จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. ! ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘วิชัย จำปาทอง’ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ไม่แจ้งที่ดินเมีย 1 แปลง หนี้เงินกู้ ธกส. 5 รายการ ข้ออ้างมิได้มาระหว่างดำรงตำแหน่งฟังไม่ขึ้น ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีพิพากษาเมื่อ วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ว่า นายวิชัย จำปาทอง รองนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 กับมีความผิดตามมาตรา 167 ให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,0000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี
คดีหมายเลขดำที่ อม. 28/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 17/2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 26 เดือน มิถุนายน พุทธศักราช 2567
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง
นายวิชัย จำปาทอง ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
@ที่มา คำร้อง ป.ป.ช.
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงต่อผู้ร้อง แต่ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพันจากตำแหน่ง ขอให้เห้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
@ไม่แจ้งทรัพย์สินเมีย ที่ดิน 1 แปลง หนี้สินเงินกู้ 5 บัญชี
พิเคราะห์คำร้องประกอบเอกสารท้ายคำร้อง และคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 จึงมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งภายในวันที่ 2 เมษายน 2564 แต่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนางสมภารณ์ จำปาทอง คู่สมรส ซึ่งได้แก่ ที่ดินโฉนดเลขที่ 20364 ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด มูลค่าประมาณ 282,000 บาท และรายการหนี้สินจำนวน 5 บัญชี ซึ่งได้แก่ เงินกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพนมไพร ประเภทสินเชื่อเกษตรกรรม เลขที่บัญชี 8001926662893 จำนวน 50,000 บาท เลขที่บัญชี 8000966630237 จำนวน 50,000 บาท เลขที่บัญชี 800192631233 จำนวน 50,0000 บาท เลขที่บัญชี 800240093498 จำนวน 770,000 บาท และเลขที่บัญชี 8002966216086 จำนวน 102,660 บาท ผู้ร้องได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาลงนามรับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว
@ข้ออ้างไม่ได้มาระหว่างดำรงตำแหน่ง
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัย หรือไม่
ข้อเท็จเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ถูกล่าวหาดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัย จึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ในขณะนั้นต่อมาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่มาตรา 188 วรรคหนึ่ง ยังคงบัญญัติให้ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำหนดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ยังมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อไปจนกว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ จะกำหนดเป็นอย่างอื่น ผู้ถูกกล่าวหาพันจากตำแหน่งดังกล่าววันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายในวันที่ 2 เมษายน 2564
แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่งยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ซึ่งถือว่าเป็นวันกระทำความผิดภายหลังจากที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนางสมภารณ์ จำปาทอง คู่สมรส คือ ทรัพย์สินประเภทที่ดิน 1 แปลง และไม่แสดงรายการหนี้สินประเภทเงินกู้ของผู้ถูกกล่าวหารวม 5 บัญชี ซึ่งเป็นทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสมีอยู่ตั้งแต่วันเข้ารับตำแหน่งจนถึงวันพ้นจากตำแหน่ง โดยเฉพาะรายการทรัพย์สินประเภทที่ดิน ผู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคำว่าเป็นของคู่สมรสที่รับมรดกมาจากมารดา สำคัญผิดว่าเป็นทรัพย์สินที่มิได้ซื้อมาและเข้าใจว่าไม่ได้รับมาระหว่างดำรงตำแหน่ง ส่วนรายการบัญชีเงินกู้ดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหากู้ยืมเพื่อส่งบุตรเรียนหนังสือและเข้าใจผิดว่าเป็นรายการหนี้ไม่ได้เป็นรายการทรัพย์สิน มิใช่ทรัพย์สินที่ได้มา ระหว่างดำรงตำแหน่งและกู้ยืมมาก่อนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งมีการเพิ่มยอดเงินกู้เรื่อยมา จึงมิได้นำหนี้สินดังกล่าวมาแสดงในแบบรายการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน นั้น
@ข้ออ้างรับฟังไม่ได้
เห็นว่า ข้อเท็จจริงปรากฏตามรายงานการไต่สวนว่าผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสมีกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดินดังกล่าวเพียงแปลงเดียว โดยรับมรดกมาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2559 และยังได้นำไปจดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ของผู้ถูกกล่าวหาไว้ต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่ง ย่อมแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสทราบถึงการได้มาแห่งสิทธิและความมีอยู่แห่งทรัพย์สินดังกล่าวโดยตลอดเป็นอย่างดีแล้วจึงตกลงร่วมกันนำไปทำนิติกรรม ข้ออ้างว่ามิได้ชื้อมาและเข้าใจว่าไม่ได้รับมาระหว่างดำรงตำแหน่ง จึงขัดต่อพยานหลักฐานและขาดความสมเหตุสมผล ส่วนรายการหนี้สินประเภทเงินกู้ทั้ง 5 บัญชีนั้น ก็ล้วนแต่เป็นหนี้สินประเภทสินเชื่อเกษตรกรรมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพียงแห่งเดียวและสาขาเดียวกันทั้งหมด หากแต่ต่างบัญชีกันเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าของบัญชีและยังมีรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี โดยชำระหนี้เป็นประจำทุกปีในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่ง เช่นนี้
