สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่นปี 2567 มีความผิด 35 ราย คุกจริง 2 คน

picnewsasasasasas18 1 68

สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่นรอบปี 2567 ศาลฎีกาฯพิพากษามีความผิด 35 ราย จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-ยื่นเท็จ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพทุกราย จำคุก 1 - 2 เดือน ปรับ 3,500 - 8,000 บาท คุกจริง 2 คน ‘สาธินี’รองนายก อบจ.สกลนคร 6 เดือน -‘ไพร’นายกท.นครหาดใหญ่ 1 เดือนนับโทษต่อคดีเก่า ที่เหลือรอลงโทษรวด ตำแหน่งรองนายก อบต. มากสุด เพิ่มจากปี 2566 จำนวน 15 คดี

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวมคดีบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาในรอบปี 2567 ทั้งสิ้น 35 คดี โดยรวบรวมจากการเผยแพร่ของศาลฎีกาและการเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา ในช่วงวันที่ 1 ม.ค.2567 - 27 ธ.ค.2567 ศาลฎีกาฯพิพากษาให้มีความผิดตามคำร้องทั้งสิ้น 35 คดี โดยจำแนกเป็น

ตำแหน่ง

นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 2 คดี (ราย)

รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 12 คดี

สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) 3 คดี

นายกเทศมนตรี 3 คดี

รองนายกเทศมนตรี 7 คดี

เลขานุการนายกเทศมนตรี 1 คดี

ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ที่ปรึกษานายก อบจ.) 1 คดี

สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) 4 คดี

รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (รองนายก อบจ.สกลนคร) 1 คดี

เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (เลขานุการนายกฯอบจ.) 1 คดี

คำพิพากษา

ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปทุกราย

ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง 6 ราย

จำคุกคนละ 1 - 2 เดือน และปรับ 3,500 - 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปีทุกราย ยกเว้น 2 คดี ไม่รองการลงโทษ ได้แก่

1. คดีนางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร (อบจ.สกลนคร) จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯเท็จ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบจ.สกลนคร (ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน เงิน ฝาก 4 รายการ หนี้สิน 5 รายการ รวม 9 รายการ) พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 2 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดซ้ำในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง และผู้ถูกกล่าวหาเคยต้องคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 ของศาลนี้ซึ่งพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและรอการลงโทษ 1 ปี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 มาแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหายังกระทำความผิดในคดีนี้อีก ส่อแสดงว่าไม่หลาบจำ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุกให้ผู้ถูกกล่าวหาอีกและให้บวกโทษจำคุก 5 เดือนของผู้ถูกกล่าวหาที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 ของศาลนี้ เข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ เป็นจำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 6 เดือน. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 21/2567 วันที่ 10 ก.ค. 2567)

2. คดีนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯเป็นเท็จ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ (วาระที่ 2) พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 2 เดือน ลดโทษตามให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาถูกคุมขังระหว่างพิจารณาในคดีนี้ซ้อนกับการรับโทษจําคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 58/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 การที่จะหักวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจําคุกในคดีนี้อีกจะเป็นการซ้ำซ้อน ทําให้การรับโทษจําคุกไม่เป็นไปตามความจริง องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากมีมติไม่หักวันที่ถูกคุมขังก่อนมีคําพิพากษาออกจากระยะเวลาจําคุกตามคําพิพากษา ให้นับโทษจําคุกคดีนี้ต่อจากโทษจําคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 58/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 30/2567 วันที่ 4 ก.ย.2567 )

จำแนกพฤติการณ์

1.จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินฯ จำนวน 19 ราย (คดี) ได้แก่

1.1 นายโชคทวี หรือ วิษณุพงศ์ สุวรรณละ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู

1.2 นายสุรสิทธิ์ ธรรมภาษา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

1.3 นายชินกรณ์ สีเพ็ชร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลดูกอึ่ง อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด

1.4 นายณรงค์ชัย หรือ ณรงค์ บุษบา สมาชิกสภาเทศบาลเมืองเขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี

1.5 นายสาเหะแม สาเหะอูเซ็ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)หนองแรต อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี

1.6 นายสมาน รัญระนา ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด

1.7 นายปฐมพงศ์ ลือมาน๊ะ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วัด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

1.8 นายเหลือ โพธิ์ผา รองนายกเทศมนตรีตำบลโคกล่าม อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด

1.9 นางสุรางค์ทิพย์ ต่างสี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี (อบจ.ลพบุรี) อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี

1.10 นายเกษม ลาดกระโทก รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา

1.11 นายสุภัทร สิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองบัวใต้ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู

1.12 นายบุญเลิศ ต่างสี นายกเทศมนตรีตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จ.ลพบุรี

