เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม คดี ‘ไพร พัฒโน’ นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. ซุกเงินฝาก 1 บัญชี หุ้น 9 แสน สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 1 เดือน ให้นับโทษต่อจากคุก 9 ปีคดีอาญากรณีจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา ว่า นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ (วาระที่ 2) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป จําคุก 2 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษตามให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาถูกคุมขังระหว่างพิจารณาในคดีนี้ซ้อนกับการรับโทษจําคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 58/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 การที่จะหักวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจําคุกในคดีนี้อีกจะเป็นการซ้ำซ้อน ทําให้การรับโทษจําคุกไม่เป็นไปตามความจริง
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากมีมติไม่หักวันที่ถูกคุมขังก่อนมีคําพิพากษาออกจากระยะเวลาจําคุกตามคําพิพากษา ให้นับโทษจําคุกคดีนี้ต่อจากโทษจําคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 58/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเบื้องต้นไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ย.2567 (ข่าวเกี่ยวข้อง: 'ไพร พัฒโน' รับสารภาพ! โดนคุกอีก1 ด.จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ ซุกหุ้น 9 แสน เงินฝากเมีย 8 พัน)
ล่าสุดนำรายละเอียดของคำพิพากษาฉบับเต็มมารายงาน
@ เปิดรายละเอียดคำพิพากษาฉบับเต็ม
คดีหมายเลขดําที่ อม. 13/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 30/2567
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
วันที่ 4 เดือน กันยายน พุทธศักราช 2567
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง
นายไพร พัฒโน ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคําร้องและแก้ไขคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรี นครหาดใหญ่ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและ เอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์ อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่ง (วาระที่ 2) ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา และลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167 กับขอให้นับโทษของ ผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้ต่อจากโทษของจําเลยในคดีอาญาหมายเลขดําที่ อท 2/2563 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 58/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
@ ไม่แจ้งเงินฝาก 1 บัญชี หุ้น บ.สกูลมาสเตอร์ 900,000 บาท
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจําเลยในคดีที่ผู้ร้องขอให้นับโทษต่อ
พิเคราะห์คําร้องประกอบเอกสารท้ายคําร้อง คําให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหา และสํานวนการไต่สวนของผู้ร้องแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (วาระที่ 2) และพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562
ต่อมาวันที่ 29 มีนาคม 2562 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่ง โดยไม่แสดงบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) สาขาหาดใหญ่ใน บัญชีเลขที่ 590-267822-6 ชื่อบัญชี นางทิพวรรณ์ พัฒโน ซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยากับผู้ถูกกล่าวหา ยอดเงินคงเหลือ ณ วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชี 8,411.54 บาท และไม่แสดงหุ้นใน บริษัท สกูลมาสเตอร์ (กรุงเทพ 2002) จํากัด ของผู้ถูกกล่าวหา จํานวน 18,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 50 บาท รวมมูลค่า 900,000 บาท ผู้ร้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบแล้ว ผู้ถูกกล่าวหามีหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาต่อผู้ร้อง
@ ชี้พฤติการณ์ทราบความมีอยู่จริงของบัญชีเงินฝาก
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรี นครหาดใหญ่ จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและ เอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงต่อผู้ร้องเมื่อพ้นจากตําแหน่ง
ทั้งนี้ คู่สมรสนั้นให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสด้วย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 วรรคหนึ่ง (9) และวรรคสอง กับมาตรา 105 วรรคสาม (1) ประกอบประกาศคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและ หนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) สาขาหาดใหญ่ใน บัญชีเลขที่ 590-267822-6 ชื่อบัญชี นางทิพวรรณ์ พัฒโน ซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยากับผู้ถูกกล่าวหา ยอดเงินคงเหลือ ณ วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชี 8,411.54 บาท โดยปรากฏข้อเท็จจริงจากบันทึกถ้อยคําของนางทิพวรรณ์ในสํานวนการไต่สวนของผู้ร้องว่า บัญชีเงินฝากดังกล่าวเป็นบัญชีรายได้หลัก อันเกิดจากกิจการโรงเรียนนานาชาติของนางทิพวรรณ์ และเป็นบัญชีที่ใช้ทําธุรกรรมเกี่ยวกับรายจ่ายของกิจการโรงเรียนดังกล่าวกับค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
สอดคล้องกับรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีที่มีรายการทําธุรกรรมฝากและถอนเงินเป็นประจําต่อเนื่องมานับตั้งแต่ปี 2553 ถึงปี 2561 มีมูลค่ารวมหลายล้านบาท โดยเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาระหว่างการดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ของผู้ถูกกล่าวหา ทั้งสองวาระ และเป็นช่วงเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหายังคงอยู่กินฉันสามีภริยากับนางทิพวรรณ์ อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหาเคยแสดงบัญชีเงินฝากของนางทิพวรรณ์ดังกล่าวไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบที่ยื่นต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งในวาระที่ 1 มาแล้ว และในวันที่ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งในวาระที่ 2 นั้นยังไม่มีการปิดบัญชีเงินฝากดังกล่าว พฤติการณ์เชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบถึงความมีอยู่ของบัญชีเงินฝากดังกล่าวเป็นอย่างดี
@ ถือหุ้นบ.สกูลมาสเตอร์ฯตั้งแต่ก่อตั้งย่อมทราบดี
ในส่วนของหุ้นในบริษัท สกูลมาสเตอร์ (กรุงเทพ 2002) จํากัด ของผู้ถูกกล่าวหา จํานวน 18,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 50 บาท รวมมูลค่า 900,000 บาท นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงจากข้อมูลนิติบุคคลของสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลาในสํานวนการไต่สวนของผู้ร้องว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2545 ผู้ถูกกล่าวหากับพวกร่วมกันจัดตั้ง บริษัทดังกล่าวขึ้นและปรากฏชื่อผู้ถูกกล่าวหาร่วมถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวมาโดยตลอด คงมีในปี 2553 ปี 2554 และปี 2557 เท่านั้นที่ไม่มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือหุ้น แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาผู้ถูกกล่าวหามีชื่อถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวโดยตลอดไม่ขาดช่วงจนถึงวันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง ผู้ถูกกล่าวหายังเคยลงลายมือชื่อในฐานะกรรมการบริษัทในคราวยื่นจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนหลายครั้ง อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหานําที่ดินของตนเองจดทะเบียนจํานองเป็นประกันหนี้ของบริษัทดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหามีความเกี่ยวข้องทั้งในการบริหารกิจการในฐานะผู้แทนนิติบุคคลและมีส่วนได้เสียในทางทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัทโดยตรง พฤติการณ์เชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบดีว่า ผู้ถูกกล่าวหายังคงมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว
การที่ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่มาแล้วถึงสองวาระ ย่อมต้องทราบถึงความสําคัญของการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินว่าเป็นมาตรการสําคัญในการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินในระหว่างเข้ารับตําแหน่งและพ้นจากตําแหน่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ถูกกล่าวหากลับไม่แสดงรายการทรัพย์สินกรณีพ้นจาก ตําแหน่งในวาระที่ 2 ให้ครบถ้วน ทําให้ผู้ร้องไม่อาจเปรียบเทียบการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของทรัพย์สินและหนี้สินในระหว่างการดํารงตําแหน่งได้อย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย เมื่อพิจารณาประกอบกับคำให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว กรณีจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มา แห่งทรัพย์สินทั้งสองรายการตามคําร้อง
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องถูก เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม และการกระทําของ ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย
@ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดชีพ จำคุก 2 เดือน ลดเหลือ 1 เดือน ให้นับโทษต่อจากโทษจําคุกในคดีศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 9
พิพากษาว่า นายไพร พัฒโน ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (วาระที่ 2) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จําคุก 2 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาถูกคุมขังระหว่างพิจารณาในคดีนี้ซ้อนกับการรับโทษจําคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 58/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 การที่จะหักวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจําคุกในคดีนี้อีกจะเป็นการซ้ำซ้อน ทําให้การรับโทษจําคุกไม่เป็นไปตามความจริง
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากมีมติไม่หักวันที่ถูกคุมขังก่อนมีคําพิพากษาออกจากระยะเวลาจําคุกตามคําพิพากษา ให้นับโทษจําคุกคดีนี้ต่อจากโทษจําคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 58/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่มีคำพิพากษากลับให้ลงโทษจำคุก เป็นเวลา 9 ปี นายไพร พัฒโน กรณีถูกกล่าวหาดำเนินงานโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 เนื่องจากเห็นว่ามีการกระทำผิดหลายกรรม และริบเงินที่เกี่ยวข้องในมูลนิธิสิรินธรราชวิทยาลัย ส่วนที่ขาดไปจำนวน 14,500,000 บาท โดยศาลฏีกา พิพากษาจำคุก นายไพร พัฒโน ตามฟ้องข้อ 1 ว่า จำเลยผิดตาม ปอ.151 จำคุก 5 ปี จำคุกตามฟ้องข้อ 5 ข้อ 6 กระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 9 ปี ไม่รอลงอาญา นอกจากนี้ ให้ริบเงิน 26,900,000 บาท จำเลยโอนคืนไปบางส่วน 12,400,000 บาท ยังคงให้ริบ ส่วนที่ขาด 14,500,000 บาท นับโทษต่อ 2 คดี คดีแรก 9 ปี คดีสอง 1 เดือน เท่ากับ 9 ปี 1 เดือน ปัจจุบัน นายไพร พัฒโน อยู่ระหว่างรับโทษจำคุกคดีแรกในเรือนจำ
