ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ

070924 panom

ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์ เจริญราษฎร์’รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน จ.นครพนม อดีตผู้สมัคร สส.อนาคตใหม่ จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. ไม่แจ้งเงินฝาก โฉนดที่ดิน อาคาร 5 หลัง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ว่า นายพนมศิลป์ เจริญราษฎร์ รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน อําเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามมาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

นายพนมศิลป์เคยเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 2 นครพนม สังกัด พรรคอนาคตใหม่

070924 panom2

คำพิพากษาศาลฎีกา เรียบเรียงรายละเอียด ดังนี้

คดีหมายเลขดำที่ อม. 6/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 23/2567

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

วันที่ 17 เดือน กรกฎาคม พุทธศักราช 2567

ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง

นายพนมศิลป์ เจริญราษฎร์ ผู้ถูกกล่าวหา

เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

เปิดคำร้อง ป.ป.ช.

ผู้ร้องยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวลาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรคสอง (1), 167

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

ไม่แจ้ง เงินฝาก 1 บัญชี โฉนดที่ดิน 1 แปลง อาคาร 5 หลัง

พิเคราะห์คำร้องประกอบเอกสารท้ายคำร้องแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2555และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 มกราคม 25662 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งต่อผู้ร้องแล้ว กรณีพ้นจากตำแหน่งผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 25662

ผู้ร้องตรวจสอบแล้วพบว่ามีทรัพย์สิน 3 รายการที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ คือ

รายการเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)สาขาไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ชื่อบัญชีนายพนมศิลป์ เจริญราษฎร์ เลขที่บัญชี 4993-4-00087-7

รายการที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 8547 ตำบลท่าอุเทน (ที่ถูก โนนตาล) อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และรายการบ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

และอาคารไม่มีเลขที่จำนวน 5 หลัง

ผู้ร้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปให้ถ้อยคำและขอเข้าตรวจสอบทรัพย์สินรายการที่ 2 และที่ 3 ผู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ของผู้ร้องแล้วตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 13, 14 และ 17 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อผู้ร้อง แต่ยื่นเอกสารไม่ครบถ้วนและมีข้อมูลคลาดเคลื่อน วันที่ 23 มิถุนายน 2564 ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาตามกำหนดและให้ปากคำพร้อมกับชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อผู้ร้อง ตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 20 ผู้ร้องประชุมและมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 23

บัญชีเงินฝากมีเงินหมุนเวียน

ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ทั้งสามรายการตามคำร้องหรือไม่

เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมมนตรีตำบลท่าอุเทน มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัทรัพย์สินหรือหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 28 (3) ประกอบมาตรา 102 (9) และประกาศของผู้ร้อง เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 25661 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้องแล้ว แต่จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สินของผู้ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ร้องตามสำนวนคดีเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 22 มีทรัพย์สิน 3 รายการ คือ

รายการเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ชื่อบัญชีนายพนมศิลป์ เจริญราษฎร์เลขที่บัญชี 493-4-00087-7 ไม่ได้แสดงในรายการบัญชีทรัพย์สินทั้งที่มีรายการโอนเงินเข้าบัญชี100,000 บาท และมีรายการโอนเงินออกจากบัญชีหลายครั้ง โดยในวันพ้นจากตำแหน่งมีการโอนเงินออกจากบัญชีถึง 4 ครั้ง

ย่อมรู้อยู่แล้วเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง

ส่วนรายการที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 8547 ตำบลท่าอุเทน (ที่ถูก โนนตาล) อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และรายการบ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พร้อมอาคารไม่มีเลขที่จำนวน 5 หลังที่สร้างเพิ่มเติม นั้น นางแดงเล็ก เจริญราษฎร์ คู่สมรสผู้ถูกกล่าวหาขายให้แก่บุตรชายของพี่สาวนางแดงเล็กแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหากับนางแดงเล็กยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และเงินที่ใช้ก่อสร้างเพิ่มเติมเป็นของผู้ถูกกล่าวหาและนางแดงเล็กการก่อสร้างแล้วเสร็จระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหายังอยู่ในตำแหน่ง มีเพียงผู้ถูกกล่าวหากับคนในครอบครัวของผู้ถูกกล่าวหาใช้ประโยชน์ ทั้งยังเป็นผู้ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน

จากผลการตรวจสอบของผู้ร้องดังกล่าว แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาย่อมต้องทราบถึงความมีอยู่ของเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาไทยซัมมิท ทาวเวอร์ เลขที่บัญชี 993-4-00087-7 และทราบว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งสองรายการตั้งแต่ขณะอยู่ในตำแหน่งแล้ว

ที่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า เงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาไทยซัมมิท ทาวเวอร์ เลขที่บัญชี 493-4-00087-7 เดิมได้เปิดบัญชีที่สำนักงานพรรคการเมือง ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้รับสมุดเงินฝากตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน เข้าใจว่าทางพรรคจะเป็นผู้รายงานรายการทรัพย์สินส่วนนี้ ส่วนที่ดินโฉนดเลขที่8547 ตำบลท่าอุเทน (ที่ถูก โนนตาล) อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ระหว่างผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนางแดงเล็กคู่สมรสผู้ถูกกล่าวหาขายที่ดินแปลงดังกล่าวไปแล้ว และบ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 13ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และอาคารไม่มีเลขที่จำนวน 5 หลังที่สร้างเพิ่มเพิ่มเติมผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจว่าได้ขายให้หลานแล้ว การก่อสร้างเพิ่มเติมก็เป็นทรัพย์สินของหลาน จึงไม่น่าเชื่อถือ

ฟังได้ว่าจงใจยื่นบัญชีฯเท็จ

เมื่อฟังประกอบกับคำรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ฟังได้ว่าผู้ถูกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน ซึ่งมีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 25661 มาตรา 167 ด้วย

ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง-จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี

พิพากษาว่า นายพนมศิลป์ เจริญราษฎร์ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน อําเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามมาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30.

070924 panom1

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินก่อนหน้า:

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage