ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สาธินี ดาวศิริโรจน์’รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. เงินฝาก –เงินกู้ 9 รายการ คุก 1 เดือน พฤติการณ์กระทำผิดซ้ำหลายครั้ง คดีก่อนหน้าปี 2561 จำคุกรอลงโทษ 1 ปีแล้ว กลับมิหลาบจำ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่มีเหตุลดโทษอีก รวมจำคุกจริง 6 เดือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร (อบจ.สกลนคร) ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบจ.สกลนคร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดซ้ำในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง และผู้ถูกกล่าวหาเคยต้องคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 ของศาลนี้ ซึ่งพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและรอการลงโทษ 1 ปี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 มาแล้ว อันเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหา แต่ผู้ถูกกล่าวหายังกระทำความผิดในคดีนี้อีก ส่อแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่หลาบจำ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุกให้ผู้ถูกกล่าวหาอีก และให้บวกโทษจำคุก 5 เดือน ของผู้ถูกกล่าวหาที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 ของศาลนี้ เข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคหนึ่ง เป็นจำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 6 เดือน. มีรายละเอียดดังนี้
คำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม. 31/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 21/2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 10 เดือน กรกฎาคม พุทธศักราช 2567
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง
นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ถูกกล่าวหาใด้รับแต่งตั้งให้ดำรงดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การส่วนจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยไม่แสดงรายการบัญชีเงินฝาก 4 รายการ รายการหนี้เงินเบิกเกินบัญชี 1 รายการ และรายการหนี้เงินกู้ 4 รายการขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่ง ขอให้เห้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา และลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1) และ 163
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
@ ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน-หนี้สิน 9 รายการ
พิเคราะห์คำร้องประกอบเอกสารท้ายคำร้อง และคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินหลายรายการ ได้แก่ (1) เงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 2002417035 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ และน.ส. อรทัย คำเมือง จำนวน 65,32666.73 บาท (เฉพาะส่วนของผู้ถูกกล่าวหา) (2) เงินฝากธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020160310650 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 77,883.17 บาท (3) เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 5476523456 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 1000,292.29 บาท (4) เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 5472530518 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 306,980.14 บาท (5) หนี้เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 5473029374 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 2,906,042.61 บาท (6) หนี้เงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 54760078570 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 90,000 บาท (7) หนี้เงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 54760078651 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 15,475,215 บาท (8) หนี้เงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 48590063273 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 10,000,000 บาท และ (9) หนี้เงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 54772000309 ชื่อบัญชี น.ส. สาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 10,000,000 บาท
@ ป.ป.ช. ส่งหนังสือแจ้งยื่นให้ครบถ้วนกลับเพิกเฉย
ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งผู้ถูกกล่าวหาให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ครบถ้วน แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ดำเนินการ ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มารับทราบข้อกล่าวหาภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ร้องจึงมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว ต่อมาผู้ร้องมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจฮั่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร หรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร จึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 25446 มาตรา 4 มาตรา 32 และมาตรา 33 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ในขณะพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ต่อมาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 โดยมาตรา 188 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำหนดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ยังมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อไปจนกว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่น เมื่อผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งถือเป็นวันกระทำความผิดภายหลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินหลายรายการ
ข้อเท็จจริงปรากฏตามสำนวนคดีของผู้ร้องว่า รายการเงินฝากธนาคาร รายการหนี้เงินเบิกเกินบัญชี และรายการหนี้เงินกู้ธนาคาร มีเงินหมุนเวียนและมีการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่องทั้งยอดหนี้คงเหลือก็มีจำนวนมาก แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบถึงความมีอยู่ รายละเอียดและที่มาของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวเป็นอย่างดี อยู่ในวิสัยที่จะตรวจสอบรวบรวมและนำมาแสดงต่อผู้ร้องได้
