คำพิพากษาศาลฎีกา ‘ศิริชัย กุลาศรี’ สมาชิกสภา อบจ.มหาสารคาม จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จตอนพ้นตำแหน่ง ไม่แสดงโฉนดที่ดิน 1 แปลง 296,000 บาท ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ว่า นายศิริชัย กุลาศรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภา อบจ.มหาสารคาม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1)
ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี
นายศิริชัยไม่แจ้งรายการทรัพย์สินโฉนดที่ดิน 1 แปลง ส่วนสลากออมสินของคู่สมรส 1,500,000 บาท นั้นศาลฎีกาฯเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหา แจ้งไว้แล้วในรายการเงินลงทุน มีรายละเอียดดังนี้
@ เปิดคำพิพากษาละเอียด
คำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม 20 /2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม 32 /2567
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 10 เดือน กันยายน พุทธศักราช 2567
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง
นายศิริชัย กุลาศรี ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง กับขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1) และมาตรา 167
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
@ ไม่แจ้งทรัพย์สินเมีย 2 รายการ
พิเคราะห์คำร้องประกอบสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้อง และคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งแล้ว และยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 แต่ผู้ร้องตรวจสอบแล้วเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนางจินตนา กุลาศรี คู่สมรส 2 รายการ ได้แก่ รายการสลากออมสินพิเศษ ธนาคารออมสิน สาขาวัชรพล เลขที่บัญชี 4000042035719 ชื่อบัญชี นางจินตนา กุลาศรี มูลค่า 1,500,000 บาท และรายการที่ดินโฉนดเลขที่ 2678818 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ 0-0-16.3 ไร่ มูลค่า 296,000 บาท ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ นางจินตนา กุลาศรี
@ ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งให้ยื่นฯให้ถูกต้องแต่ไม่จัดการ
ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาดำเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องให้ถูกต้องแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ดำเนินการ ผู้ร้องเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน จึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา ผู้ร้องจึงได้มีหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช. ลับ ด่วนที่สุด ที่ ปช. 0040(มค)/1118 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ส่งบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาไปให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปที่บ้านเลขที่ 70/166 ซอยรามอินทรา 65 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่อยู่ของผู้ถูกกล่าวหาตามแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร จากฐานข้อมูลการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐและการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการยื่นบัญชี พ.ศ. 2561 ข้อ 38 โดยผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาและมีหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นหนังสือต่อผู้ร้อง ตามหนังสือลงวันที่ 2 มิถุนายน 2564 ต่อมาผู้ร้องแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาอีกครั้งหนึ่ง ตามหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช. ลับ ด่วน ที่ ปช 0040(มค)/1048 ลงวันที่ 8 เมษายน 2565 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาและมีหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อผู้ร้อง ตามหนังสือลงวันที่ 30 เมษายน 2565
@ มีหน้าที่ต้องยื่น
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม หรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม จึงเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงต่อผู้ร้องภายในหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันเข้ารับตำแหน่ง และภายในหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 และประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ข้อ 11 (1) (2) ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐเป็นหน้าที่สำคัญที่เจ้าพนักงานของรัฐผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินและเพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานของรัฐ
ดังนั้น การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐกฎหมายจึงกำหนดให้เป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าพนักงานของรัฐที่จะต้องตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ให้ครบถ้วนก่อนยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง การที่ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินไม่แสดงรายการให้ครบถ้วน ย่อมเป็นเหตุให้ผู้ร้องมีเหตุขัดข้องในการตรวจสอบความมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส ครั้นเมื่อผู้ร้องตรวจพบและมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงและดำเนินการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องให้ถูกต้องครบถ้วน ผู้ถูกกล่าวหากลับไม่ดำเนินการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินให้ถูกต้อง อันเป็นพฤติการณ์ที่บ่งชี้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจปกปิดไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้น
@ สลากออมสิน 1.5 ล.ของเมียแจ้งไว้แล้วในรายการเงินลงทุน
ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่า เหตุที่ไม่แสดงรายการสลากออมสินพิเศษ และที่ดินโฉนดเลขที่ 26787818ของคู่สมรส เนื่องจากสลากออมสินเป็นของคู่สมรสและเก็บไว้โดยไม่แจ้งให้ตนทราบ ส่วนที่ดินเป็นของคู่สมรสและคู่สมรสได้นำไปจำนองไว้กับบริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จึงไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินทั้งสองรายการดังกล่าวด้วยนั้น สำหรับรายการสลากออมสินพิเศษ ธนาคารออมสิน สาขาวัชรพล เลขที่บัญชี 400042035719 ชื่อบัญชี นางจินตนา กุลาศรี จำนวน 1,500,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของคู่สมรสของผู้ถูกกล่าวหานั้น ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวกรณีพ้นจากตำแหน่งไว้แล้วเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ปรากฏตามบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 9 หน้าที่ 14 รายการที่ 3 ประเภทเงินลงทุน พร้อมเอกสารประกอบเป็นสำเนาสลากออมสิน ซึ่งมีรายละเอียดเลขบัญชีตรงกับรายการสลากออมสินที่ผู้ร้องบรรยายมาในคำร้อง จึงถือได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว กรณีจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าว
@ ที่ดิน 1 แปลง จำนองแบงก์ ลงชื่อใบบันทึกให้ความยินยอมในฐานะคู่สมรสย่อมทราบความมีอยู่จริง
อย่างไรก็ดี รายการที่ดินโฉนดเลขที่ 267818 นางจินตนาได้มาโดยการซื้อมาจากนายชวลิต ประตูน้ำขอนแก่น พร้อมตึกแถวสองชั้น เลขที่ 456/287 ขนาด 108 ตารางเมตร เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 และต่อมาวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 นางจินตนาได้นำที่ดินดังกล่าวไปจดทะเบียนจำนองไว้กับบริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดยผู้ถูกกล่าวหาได้ลงลายมือชื่อในบันทึกให้ความยินยอมในฐานะคู่สมรส ผู้ถูกกล่าวหาย่อมทราบดีถึงความมีอยู่ของที่ดินดังกล่าว ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหาจึงยังมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรสรายการดังกล่าวต่อผู้ร้อง
ประกอบกับผู้ร้องได้เคยมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาดำเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องให้ถูกต้องแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ดำเนินการการที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวจึงเป็นการจงใจยืนบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน จึงเป็นการกระทำที่ต้องบังคับตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม ที่ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย
@ จงใจยื่นเท็จ-เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายศิริชัย กุลาศรี ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30.
ข่าวเกี่ยวข้องคดีอื่นก่อนหน้า
ให้พ้นตำแหน่ง ศาลฎีกาฯ จำคุก 2 เดือน! รองนายก อบต.คลองโคน ยื่นบัญชีเท็จ-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง! รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 2 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2566 (เผยแพร่ ม.ค.2566-26 ม.ค.2567) :
ปี 2566 ศาลฎีกาฯพิพากษา จนท.รัฐ-นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ 21 ราย
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ส.ท.เมืองปรกฟ้า จ.ชลบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน – รอลงโทษ
ศาลฎีกาคุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต.ไทรทอง จ.สระแก้ว ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน รองนายก ทต.เชิงเนิน จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
1 เดือน-รอลงโทษ นายกเทศฯต.นาดี หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
คำพิพากษาฉบับเต็ม! ไขคดี รองนายก อบต.กันจุ ปกปิดทรัพย์สินคู่สมรส ป.ป.ช.
ไม่ชัดแจ้ง! ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรองนายก อบต.กันจุ เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
ให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ รองนายก อบต.บ้านป้อม อยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกายืนคุก1 เดือน รอลงโทษ สท.นครสกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ในศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายก ทต.ต้นธง จ.ลําพูน ยื่นบัญชีฯเท็จ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รองนายก อบจ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก1 เดือน-รอลงโทษ
จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ –รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก1 เดือนนายก อบต.ศาลาลอย พระนครศรีอยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก1 เดือน-รอลงโทษรองนายก อบต.เฉลียง นครราชสีมาไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายกอบต.ป่าแก่บ่อหิน จ.สตูล ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ นายก ทต.ขวาว จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!นายกอบต.ศรีเทพ ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่ง จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านฉาง ปทุมธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!รองนายก อบต.โพนทอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯจำคุก1 เดือน รองนายกเทศฯ ต.บ้านค่าย จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
ชัดๆฉบับเต็ม! ศาลฎีกายืนคุก4 เดือนนายกเทศฯต.บางเสร่ รอลงโทษ เหมาะสมเป็นคุณมากแล้ว
เป็นคุณมากแล้ว! ศาลฎีกายืน จำคุก4 เดือน นายกเทศฯต.บางเสร่ ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับเต็ม! ยืนคุกจริง2 เดือน‘เกษม’ยื่นบัญชีฯเท็จ ทำไมไม่รอลงโทษ
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน‘เกษม นิมลรัตน์’ยื่นบัญชีฯเท็จ จำคุก 2 เดือนไม่รอลงโทษ
ศาลฎีกาจำคุก1 เดือน รอลงโทษ-ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เลขานายกอบจ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ซุกที่ดิน131 แปลง! ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตนายก อบต.บ้านกล้วย
โดนคดีที่สอง! ส.อบจ.อุทัยฯไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน คุก1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รอลงโทษ 1 ปี
จําคุก1 เดือนรอลงโทษ 1 ปี ปรับ 4,000 บ.! นายก อบต.ห้วยแห้ง สระบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีรองนายกเทศฯเมืองพัทลุงยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ-สั่งลงโทษไม่ได้
หลบหนี-ขาดอายุความ!ศาลฎีกายืน‘ยกคําร้อง’รองนายก อบต.สิงห์โคก ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น!ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายกเทศฯต.เชียงใหม่ซุกทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายก อบต.เขื่องคํา ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.