ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘บุญเลิศ ต่างสี’ นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินตอนพ้นตำแหน่ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี พฤติการณ์ ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งเพิกเฉย แถมย้ายที่อยู่ทำให้ติดต่อไม่ได้ มีคดีเก่าปี 2563 ยื่นเท็จ 2 ครั้ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายบุญเลิศ ต่างสี นายกเทศมนตรีตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินอหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสระโบสถ์ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
คำพิพากษามีรายละเอียดดังนี้
@ เปิดรายละเอียดคำพิพากษา
คดีหมายเลขดำที่ อม 19 /2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม.26 /2567
วันที่ 25 เดือน กรกฎาคม พุทธศักราช 2567
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้องนายบุญเลิศ ต่างสี ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167
ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพ.ศ. 2560 มาตรา 33 วรรคสาม ประกอบมาตรา 59 วรรคหนึ่ง
พิเคราะห์คำร้อง เอกสารท้ายคำร้อง คำเบิกความของนางสาวณัฐพร พันชีวงษ์ เจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ร้อง และพยานหลักฐานจากการไต่สวนแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 และผู้ถูกกล่าวหาแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาเทศบาลตำบลสระโบสถ์ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2554 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีเข้ารับตำแหน่งและพันจากตำแหน่งต่อผู้ร้อง
@ มีคดีเก่าปี 2563 ยื่นบัญชีฯเท็จ 2 ครั้ง ศาลฎีกาฯจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
ผู้ถูกกล่าวหาถูกร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งครั้งที่ 1 กรณีพ้นจากตำแหน่งครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่งครั้งที่ 2 ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 25542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่งครั้งที่ 2 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ตามสำเนาคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม. 27/2562 หมายเลขแดงที่ อม. 3/2563 เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 7
@ ไม่ยื่นอีกตอนพ้นตำแหน่ง-ป.ป.ช.แจ้ง 2 ครั้ง ไม่ยอมรับหนังสือ-ย้ายชื่อหลบเลี่ยง
หลังวันพ้นจากตำแหน่งตามคำพิพากษาผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในหกสิบวัน ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่ายังไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง 2 ครั้ง ตามหนังสือลงวันที่ 7 ตุลาคม 2563 และวันที่ 28 ตุลาคม 25263 แต่ละครั้งกำหนดระยะเวลาให้ดำเนินการยื่นภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับหนังสือ โดยส่งหนังสือทั้งสองฉบับไปที่บ้านเลขที่ 107/1 หมู่ที่ 5 ตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ภูมิลำเนาของผู้ถูกกล่าวหาตามแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร แต่ไม่สามารถส่งได้ ตามใบตอบรับไปรษณีย์แจ้งว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมรับหนังสือผู้ร้องมีหนังสือลงวันที่ 14 กันยายน 2565 แจ้งให้ผู้ถูกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 21 กันยายน 2565 ตามใบตอบรับไปรษณีย์แจ้งว่าผู้ถูกกล่าวหาย้ายที่อยู่ไม่สามารถส่งหนังสือได้ หลังจากนั้น ผู้ร้องมีหนังสือลงวันที่ 22 กันยายน 2565 แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหา โดยกำหนดให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ตามใบตอบรับไปรษณีย์แจ้งว่าผู้ถูกกล่าวหาย้ายที่อยู่ไม่สามารถส่งหนังสือได้ และผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ผู้ถูกกล่าวหาถูกย้ายชื่อเข้าอยู่ทะเบียนบ้านกลาง เลขที่ 135 ตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี
@ มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชี
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือสิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสระโบสถ์ตามคำร้องหรือไม่
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 21 กันยายน 2561 ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าวได้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพ.ศ. 2554 และยังคงกำหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่นต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลลสระโบสถ์ จึงเป็นผู้บริหารท้องถิ่นมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายและประกาศของผู้ร้องภายในหกสิบวัน นับแต่วันพ้นจากตำแหน่งตามประกาศของผู้ร้อง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ข้อ 11 (2)
@ ป.ป.ช.ให้โอกาส แต่ไม่ใส่ใจ
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 โดยถือได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ฟังคำพิพากษาและทราบว่าตนพ้นจากตำแหน่งแล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 40 ประกอบมาตรา 59 วรรคหนึ่ง ซึ่งภายหลังที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาแล้ว
ผู้ร้องมีหนังสือ 2 ฉบับ ตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 9 และ 10 ส่งไปที่บ้านเลขที่ 107/1 หมู่ที่ 5 ตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ภูมิลำเนาผู้ถูกกล่าวหาตามแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาพราบว่ายังไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบ และให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับหนังสือ อันเป็นการปฏิบัติตามระเบียบของผู้ร้องว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐและการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการยื่นบัญชีทรัพย์สิน พ.ศ. 2561 ข้อ 13 และข้อ 34 แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่รับหนังสือดังกล่าว พฤติการณ์ถือเป็นการประวิงที่จะไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและไม่ใส่ใจต่อหน้าที่ที่จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน อีกทั้ง ผู้ร้องยังมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาและแจ้งข้อกล่าวหาถึงผู้ถูกกล่าวหา โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามข้อ 37 และข้อ 38 ของระเบียบดังกล่าว แต่ปรากฏว่าหนังสือทั้งสองฉบับถูกตีกลับ และไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อผู้ร้องเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและเจตนาของตนแต่อย่างใด
@ พฤติการณ์ชัดเจตนา ไม่ยื่นบัญชีฯ
นอกจากนี้ ยังปรากฏอีกว่าผู้ถูกกล่าวหาถูกย้ายชื่อเข้ามาที่ทะเบียนบ้านกลางเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 หลังจากนั้นไม่ปรากฏว่าได้มีการย้ายชื่อเข้าไปอยู่ทะเบียนบ้านอื่นใดอีก ทำให้ไม่สามารถยืนยันที่อยู่ได้ ยิ่งบ่งชี้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หลบเลี่ยงไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นตามประกาศของผู้ร้องซึ่งมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายหลังพ้นจากตำแหน่งแล้ว ซึ่งการยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นมาตรการสำคัญเพื่อที่จะป้องปรามมีให้ผู้ใช้อำนาจรัฐใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งเมื่อเข้ารับตำแหน่งครั้งที่ 1 พ้นจากตำแหน่งครั้งที่ 1 และเข้ารับตำแหน่งครั้งที่ 2 ผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้องไว้แล้ว แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหารู้ว่าตนมีหน้าที่ต้องปฏิบัติดังนี้แล้ว แม้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 33 วรรคสาม จะถือว่าผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีรายละเอียดแห่งการปฏิเสธใดที่จะนำมาหักล้างข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำเบิกความของนางสาวณัฐพร และเอกสารที่ผู้ร้องอ้างประกอบการไต่สวน
@ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายบุญเลิศ ต่างสี ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินอหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากผู้ถูกกล่าวหาไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
ข่าวเกี่ยวข้องคดีอื่นก่อนหน้า:
ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2566 (เผยแพร่ ม.ค.2566-26 ม.ค.2567) :
ปี 2566 ศาลฎีกาฯพิพากษา จนท.รัฐ-นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ 21 ราย
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ส.ท.เมืองปรกฟ้า จ.ชลบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน – รอลงโทษ
ศาลฎีกาคุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต.ไทรทอง จ.สระแก้ว ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน รองนายก ทต.เชิงเนิน จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
1 เดือน-รอลงโทษ นายกเทศฯต.นาดี หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
คำพิพากษาฉบับเต็ม! ไขคดี รองนายก อบต.กันจุ ปกปิดทรัพย์สินคู่สมรส ป.ป.ช.
ไม่ชัดแจ้ง! ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรองนายก อบต.กันจุ เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
ให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ รองนายก อบต.บ้านป้อม อยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกายืนคุก1 เดือน รอลงโทษ สท.นครสกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ในศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายก ทต.ต้นธง จ.ลําพูน ยื่นบัญชีฯเท็จ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รองนายก อบจ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก1 เดือน-รอลงโทษ
จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ –รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก1 เดือนนายก อบต.ศาลาลอย พระนครศรีอยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก1 เดือน-รอลงโทษรองนายก อบต.เฉลียง นครราชสีมาไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายกอบต.ป่าแก่บ่อหิน จ.สตูล ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ นายก ทต.ขวาว จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!นายกอบต.ศรีเทพ ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่ง จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านฉาง ปทุมธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!รองนายก อบต.โพนทอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯจำคุก1 เดือน รองนายกเทศฯ ต.บ้านค่าย จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
ชัดๆฉบับเต็ม! ศาลฎีกายืนคุก4 เดือนนายกเทศฯต.บางเสร่ รอลงโทษ เหมาะสมเป็นคุณมากแล้ว
เป็นคุณมากแล้ว! ศาลฎีกายืน จำคุก4 เดือน นายกเทศฯต.บางเสร่ ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับเต็ม! ยืนคุกจริง2 เดือน‘เกษม’ยื่นบัญชีฯเท็จ ทำไมไม่รอลงโทษ
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน‘เกษม นิมลรัตน์’ยื่นบัญชีฯเท็จ จำคุก 2 เดือนไม่รอลงโทษ
ศาลฎีกาจำคุก1 เดือน รอลงโทษ-ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เลขานายกอบจ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ซุกที่ดิน131 แปลง! ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตนายก อบต.บ้านกล้วย
โดนคดีที่สอง! ส.อบจ.อุทัยฯไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน คุก1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รอลงโทษ 1 ปี
จําคุก1 เดือนรอลงโทษ 1 ปี ปรับ 4,000 บ.! นายก อบต.ห้วยแห้ง สระบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีรองนายกเทศฯเมืองพัทลุงยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ-สั่งลงโทษไม่ได้
หลบหนี-ขาดอายุความ!ศาลฎีกายืน‘ยกคําร้อง’รองนายก อบต.สิงห์โคก ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น!ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายกเทศฯต.เชียงใหม่ซุกทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายก อบต.เขื่องคํา ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.