@ จ.สกลนครน้ำท่วมใหญ่ ปี 2560 เอกสารสูญหาย ฟังไม่ขึ้น
ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อผู้ร้องว่า มอบหมายให้นิติกรขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครเป็นคนจัดการยื่นเอกสารให้ทั้งหมด และในปี 2560 จังหวัดสกลนครเกิดน้ำท่วมใหญ่ เอกสารต่าง ๆ เกิดความเสียหาย เป็นเหตุให้จำไม่ได้ว่ามีบัญชีที่ผู้ร้องให้ยื่นเพิ่มเติมนั้น เป็นข้อแก้ตัวที่เลื่อนลอย ทั้งมิใช่เหตุที่ผู้ถูกกล่าวหาจะปฏิเสธความรับผิดและหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องตรวจสอบรายการทรัพย์สินและหนี้สินและยื่นแสดงต่อผู้ร้องให้ถูกต้องครบถ้วน ประกอบกับเมื่อผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินนั้น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม
และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย
@ กระทำผิดซ้ำหลายครั้ง กลับไม่หลาบจำ ไม่มีเหตุรอการลงโทษ จำคุกจริง 6 เดือน
พิพากษาว่า นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามมาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดซ้ำในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง และผู้ถูกกล่าวหาเคยต้องคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 ของศาลนี้ ซึ่งพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและรอการลงโทษ 1 ปี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 มาแล้ว อันเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหา แต่ผู้ถูกกล่าวหายังกระทำความผิดในคดีนี้อีก ส่อแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่หลาบจำ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุกให้ผู้ถูกกล่าวหาอีก และให้บวกโทษจำคุก 5 เดือน ของผู้ถูกกล่าวหาที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 ของศาลนี้ เข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคหนึ่ง เป็นจำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 6 เดือน. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 21/2567 วันที่ 10 กรกฎาคม 2567)
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินก่อนหน้า
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2566 (เผยแพร่ ม.ค.2566-26 ม.ค.2567) :
ปี 2566 ศาลฎีกาฯพิพากษา จนท.รัฐ-นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ 21 ราย
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ส.ท.เมืองปรกฟ้า จ.ชลบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน – รอลงโทษ
ศาลฎีกาคุก 1 เดือน-รอลงโทษ! รองนายก อบต.ไทรทอง จ.สระแก้ว ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน รองนายก ทต.เชิงเนิน จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
1 เดือน-รอลงโทษ นายกเทศฯต.นาดี หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
คำพิพากษาฉบับเต็ม! ไขคดี รองนายก อบต.กันจุ ปกปิดทรัพย์สินคู่สมรส ป.ป.ช.
ไม่ชัดแจ้ง! ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีรองนายก อบต.กันจุ เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
ให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ รองนายก อบต.บ้านป้อม อยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกายืนคุก1 เดือน รอลงโทษ สท.นครสกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ ถอนสิทธิสมัครฯตลอดชีพ
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ในศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายก ทต.ต้นธง จ.ลําพูน ยื่นบัญชีฯเท็จ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รองนายก อบจ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก1 เดือน-รอลงโทษ
จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ –รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯคุก1 เดือนนายก อบต.ศาลาลอย พระนครศรีอยุธยา ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก1 เดือน-รอลงโทษรองนายก อบต.เฉลียง นครราชสีมาไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายกอบต.ป่าแก่บ่อหิน จ.สตูล ไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ นายก ทต.ขวาว จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!นายกอบต.ศรีเทพ ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่ง จำคุก1 เดือน รองนายก อบต.บ้านฉาง ปทุมธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ!รองนายก อบต.โพนทอง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯจำคุก1 เดือน รองนายกเทศฯ ต.บ้านค่าย จ.ระยอง ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ 1 ปี
ชัดๆฉบับเต็ม! ศาลฎีกายืนคุก4 เดือนนายกเทศฯต.บางเสร่ รอลงโทษ เหมาะสมเป็นคุณมากแล้ว
เป็นคุณมากแล้ว! ศาลฎีกายืน จำคุก4 เดือน นายกเทศฯต.บางเสร่ ยื่นบัญชีฯเท็จ รอลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับเต็ม! ยืนคุกจริง2 เดือน‘เกษม’ยื่นบัญชีฯเท็จ ทำไมไม่รอลงโทษ
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน‘เกษม นิมลรัตน์’ยื่นบัญชีฯเท็จ จำคุก 2 เดือนไม่รอลงโทษ
ศาลฎีกาจำคุก1 เดือน รอลงโทษ-ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เลขานายกอบจ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ซุกที่ดิน131 แปลง! ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตนายก อบต.บ้านกล้วย
โดนคดีที่สอง! ส.อบจ.อุทัยฯไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน คุก1 เดือน ปรับ 4,000 บ. รอลงโทษ 1 ปี
จําคุก1 เดือนรอลงโทษ 1 ปี ปรับ 4,000 บ.! นายก อบต.ห้วยแห้ง สระบุรี ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีรองนายกเทศฯเมืองพัทลุงยื่นบัญชีฯเท็จ ขาดอายุความ-สั่งลงโทษไม่ได้
หลบหนี-ขาดอายุความ!ศาลฎีกายืน‘ยกคําร้อง’รองนายก อบต.สิงห์โคก ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น!ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษายืน รองนายกเทศฯต.เชียงใหม่ซุกทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รองนายก อบต.เขื่องคํา ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.