1.13 นายนฤชัย ปราบกรี รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) น้ำผุด อําเภอละงู จ.สตูล

1.14 นายบุญชัย สีนานันท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดอนจิก อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

1.15 นายทรงยศ ไทยประดิษฐ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลนาชะอัง อำเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร

1.16 นายวิระ นวลศรี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ถ้ำ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา

1.17 นางสาวนันทนิตร ทองเมืองน้อย สมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น

1.18 นายนิรุช ศรีนวลจันทร์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

1.19 นายสมประสงค์ กุลวงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) หนองฉาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี

2.จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จำนวน 16 ราย (คดี) ได้แก่

2.1 นายมานิช ประสงค์ดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกกรวด อ.ปากพลี จ.นครนายก

2.2 นายวรายุทธ์ รัตนะ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา

2.3 นายพิชัย บุญฐี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

2.4 นายเสรี ภูววิเชียรฉาย รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท

2.5 นายวิทยา เย็นแจ่ม เลขานุการนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี

2.6 นายเจริญพงษ์ พันธุพัฒนกูล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา (ส.อบจ.พังงา) จ.พังงา

2.7 นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร (อบจ.สกลนคร) จ.สกลนคร

2.8 นายวิชัย จำปาทอง รองนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด

2.9 นายณัฐวุฒิ พั้วช่วย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ (อบจ.เพชรบูรณ์) จ.เพชรบูรณ์

2.10 นายพนมศิลป์ เจริญราษฎร์ รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

2.11 นายอดีต สุกดิษฐ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

2.12 นายมนัส แพทย์จะเกร็ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองโคน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม

2.13 นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

2.14 นายศิริชัย กุลาศรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มหาสารคาม จ.มหาสารคาม

2.15 นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด นายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จ.สตูล

2.16 นายพินิจ ประเคนคะชา รองนายกเทศมนตรีตำบลธาตุพนม จ.นครพนม จ.นครพนม

(อ่านละเอียดในตารางท้ายเรื่องและลิงก์ข่าวประกอบ)

นอกจากนี้มี 1 คดี (ไม่รวม 35 คดี) ที่องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีคำพิพากษายกคำร้อง ภายหลังจากเมื่อวันที่ 4 ก.ย.2566 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกคำร้องคดี นายวริษฐ์ บุญรุ่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กันจุ อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นกรณีพ้นจากตำแหน่งฯ ไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบของนางสาวมยุรี นาคเมือง คู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภริยา จำนวน 6 รายการ ได้แก่ 1. บัญชีเงินฝากธนาคาร 6 บัญชี 2.หุ้นบริษัทนิยมชัยการเกษตร จำกัด 3. ที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง 9 แปลง 4.ห้องชุด 1 ห้อง 5. ยานพาหนะ 5 คัน และ 6. หนี้เบิกเงินเกินบัญชี 2 บัญชี

องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ฯที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีคำพิพากษา วันที่ 11 มิ.ย.2567 วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานจากการไต่สวนฟังไม่ได้ว่า ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหากับ นางสาวมยุรี ซึ่งจดทะเบียนหย่าขาดจากกันแล้วยังอยู่กินกันฉันสามีภริยา ดังนั้นผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่มีหน้าที่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของนางสาวมยุรี การที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนางสาวมยุรีด้วย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และไม่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นกรณีพ้นจากตำแหน่ง อันจะเป็นความผิดตามคำร้อง ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกคำร้องของผู้ร้องมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน (คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 4/2567)

เมื่อเทียบกับรอบปี 2566 คดีบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาในรอบปี 2566 ( 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2566) ทั้งสิ้น 23 คดี มีความผิดตามคำร้อง 21 คดี เป็นนักการเมืองท้องถิ่น 20 คดี เจ้าหน้าที่ของรัฐ 1 คดี และ ยกคำร้อง 2 คดี เป็นนักการเมืองท้องถิ่น 1 คดี และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 1 คดี (อ่านรายละเอียดในข่าวเกี่ยวของ: ปี 2566 ศาลฎีกาฯพิพากษา จนท.รัฐ-นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ 21 ราย)

เห็นได้ว่าปี 2567 คดีความผิดของนักการเมืองท้องถิ่นมีจำนวนเพิ่มขึ้นประมาณ 15 คดี

ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาคดีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ปี 2567

6 money page 0001 7 20 page 0001 7 20 page 0002 7 20 page 0003 7 20 page 0004 7 20 page 0005 7 20 page 0006 7 20 page 0007 7 20 page 0008 7 20 page 0009 7 20 page 0010 7 20 page 0011 7 20 page 0012 7 20 page 0013 7 20 page 0014 35 21 nacc page 0001