ย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบถึงความมีอยู่ของหนี้สินรายการดังกล่าวและมิใช่เรื่องยากหากผู้ถูกกล่าวหาจะตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลมาแสดงต่อผู้ร้อง ข้ออ้างว่ากู้ยืมเงินดังกล่าวมาเพื่อส่งเสียบุตร เข้าใจผิดว่าเป็นรายการหนี้ไม่ได้เป็นรายการทรัพย์สิน ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างดำรงตำแหน่งและกู้ยืมมาก่อนเข้ารับตำแหน่มีการเพิ่มยอดเงินกู้เรื่อยมา จึงมิได้นำมาแสดงในแบบรายการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน นั้น ย่อมไม่อาจรับฟังได้ ดังนั้น เมื่อการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งตำแหน่งทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์ อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ตำบลโพธิ์ชัย
มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัยตามมาตรา 167 ด้วย
@เพิกถอนสิทธิสมัครับเลือกตั้งตลอดชีพ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายวิชัย จำปาทอง ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ตำบล โพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 กับมีความผิดตามมาตรา 167 ให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,0000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30. ( คดีหมายเลขแดงที่ อม. 17/2567 วันที่ 26 มิถุนายน 2567 )
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินก่อนหน้า
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
- ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
- จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
- ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
- ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
- คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
- ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
- ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
- ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2566 (เผยแพร่ ม.ค.2566-26 ม.ค.2567) :
- ปี 2566 ศาลฎีกาฯพิพากษา จนท.รัฐ-นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ 21 ราย
- ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ส.ท.เมืองปรกฟ้า จ.ชลบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน – รอลงโทษ
- ศาลฎีกาคุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต.ไทรทอง จ.สระแก้ว ไม่ยื่นบัญชีฯ
- ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน รองนายก ทต.เชิงเนิน จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
- 1 เดือน-รอลงโทษ นายกเทศฯต.นาดี หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
- คำพิพากษาฉบับเต็ม! ไขคดี รองนายก อบต.กันจุ ปกปิดทรัพย์สินคู่สมรส ป.ป.ช.
- ไม่ชัดแจ้ง! ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรองนายก อบต.กันจุ เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
- ให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ รองนายก อบต.บ้านป้อม อยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ
- ศาลฎีกายืนคุก1 เดือน รอลงโทษ สท.นครสกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ
- องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ในศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายก ทต.ต้นธง จ.ลําพูน ยื่นบัญชีฯเท็จ
- ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รองนายก อบจ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก1 เดือน-รอลงโทษ
- จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ –รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯคุก1 เดือนนายก อบต.ศาลาลอย พระนครศรีอยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯสั่งคุก1 เดือน-รอลงโทษรองนายก อบต.เฉลียง นครราชสีมาไม่ยื่นบัญชีฯ
- ศาลฎีกาถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายกอบต.ป่าแก่บ่อหิน จ.สตูล ไม่ยื่นบัญชีฯ
- ศาลฎีกาฯสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ นายก ทต.ขวาว จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
- ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!นายกอบต.ศรีเทพ ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก1 เดือน ให้รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯสั่ง จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านฉาง ปทุมธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!รองนายก อบต.โพนทอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
- ศาลฎีกาฯจำคุก1 เดือน รองนายกเทศฯ ต.บ้านค่าย จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
- ชัดๆฉบับเต็ม! ศาลฎีกายืนคุก4 เดือนนายกเทศฯต.บางเสร่ รอลงโทษ เหมาะสมเป็นคุณมากแล้ว
- เป็นคุณมากแล้ว! ศาลฎีกายืน จำคุก4 เดือน นายกเทศฯต.บางเสร่ ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ
- คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับเต็ม! ยืนคุกจริง2 เดือน‘เกษม’ยื่นบัญชีฯเท็จ ทำไมไม่รอลงโทษ
- ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน‘เกษม นิมลรัตน์’ยื่นบัญชีฯเท็จ จำคุก 2 เดือนไม่รอลงโทษ
- ศาลฎีกาจำคุก1 เดือน รอลงโทษ-ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เลขานายกอบจ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯ
- ซุกที่ดิน131 แปลง! ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตนายก อบต.บ้านกล้วย
- โดนคดีที่สอง! ส.อบจ.อุทัยฯไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน คุก1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รอลงโทษ 1 ปี
- จําคุก1 เดือนรอลงโทษ 1 ปี ปรับ 4,000 บ.! นายก อบต.ห้วยแห้ง สระบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีรองนายกเทศฯเมืองพัทลุงยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ-สั่งลงโทษไม่ได้
- หลบหนี-ขาดอายุความ!ศาลฎีกายืน‘ยกคําร้อง’รองนายก อบต.สิงห์โคก ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
- อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น!ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายกเทศฯต.เชียงใหม่ซุกทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายก อบต.เขื่องคํา ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.