมีหนังสือ ฉบับลงวันที่ 29 มีนาคม 2565 และวันที่ 27 เมษายน 2565 แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและ กําหนดระยะเวลาให้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ โดยมีนางสมทรง ปราบกรี ภริยาของผู้ถูกกล่าวหา และนางบุปผา สระแก้ว พนักงานองค์การบริหาร ส่วนตําบลน้ำผุด ลงชื่อรับหนังสือแทน ตามใบตอบรับเอกสารหมาย ร.7 แผ่นที่ 2 และ ร.4 แผ่นที่ 2 ตามลําดับ ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย
@ ไม่รับทราบข้อกล่าวหา-ไม่แจ้งเหตุขัดข้อง
ต่อมาสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูลมีหนังสือลงวันที่ 17 มิถุนายน 2565 แจ้งผู้ถูกกล่าวหาให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาโดยมีนางสาวพัชรินทร์ ปราบกรี บุตรของผู้ถูกกล่าวหาลงชื่อรับหนังสือแทนตามใบตอบรับเอกสารหมาย ร.9 แผ่นที่ 2 แต่ ผู้ถูกกล่าวหาไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูลจึงมีหนังสือลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 แจ้งข้อกล่าวหาและส่งบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหา โดยมีนางสาวพัชรินทร์ลงชื่อเป็นผู้รับหนังสือแทนตามใบตอบรับเอกสารหมาย ร.10 และ ร.11 แผ่นที่ 3 แต่ผู้ถูกกล่าวหามิได้ชี้แจงข้อกล่าวหา
องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมาก เห็นว่า พยานผู้ร้องเบิกความไปตามหน้าที่ประกอบพยานเอกสารราชการ และผู้ถูกกล่าวหารับว่า ตนทราบว่ามีหน้าที่จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งภายใน 60 วัน นับถัดจากวันเข้ารับตําแหน่ง ซึ่งจะครบกําหนดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ทั้งแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินมีอยู่ที่ที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด ที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างเหตุไม่ สามารถยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้ทันภายในกําหนด เนื่องจากมีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมกดเบียดเส้นประสาทรุนแรงตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและ ปวดบริเวณขาอย่างรุนแรง ไม่สามารถนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน ๆ ได้ ต้องรักษาด้วยการทํา กายภาพบําบัดเป็นเวลาหลายเดือน และต่อมาผู้ถูกกล่าวหาติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ทําให้อาการป่วยภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมกดเบียดเส้นประสาทรุนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ อันเป็นเหตุสุดวิสัยทําให้ไม่สามารถจัดเตรียมเอกสารประกอบการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้ทันภายในกําหนดระยะเวลา แต่อาการป่วยตามที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่ามีภาวะกระดูกสันหลัง เสื่อมกดเบียดเส้นประสาทตั้งแต่ปลายปี 2563 ถึงปัจจุบัน ไม่ปรากฏหลักฐานการตรวจรักษาหรือ ใบรับรองแพทย์มายืนยันว่าในระยะเวลาระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ต้องยื่นนั้นผู้ถูกกล่าวหามีอาการเจ็บป่วยจนถึงขนาดไม่อาจทําการงานหรือประกอบกิจวัตรได้ตามปกติ คงมีเพียงใบรับรอง แพทย์ภายหลังจากวันครบกําหนด คือ ใบรับรองแพทย์ลงวันที่ 27 มีนาคม 2567 และวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ระบุว่ามีอาการปวดบั้นเอวร้าวลงขาสองข้าง มีอาการมากตอนที่นั่ง ยืน เดิน เป็น เวลานาน และยกของหนัก มิได้เจ็บป่วยจนถึงขนาดไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ดังเช่นคนพิการ ตามที่อ้าง
@ สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไปทํางาน เข้าร่วมประชุมที่ อบต.ได้ รับเงินเดือนตลอด
ข้อเท็จจริงกลับได้ความจากผู้ถูกกล่าวหาว่า ในช่วงที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินผู้ถูกกล่าวหายังคงมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ดี สามารถไปทํางานและเข้าร่วม ประชุมที่องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำผุดรวมทั้งลงชื่อในเอกสารได้โดยไม่ได้ลาราชการ และยังคงรับ เงินเดือนจากทางราชการมาตลอด
ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าป่วยด้วยโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) และถูกกักกันและควบคุมตัว ข้อเท็จจริงปรากฏจากพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหา ตามเอกสารหมาย ค.1 และ ค.2 เพียงว่ามีการกักกันและควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหา 2 ครั้ง เจ้าพนักงานให้เหตุผลว่าไว้สังเกตอาการ มิได้ระบุว่าผู้ถูกกล่าวหาติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) นอกจากนี้แล้วผู้ถูกกล่าวหาไม่มีหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาป่วยด้วยโรคดังกล่าวจริงและมีอาการร้ายแรงตามที่กล่าวอ้าง
ข้ออ้างว่ามีเหตุเจ็บป่วยของผู้ถูกกล่าวหาจนทําให้ไม่ สามารถยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้ จึงไม่มีน้ำหนักรับฟัง