นอกจาก 2 คดีนี้แล้ว นายไพรยังถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลอีก 2 คดี คือ 1. คดีร่ำรวยผิดปกติเกี่ยวกับรายได้จากการเป็นนายหน้าขายที่ดิน 30 ล้านบาท และ 2. กรณีทุจริตหรือกระทำผิดต่อหน้าที่ในการเอื้อประโยชน์เอกชนดำเนินงานโครงการประมูลจ้างเหมาเอกชนจัดเก็บขยะมูลฝอย ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2550 (ข่าวเกี่ยวข้อง: 'ไพร พัฒโน' รับสารภาพ! โดนคุกอีก1 ด.จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ ซุกหุ้น 9 แสน เงินฝากเมีย 8 พัน)
อย่างไรก็ตาม การชี้มูลคดีที่เหลือของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหา ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
ข่าวเกี่ยวข้องคดีอื่นก่อนหน้า
ศาลฎีกาพิพากษา ‘ศิริชัย กุลาศรี’ ส.อบจ.มหาสารคาม ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง ศาลฎีกาฯ จำคุก 2 เดือน! รองนายก อบต.คลองโคน ยื่นบัญชีเท็จ-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง! รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 2 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2566 (เผยแพร่ ม.ค.2566-26 ม.ค.2567) :
ปี 2566 ศาลฎีกาฯพิพากษา จนท.รัฐ-นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ 21 ราย
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ส.ท.เมืองปรกฟ้า จ.ชลบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน – รอลงโทษ
ศาลฎีกาคุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต.ไทรทอง จ.สระแก้ว ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน รองนายก ทต.เชิงเนิน จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
1 เดือน-รอลงโทษ นายกเทศฯต.นาดี หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
คำพิพากษาฉบับเต็ม! ไขคดี รองนายก อบต.กันจุ ปกปิดทรัพย์สินคู่สมรส ป.ป.ช.
ไม่ชัดแจ้ง! ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรองนายก อบต.กันจุ เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
ให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ รองนายก อบต.บ้านป้อม อยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกายืนคุก1 เดือน รอลงโทษ สท.นครสกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ในศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายก ทต.ต้นธง จ.ลําพูน ยื่นบัญชีฯเท็จ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รองนายก อบจ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก1 เดือน-รอลงโทษ
จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ –รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก1 เดือนนายก อบต.ศาลาลอย พระนครศรีอยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก1 เดือน-รอลงโทษรองนายก อบต.เฉลียง นครราชสีมาไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายกอบต.ป่าแก่บ่อหิน จ.สตูล ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ นายก ทต.ขวาว จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!นายกอบต.ศรีเทพ ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่ง จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านฉาง ปทุมธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!รองนายก อบต.โพนทอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯจำคุก1 เดือน รองนายกเทศฯ ต.บ้านค่าย จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
ชัดๆฉบับเต็ม! ศาลฎีกายืนคุก4 เดือนนายกเทศฯต.บางเสร่ รอลงโทษ เหมาะสมเป็นคุณมากแล้ว
เป็นคุณมากแล้ว! ศาลฎีกายืน จำคุก4 เดือน นายกเทศฯต.บางเสร่ ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับเต็ม! ยืนคุกจริง2 เดือน‘เกษม’ยื่นบัญชีฯเท็จ ทำไมไม่รอลงโทษ
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน‘เกษม นิมลรัตน์’ยื่นบัญชีฯเท็จ จำคุก 2 เดือนไม่รอลงโทษ
ศาลฎีกาจำคุก1 เดือน รอลงโทษ-ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เลขานายกอบจ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ซุกที่ดิน131 แปลง! ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตนายก อบต.บ้านกล้วย
โดนคดีที่สอง! ส.อบจ.อุทัยฯไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน คุก1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รอลงโทษ 1 ปี
จําคุก1 เดือนรอลงโทษ 1 ปี ปรับ 4,000 บ.! นายก อบต.ห้วยแห้ง สระบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีรองนายกเทศฯเมืองพัทลุงยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ-สั่งลงโทษไม่ได้
หลบหนี-ขาดอายุความ!ศาลฎีกายืน‘ยกคําร้อง’รองนายก อบต.สิงห์โคก ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น!ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายกเทศฯต.เชียงใหม่ซุกทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายก อบต.เขื่องคํา ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.