@ ไม่ขวนขวาย ทิ้งเวลานานเป็นปี
ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้ถูกกล่าวหาได้ไปยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องตามสําเนาทะเบียนสําหรับผู้มาติดต่อราชการเอกสารหมาย ค.5 แล้ว แต่ยังขาดเอกสารเกี่ยวกับ หนี้สินของนางสมทรงจึงได้รับการปฏิเสธจากพนักงานเจ้าหน้าที่ของผู้ร้อง โดยบอกให้ผู้ถูกกล่าวหาไป ดําเนินการจัดทําเอกสารเข้ามาใหม่ ต่อมาในวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ผู้ถูกกล่าวหาไปยื่นบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องแล้วนั้น
เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความจากนางสาวชญาภา พยาน ผู้ร้องว่า ในวันดังกล่าวมีผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินมาติดต่อ ที่สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูล 21 ราย และได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 13 ราย และมายื่นเพิ่มเติมภายหลัง 2 ราย ส่วนอีก 5 ราย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบว่าต้องยื่นเอกสารใดบ้าง ต่อมา 5 ราย ก็ได้มายื่นแล้ว คงเหลือเพียงผู้ถูกกล่าวหา แสดงให้เห็นว่ามีการยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินได้ตามปกติ ดังนี้ หากผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยมีเอกสารประกอบพร้อมที่จะยื่นจริงดังที่อ้างแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูล ก็จะต้องออกหลักฐานใบรับบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ดังเช่นที่ผู้ถูกกล่าวหาไปยื่นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ตามเอกสารหมาย ร.17 กรณีไม่ปรากฏมูลเหตุอันใดที่ พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องเลือกปฏิเสธหรือกลั่นแกล้งไม่ยอมรับบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเฉพาะของผู้ถูกกล่าวหาแต่เพียงรายเดียวดังที่อ้าง ทั้งผู้ถูกกล่าวหาเบิกความรับว่า เมื่อขาด เอกสารของภริยา ผู้ถูกกล่าวหาก็กลับบ้าน
ข้อเท็จจริงจึงฟังได้เพียงว่า ผู้ถูกกล่าวหาไปที่สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูล เพื่อสอบถามวิธีการยื่นเบื้องต้นเท่านั้น แต่ยังมิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สิน และภายหลังจากนั้นแล้วก็ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ขวนขวายดำเนินการใด เพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอีกเลย คงปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยไปนานถึงปีกว่า จนผิดวิสัยของผู้ที่มีความประสงค์จะยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ หนี้สินอย่างจริงจัง ข้อเท็จจริงได้ความต่อไปว่า สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูล มีหนังสือแจ้งให้ ทราบว่าผู้ถูกกล่าวหายังไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ฉบับลงวันที่ 29 มีนาคม 2565 และวันที่ 27 เมษายน 2565 แจ้งให้ ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทราบและกําหนดระยะเวลาให้ยื่นภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ โดยมีนางสมทรง ภริยาของผู้ถูกกล่าวหา และนางบุปผา พนักงานองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด ลงชื่อรับหนังสือแทน ตามใบตอบรับเอกสารหมาย ร.7 แผ่นที่ 2 และ ร.8 แผ่นที่ 2 ตามลําดับ
แต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงเพิกเฉยไม่ได้ดําเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน หรือแจ้งเหตุขัดข้องให้ผู้ร้องทราบแต่ประการใด และเมื่อพิจารณาถึงหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 เอกสารหมาย ร.16 ข้อ 5 กําหนดวิธีการยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินไว้ 3 วิธี คือ จัดส่งด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นจัดส่งแทน จัดส่งทาง ไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับและยื่นบัญชีด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหากผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถยื่นได้ด้วยตนเอง ก็ย่อมมอบหมายให้บุคคลอื่นจัดส่งแทนหรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ตอบรับก็ได้ ยิ่งกว่านั้นหากผู้ถูกกล่าวหาเจ็บป่วยอาจอาศัยเหตุดังกล่าวอ้างเพื่อขอขยายระยะเวลายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินออกไปก็ได้ แต่ผู้ถูกกล่าวหามิได้ดําเนินการแต่อย่างใด
@ ข้ออ้างไม่ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา รับฟังไม่ได้
ต่อมา สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูล มีหนังสือแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามเอกสารหมาย ร.9 แผ่นที่ 2 และบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาตามเอกสารหมาย ร.11 แผ่นที่ 3 ผู้ถูกกล่าวหาก็มิได้ชี้แจงแสดงเหตุผลพร้อมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์เจตนาของตนเอง ซึ่งข้อนี้ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยได้รับหนังสือทั้งสี่ฉบับดังกล่าว โดยลายมือชื่อผู้รับที่ปรากฏอยู่ในใบตอบรับ เอกสารหมาย ร.7 แผ่นที่ 2 ไม่ใช่ลายมือชื่อของนางสมทรง ส่วนนางบุปผาที่ลงชื่อรับเอกสาร ใบตอบรับหมาย ร.4 แผ่นที่ 2 ก็เป็นพนักงานองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้าน ของผู้ถูกกล่าวหา และนางบุปผาไม่ได้นําเอกสารดังกล่าวมาให้ผู้ถูกกล่าวหา นอกจากนี้ลายมือชื่อผู้รับ หนังสือแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามเอกสารหมาย ร.9 แผ่นที่ 2 และบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาตามเอกสารหมาย ร.11 แผ่นที่ 3 ก็ไม่ใช่ลายมือชื่อของนางสาวพัชรินทร์นั้น
เห็นว่า สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสตูล ส่งหนังสือทั้งสี่ฉบับไปยังผู้ถูกกล่าวหาทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับที่ บ้านเลขที่ 121 หมู่ที่ 10 ตําบลน้ำผุด อําเภอละงู จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นที่อยู่ที่ปรากฏตามหลักฐาน ทางทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรของผู้ถูกกล่าวหา อันเป็นการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 109 และมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ ว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐ และการดําเนินคดีที่ เกี่ยวข้องกับการยื่นบัญชี พ.ศ. 2561 เอกสารหมาย ร.18 ข้อ 34 วรรคหนึ่ง แล้ว ประกอบกับ นางสมทรงเป็นภริยาของผู้ถูกกล่าวหา นางบุปผาเป็นพนักงานองค์การบริหารส่วนตําาบลน้าผุด และนางสาวพัชรินทร์เป็นบุตรของผู้ถูกกล่าวหา หากบุคคลทั้งสามไม่แจ้งชื่อและสถานะที่เกี่ยวพันกับผู้ถูกกล่าวหาเอง พนักงานไปรษณีย์ก็ไม่อาจระบุในใบตอบรับได้อย่างถูกต้อง แสดงว่าพนักงานไปรษณีย์ได้นําส่งและมีผู้รับแทนจริง
ทั้งไม่ปรากฏว่าพนักงานไปรษณีย์ผู้ส่งมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหาหรือมี เหตุอื่นใดที่จะไม่นําส่งเอกสารให้แก่ผู้ถูกกล่าวหา ที่นางสมทรงและนางสาวพัชรินทร์อ้างว่าไม่ใช่ ลายมือชื่อของตนนั้น เป็นเรื่องง่ายแก่การกล่าวอ้าง และบุคคลทั้งสองมิได้ว่ากล่าวดําเนินคดีแก่ผู้ที่ อ้างว่าปลอมลายมือชื่อของตนแต่อย่างใด จึงไม่มีน้ําหนักให้รับฟังเป็นความจริงได้
@ รับทราบแต่ไม่ดำเนินการ ความผิดสำเร็จ- ยื่นตามหลังถูก ชี้มูล ลบล้างการกระทำไม่ได้
ส่วนที่นางบุปผาลง ชื่อรับเอกสาร นางบุปผาเป็นพนักงานองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด เมื่อมีเอกสารราชการส่งมาถึง ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะที่ดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำผุดซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา จึงมีเหตุผลที่จะรับไว้เพื่อนําไปมอบให้แก่ผู้ถูกกล่าวหา เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบหนังสือทั้งสี่ฉบับ ด้วยเหตุผลที่ได้วินิจฉัยมาข้างต้น เมื่อผู้ถูกกล่าวหาทราบว่ามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ดําเนินการภายในเวลาที่ กฎหมายกําาหนดย่อมเป็นความผิดสําเร็จไปแล้ว แม้ภายหลังผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ก็ตาม แต่ก็เป็นการยื่นเมื่อพ้นเวลาตามที่กฎหมายกําหนด และเป็นการยื่นหลังจากที่ผู้ร้องมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 ย่อมไม่เป็นเหตุลบล้างการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาที่เกิดขึ้นแล้วให้ไม่เป็นความผิดไปได้
ยิ่งกว่านั้นนางสาวกรรณิการ์ ปราบกรี พยานผู้ถูกกล่าวหายังเบิกความว่า พยานเป็นผู้ไปยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแทนผู้ถูกกล่าวหา โดยผู้ถูกกล่าวหามิได้มอบหมาย อีกทั้งยังปรากฏว่าบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ก็เป็นเอกสารชุดเดียวกันกับที่ผู้ถูกกล่าวหามีอยู่แล้วเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งก็ยังคงขาดเอกสารอีกหลายรายการ แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ใส่ใจ และตระหนักต่อหน้าที่ที่จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องปฏิบัติ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน
พยานหลักฐานจากทางไต่สวนฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนดกรณีเข้ารับตําแหน่ง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นตามคําร้องของผู้ร้อง มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตาบลน้าผุด นับแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 อันเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ และถูกเพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคท้าย และการกระทําของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ หนี้สินและเอกสารประกอบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ําผุด ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย
@ พิพากษาให้พ้นจากตําแหน่ง-เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง-จําคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท
พิพากษาว่า นายนฤชัย ปราบกรี ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนา ไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด อําเภอละงู จังหวัดสตูล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำผุด นับแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 อันเป็นวันที่ ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามมาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคท้าย กับมีความผิดตามมาตรา 167 ให้ลงโทษจําคุก 2 เดือน และ ปรับ 8,000 บาท องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากเห็นว่า ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30.
ข่าวเกี่ยวข้องคดีอื่นก่อนหน้า
ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2566 (เผยแพร่ ม.ค.2566-26 ม.ค.2567) :
ปี 2566 ศาลฎีกาฯพิพากษา จนท.รัฐ-นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ 21 ราย
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ส.ท.เมืองปรกฟ้า จ.ชลบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน – รอลงโทษ
ศาลฎีกาคุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต.ไทรทอง จ.สระแก้ว ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน รองนายก ทต.เชิงเนิน จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
1 เดือน-รอลงโทษ นายกเทศฯต.นาดี หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
คำพิพากษาฉบับเต็ม! ไขคดี รองนายก อบต.กันจุ ปกปิดทรัพย์สินคู่สมรส ป.ป.ช.
ไม่ชัดแจ้ง! ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรองนายก อบต.กันจุ เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
ให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ รองนายก อบต.บ้านป้อม อยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกายืนคุก1 เดือน รอลงโทษ สท.นครสกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ในศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายก ทต.ต้นธง จ.ลําพูน ยื่นบัญชีฯเท็จ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รองนายก อบจ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก1 เดือน-รอลงโทษ
จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ –รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก1 เดือนนายก อบต.ศาลาลอย พระนครศรีอยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก1 เดือน-รอลงโทษรองนายก อบต.เฉลียง นครราชสีมาไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายกอบต.ป่าแก่บ่อหิน จ.สตูล ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ นายก ทต.ขวาว จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!นายกอบต.ศรีเทพ ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่ง จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านฉาง ปทุมธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!รองนายก อบต.โพนทอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯจำคุก1 เดือน รองนายกเทศฯ ต.บ้านค่าย จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
ชัดๆฉบับเต็ม! ศาลฎีกายืนคุก4 เดือนนายกเทศฯต.บางเสร่ รอลงโทษ เหมาะสมเป็นคุณมากแล้ว
เป็นคุณมากแล้ว! ศาลฎีกายืน จำคุก4 เดือน นายกเทศฯต.บางเสร่ ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับเต็ม! ยืนคุกจริง2 เดือน‘เกษม’ยื่นบัญชีฯเท็จ ทำไมไม่รอลงโทษ
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน‘เกษม นิมลรัตน์’ยื่นบัญชีฯเท็จ จำคุก 2 เดือนไม่รอลงโทษ
ศาลฎีกาจำคุก1 เดือน รอลงโทษ-ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เลขานายกอบจ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ซุกที่ดิน131 แปลง! ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตนายก อบต.บ้านกล้วย
โดนคดีที่สอง! ส.อบจ.อุทัยฯไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน คุก1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รอลงโทษ 1 ปี
จําคุก1 เดือนรอลงโทษ 1 ปี ปรับ 4,000 บ.! นายก อบต.ห้วยแห้ง สระบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีรองนายกเทศฯเมืองพัทลุงยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ-สั่งลงโทษไม่ได้
หลบหนี-ขาดอายุความ!ศาลฎีกายืน‘ยกคําร้อง’รองนายก อบต.สิงห์โคก ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น!ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายกเทศฯต.เชียงใหม่ซุกทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายก อบต.เขื่องคํา ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.